26 เมษายน 2547 13:19 น.
วิจิตร ภู่เงิน
เจ้าหญิงชูยุเธออยู่ห้องข้างข้าง
วันที่ว่างว่างจะมีเสียงใสใส
ลอดบานเกร็ดออกมาจากข้างใน
คนห้องข้างสุขใจเมื่อได้ฟัง
แม้ดูซนแต่ปนน่ารักน่าชัง
คนห้องข้างได้แค่นั่งอมยิ้มหวาน
แอบฟังเสียงเจ้าหญิงมานมนาน
แม้แค่ผ่านบานเกร็ดห้องแต่สุขใจ
เสียงเจ้าหญิงทำคนห้องข้างหวั่นไหว
ละเมอละไมยิ้มคนเดียวในห้อง
วันไหนไม่ได้ยินเสียงเฝ้าแอบมอง
อยากฟังเสียงเจ้าหญิงร้องเพลงทุกวัน
เป็นความร่าเริงเบิกบานเป็นสีสัน
เติมเต็มให้ทุกวันแลดูสดใส
เพลงของเจ้าหญิงแม้ดังจากข้างใน
แต่ห้องข้างก็สุขใจแอบร้องตาม
23 เมษายน 2547 14:34 น.
วิจิตร ภู่เงิน
(อิแหมะ)
แหมะขอแค่พอทานนะหลานนา
ขอเป็นค่าซื้อข้าวปลาและหมากปูน
เงินที่หลานให้ผลบุญจงค้ำคูณ
ให้ตัวหลานจำรูญเจริญในการงาน
และขอให้หลานมีสุขส่องผ่องศรี
แม้ภัยมีมากล้ำกลายไม่มัวหมอง
ยศศักดิ์ศรีคนชื่นชมดั่งก้อนทอง
มีคนปองหมายร่วมเรียงเคียงคู่ใจ
สุขยามมีคู่ครองพี่น้องปกปัก
ญาติต่างรักช่วยค้ำชูให้กู่ก้อง
มีชื่อเสียงเป็นนายกบัลลังก์ครอง
คนทั้งผ่องต่างรักใคร่ร่วมยินดี
(อิหลาน)
พรของแหมะแม้ห่างไกลในความจริง
แต่ก็เหมือนมีบางสิ่งชื่นชูใจ
ย้ำเตือนหลานให้หมายมุ่งในเส้นชัย
แม้อยู่ไกลจะย่างเดินไม่ขลาดกลัว
แหมะจ๋าหลานลาแล้วแล้วนะแหมะ
เป็นสุขแท้แหมะช่วยให้ใจผยอง
ความมุ่งหวังหลับไหลกลับเรืองรอง
เป็นครรลองให้หลานเดินด้วยกำลัง
22 เมษายน 2547 18:42 น.
วิจิตร ภู่เงิน
เสียงปืนดังลั่นสนั่นก้องป่า
เธอทิ้งร่างแนบพสุธาหอบแผ่ว
อุตส่าห์สัญญาจะรักแน่แน่ว
มาทิ้งฉันไปแล้วเธอผู้โสภา
ความรักเพิ่งเกิดแต่ต้องลับลา
ในคราที่ต้นหญ้าชูไสว
เลือดของเธอหลั่งชโลมกิ่งใบ
หญ้าที่เขียวกลางไพรกลับแดงฉาน
แววตาของเธอดูเศร้าร้าวราน
หมดความชื่นบานเหมือนเมื่อวันนั้น
ร้องควาญครางโหยรำพึงรำพัน
จนเกินที่ฉันจะทนเฝ้ามองดู
จึงกระโจนออกจากที่หลบอยู่
หัวใจฉันพรั่งพรูในความร้าวรอน
คนหนอคนช่างไม่มีความอาทร
หัวใจฉันสั่นคอนจวนดับสลาย
เสียงปืนดังขึ้นคงเป็นนัดสุดท้าย
ที่ตัวฉันจะยังคงได้อยู่ฟัง
กระซิบบอกเธอน้ำตาพลันไหลหลั่ง
ที่สุดฉันยังอยู่เคียงข้างเสมอ
21 เมษายน 2547 13:44 น.
วิจิตร ภู่เงิน
ดอกไม้ส่งยิ้มให้ผีเสื้อแสนสวย
ดวงตะวันช่วยเจือจานไออุ่น
หมู่เมฆขาวส่งยิ้มละไมละมุ่น
ผืนดินผืนฟ้าเกื้อกูลกันและกัน
ธรรมชาติสมดุลด้วยพืชพันธุ์
เจ้านกน้อยลาวัลย์ฟ้อนรำร่าย
ฝูงปลาในลำน้ำใสแหวกว่าย
ทวนท้าทายกระแสน้ำเชี่ยววน
เมฆก่อตัวทะมึนเป็นเมฆฝน
ต้นกล้าร่ายมนต์เสกน้ำพรมฉ่ำ
ชาวนาเดินออกทุ่งข้าวเขียวปักดำ
เรไรร่ำร้อยเรียงเสียงพงไพร
พื้นพนาทุ่งหญ้าแสนกว้างไกล
ดอกหญ้าชูไสวผสมผสาน
มดน้อยงามรังสดใสชื่นบาน
ออกหาอาหารรอฤดูน้ำหลาก
20 เมษายน 2547 15:17 น.
วิจิตร ภู่เงิน
วันหนึ่งเธอมากับตระกล้าใบสวย
บอกฉันให้ช่วยซื้อหน่อยจะได้หมด
ซื้อไปกินมากมากเธอจะได้ลด
ขนมสีสวยสดนั้นเธอทำเอง
แต่ฉันก็หัวเราะและพูดอวดเบ่ง
ฉันก็เก่งทำขนมเองเหมือนกัน
ขนมครกทำด้วยทรายโน้นดูนั้น
ฉี่ฉันเมื่อตอนกลางวันเองละเธอ
เธอยิ้มและยื่นตระกล้าส่งมาให้
บอกฉันพาเธอไปตลาดที
รายการที่เธอจะซื้อของมากมี
เธอจึงให้ตัวฉันนี้มาช่วยถือของ
พอมาถึงตลาดสดที่ริมคลอง
จึงได้มองเห็นลูกตำลึงสีสุกใส
เธอเด็ดมามีเขียวแดงปนกันไป
ฉันยื่นตระกล้าส่งให้ดูเข้าที
เธอบ่นไปเก็บไปมือก็พลางชี้
ว่าตัวฉันนี้เป็นพ่อไม่เอาไหน
ปล่อยให้แม่เก็บคนเดียวอยู่ได้ไง
เดี๋ยวกลับไปไม่มีของอร่อยทาน
เธอพาฉันจับจ่ายซื้อของอยู่นาน
วันนี้กินขนมตาลแกงตำลึง
เธอบอกให้ฉันก่อไฟเธอจะนึ่ง
เสร็จแล้วจึงทำแกงตำลึงใส่ปลา
ฉันหยิบลูกตำลึงจากตระกล้า
รอเวลาที่เธอจะเรียกใช้
เมื่อเธอสั่งจะได้ยื่นให้เร็วไว
เธอดูพอใจสดใส .. ยิ้มแฉ่ง