3 พฤษภาคม 2547 14:00 น.
วิจิตร ภู่เงิน
เจ้าหอยโข่งพูดจาว่าปลาช่อน
ช่างกะล่อนหน้าม่อเป็นไฉน
แม่หอยขมแอบยิ้มอยู่ในใจ
ปลาซิวไล่ตะเข้ในหลึบหิน
ปลาสร้อยน้อยตามตื้อปลาแขยง
ใครกำแหงปลาชะโดตัดสิน
ปลากดว่ายล้อรอเหยี่ยวลงกิน
คุณปลาหมอยลยินแม่ปลาทอง
ปลากัดฟัดเหวี่ยงกับปลาฉลาม
ในห้วงน้ำขุ่นข้นน่าสยอง
ปลาฉลามสิ้นลมลงไปกอง
ในก้นหนองห้วยระหานบ้านปลา
ผักตบชวาร้องด่าบัวหลวง
แมงกระซอนตามทวงหนี้ปลาผา
ดูแมงดายิ้มเย้ยสุขอุรา
ปลาหมึกว่ายมาท้าต่อยปลาขาว
ปลาดุกยังขลุกขลิกอยู่ในครัว
ว่ายริมรั้วเก็บผักนั้นปลาดาว
ปลาตะเพียนปลานิลยังกินข้าว
แต่งเจ้าสาวสวยหรูปลาทับทิม
ปลากะพงตากผ้าที่หน้าบ้าน
หนุ่มปลาไหลเดินผ่านแอบส่งยิ้ม
ปลาแก้วใสแววว่ายเรียงอยู่ริม
ปาตี 2 ยังพิมพ์ งานส่งครู !
กาลครั้งหนึ่งมีเสียงสนทนาของธรรมชาติดังนี้
กวีมันชอบเอาเราไปนินทามั่วๆเรื่อยเลยว่าไหม ท่านธรรมชาติที่ 2 ธรรมชาติที่ 1 ว่า
ใช่แล้วละท่านธรรมชาติที่ 1 กวีมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่บ้าน้ำลายที่สุดในโลกา ธรรมชาติที่ 2 ว่า
แต่ในขณะนั้นกวีผ่านมาได้ยินพอดี จึงกล่าวออกไปว่า
ข้าแต่ท่านธรรมชาติทั้ง 3 ข้าน้อยนี้ยังเป็นเพียงแค่กวีเดียงสา .. ความรู้เท่ามูลเล็บ ขอท่านธรรมชาติชี้นำด้วย ท่านธรรมชาติทั้ง 3 นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ มองหน้ากวี .. ยิ้ม .. แล้วเดินจากไป
2 พฤษภาคม 2547 17:02 น.
วิจิตร ภู่เงิน
ไขว่สลับสับแข้งแย่งยึดยื้อ
เลี้ยงลูกดื้อหัวชนไม่สนหลัง
จะโดนชิงลูกไปครองระวัง
ซ้ำแล้วอาจได้นั่งม้าสำรอง
ฟุตบอลเป็นกีฬาเล่นเป็นทีม
ใช่ไล่ทิ่มแต่ใช้มันสมอง
โฉบกระชากเลื้อยเล่นเป็นทำนอง
เหมือนจังหวะเสียงกลองมีท่าที
เชื่อมั่นในทีมคือหัวใจหลัก
อีกพวกพรรคพร้อมใจไม่อวดดี
วิ่งช่วยกันส่งแย่งสามัคคี
ไม่เก่งแต่พาทีพูดเหน็บแหนม
ให้กำลังใจแม้ยามแพ้พ่าย
ลูกผู้ชายเรื่องนี้แค่กับแกล้ม
ชัยชนะมันเป็นเพียงของแถม
เรื่องเป็นแชมท์งวดใหม่คงไม่แก่
แม้ชนะก็อย่าเที่ยวอวดเบ่ง
ทำนักเลงคุยโวว่าตัวแน่
เพราะอาจไปเดินชนกับของแท้
จะร้องไห้หาแม่กินนมนอน
2 พฤษภาคม 2547 16:25 น.
วิจิตร ภู่เงิน
หอมไอดินกลิ่นอวลท้องทุ่งนา
พะยอมพาออกดอกให้ชวนชื่น
หว้าลูกดกมดแดงรังระรื่น
กระจาบบินหน้าตื่นหลบพรานไพร
อีแซวแซวนกเอี้ยงว่าเถียงถ้อย
ว่าช่างด้อยไมตรีหาที่ไหน
กระเต็นน้อยคอยเหยื่ออยู่ร่ำไป
ไม่สนใจเหยี่ยวกาบนฟ้าคราม
อวลอบสาปวัวควายในห้วยหนอง
ชะโดร้องสามช่ารอบพงหนาม
ปลาชิวน้อยใหญ่สุขใจเต้นตาม
ในห้วยน้ำสาครแสนบันเทิง
ตามผืนนาต้นกล้าฟ้อนระบำ
กบร่ายมนต์ฝนพร่ำฉ่ำหลังเพิง
ชาวนาต่างหน้าชื่นยิ้มรื่นเริง
ร้องรำเซิ้งกล่อมพนาหลับพลัน