19 พฤษภาคม 2546 11:27 น.
วิฆเณศ
เป็นคนไทยใช้ภาษาอย่าให้ผิด ไทยประดิษฐ์ใช้สื่อสารนานสมัย
คือสมบัติบรรพชนสู่คนไทย รู้ร่วมใจรักคุณค่าภาษาเรา
จะออกเสียงอักขระต้องฉะฉาน เยี่ยงบุราณได้สั่งสอนแต่ก่อนเก่า
อย่าผิดเพี้ยนเลียนฝรั่งพลั้งใจเบา จนอับเฉาอักษราภาษาไทย
ใช้ถ้อยคำต้องระวังและยั้งคิด อย่าเบือนบิดใช้ภาษาฝ่าสมัย
จะพูดเขียนควรแยบยลยังผลไป งานสัมฤทธิ์สมใจดังเจตนา
ภาษาคือสื่อดวงจิตคิดยลแยบ จงเนียนแนบคิดใส่ใจใช้ภาษา
จะส่งเสริมเพิ่มสำแดงแจ้งอัตตา ชี้คุณค่าแห่งตัวตนคนคนนั้น
ด้วยสำเนียงส่อภาษาวาจาเอ่ย ก็รู้เลยคิดไขว้เขวฤาเหหัน
จะสรรค์สร้างวางคุณค่าสารพัน เนืองอนันต์ภาษาดลผลทวี
จงลูกหลานใช้ภาษาอย่าดูถูก จงฝังปลูกภาษาไทยในวิถี
จงภูมิใจไทยธำรงคงปฐพี จงเจตน์พลีภาษาไทยใช้ถูกกาล
18 พฤษภาคม 2546 14:08 น.
วิฆเณศ
จากทุ่งนามาเป็นข้าวกี่ร้าวรวด กี่ใจปวดแปลบเจ็บกี่เหน็บหนาว
กี่น้ำตาขื่นขมกี่ตรมคราว จนเป็นข้าวรวงช่อลออตา
จากต้นเขียวเกลียวคลื่นดาษดื่นทุ่ง ถูกแต่งปรุงเป็นเหลืองทองแห่งท้องหล้า
คือทุ่งทองผองผลคนชาวนา เพาะผลิตต้นกล้ามาให้กิน
แม่โพสพศรีโสภาสง่าผล บันดาลดลข้าวไทยในทุกถิ่น
ได้หล่อหลอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงชีวิน เป็นอาจิณได้เจือจานอาหารคน
ทุกเม็ดข้าวคือคาวเหงื่อที่เจือแฝง บ่งแสดงถึงชาวนานำพาผล
และหลงรอยแรงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยทุกข์ทน ย้ำความจนทุกเม็ดรวงคือดวงจินต์
เป็นข้าวไทยได้ประกาศแห่งชาติกล้า ข้าวชาวนาเพาะผลิตดังจิตถวิล
เป็นสมบัติแสนล้ำค่าคู่แผ่นดิน เป็นชีวินชาวนาค่าควรเมือง
15 พฤษภาคม 2546 11:34 น.
วิฆเณศ
ประวัติศาสตร์ชาติจารึกนึกย้อนหลัง กาลเมื่อครั้งบ้านเมืองได้เคืองเข็ญ
เกิดสงครามแผ่นดินเดือดเลือดกระเซ็น วิบัติเป็นประชาราษฎร์อนาถทุกข์
พระเดชานุภาพองค์พระทรงภพ ล้ำเลิศจบแดนไตรนำไทยสุข
ราญอริศัตรูพาลทุกกาลยุค พระทรงปลุกปลอบขวัญชีวันไทย
มลายทุกข์ขุกเข็ญกระเด็นหลุด สัประยุทธ์ต้านไพรีพลียิ่งใหญ่
ขับช้างแรงเข้าแย้งยุทธ์สู้สุดใจ ชนะด้วยช้างศึกคึกลำพอง
ช้างจึงคู่พระบารมีศรีสง่า เคยเป็นตราสัญลักษ์ประจักษ์ผอง
ธงช้างเผือกประเทศไทยได้จำลอง คิอเขตครองสยามรัฐฉัตรธำรง
มาวันนี้ช้างถูกขับกับเมืองกว้าง ต้องแรมร้างพฤกษ์ไพรใจประสงค์
ศักดิ์สง่ามาสูญลดหมดศรีลง จากช้างทรงต้องซอมซ่อเดินขอทาน
หวังเศษเงินจากคนเมืองเพื่อเปลื้องหิว คลายท้องกิ่วสร้างภพใหม่ให้กล่าวขาน
แบกภาระช้างต้องเสี่ยงเลี้ยงชีพควาญ คือตำนานน่าปวดร้าวเรื่องฉาวเมือง
11 พฤษภาคม 2546 10:30 น.
วิฆเณศ
อยากว่ายแหวกเวิ้งฟ้าไปสุดฟ้า
อยากรู้ว่าฟ้าจรดจดตรงไหน
อยากปล่อยปลดลดวางสิ่งค้างใจ
อยากจะให้เป็นไปอย่างที่เป็น
หยิบใบไม้ใบหนึ่งพึงพินิจ
เขียวสนิทคือใบไม้ดั่งได้เห็น
เป็นใบไม้ใบหนึ่งซึ่งกระเด็น
ปลิดจากด้นหล่นเร้นเป็นใบไม้
แม้ใบไม้หลุดพ้นจากต้นหลัก
ก็ตระหนักถีงหล่นอยู่หนไหน
ว่าตนเคยยึดถือคือสิ่งใด
แต่วันนี้คงไม่เป็นเช่นนั้น
ไยชีวิตจึงลิขิตให้ติดยึด
ต้องอัดอึดออมฝืนกลืนอัดอั้น
หากยอมปล่อยให้เป็นเช่นใจมัน
ชีวิตคงผ่านผันอย่างง่ายดาย
10 พฤษภาคม 2546 20:38 น.
วิฆเณศ
ฉันเคยถูกผู้คนก่นกล่าวหา
มองสมเพชเวทนาดวงตาบอด
มีรักร้ายกร่อนใจคล้ายดังมอด
เข้าเล็ดรอดทำลายใจแหลกลาญ
ทุกถ้อยคำพร่ำพรอดอ้อนออดเอื้อ
คือยาพิษแฝงเจือน้ำผึ้งหวาน
จึงหลงดื่มลืมตนท้นดวงมาน
ถูกเผาผลาญใจเปลี้ยสูญเสียคน
ด้วยหลงคำพร่ำเพ้อเสมอรัก
แน่ตระหนักว่าจริงใจในทุกหน
เชื่อสนิทไม่ติดใจในเล่ห์กล
สุดท้ายตนต้องซมซานรักผลาญใจ
ฉันคนโง่ไม่ใช่เต็มใจโง่
ไม่ตอบโต้ถึงเธอทำกรรมผลักไส
โง่เพราะรักรักเธอตลอดไป
ใครจะว่าช่างใครใจรักเธอ