31 สิงหาคม 2548 15:03 น.
วาทิพย์
เธอ...เสมือนส่วนหนึ่งในชีวิต
เธอ...เป็นมิตรคู่จิตใจไม่เหินห่าง
เธอ...มีความจริงใจไม่ละวาง
เธอ...ร่วมสร้างทางฝันคู่กันมา
คือ...ความรักปราถนาดีที่มีให้
คือ...ดวงใจแบ่งปันสุขหรรษา
คือ...สิ่งดีที่มีอยู่คู่ชีวา
คือ...ของขวัญล้ำค่ากว่าสิ่งใด
เพื่อน...ที่ฉันรักยิ่งกว่าสิ่งอื่น
เพื่อน...หยิบยื่นหวังดีมีมาให้
เพื่อน...ร่วมทุกข์ร่วมสุขทุกคราไป
เพื่อน...ปลอบใจให้เราสู้อยู่นิรันดร์
รัก...ของเราจะคงดำรงอยู่
รัก...ของเราคู่เคียงใจไม่แปรผัน
รัก...ที่มีมอบให้กันและกัน
รัก...เพื่อนนั้นรักสนิทคิดถึงเธอ
เธอ...กับฉันต้องจากกันในวันก่อน
คือ...อารมณ์อาวรห่วงเสมอ
เพื่อน...ลาไกลจำพรากอยากพบเจอ
รัก...เสมอตราตรึงไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
30 สิงหาคม 2548 16:08 น.
วาทิพย์
โคลงโคลงโคลงโคล่งโคล้ง โคลงโขลง
โคลงโคล่งโคลงโขลงโคลง โขล่งโขล้ง
โคลงโคลงโขล่งโคลงโขลง โคลงโขล่ง โคลงโคลง
โคลงโคล่งโคลงโคลงโคล้ง โขล่งโคล้งโขลงโขลง
เสียงใครครวญคร่ำเพ้อ เพลงโคลง
กลั่นหยดแล้วหยาดโยง ยะเยือกถ้อย
เรียงคำร่ำจรรโลง ใจรัก
อาบเสน่ห์อรรถรสร้อย อิ่มสร้อยวรรณศิลป์
รินโคลงมาดื่มเคล้า คลอนวล
ขวัญพ่ออย่ากำสรวล โศกกล้ำ
รักเรียมไม่เรรวน รักยิ่ง โคลงนา
มาพ่อฟังโคลงซ้ำ ซบหน้าอิงสมร
ฉันเอาฟ้าห่มให้ หายหนาว
..........................................อังคาร กัลยาณพงศ์ ปณิธานกวี)
จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย
..........................................(สุนทรภู่โคลงนิราศสุพรรณ)
คือรักหยาดแสงดาว ลงประดับ
..........................................(เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ - หฤโหดหรรษ์)
พลางคะนึงนุชน้อย แน่งเนื้อนวลสงวน
..........................................(สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรสลิลิตตะเลงพ่าย)
กำศรวลศรีปราชญ์ร้าง แรมสมร
............................................โคลงกำศรวลศรีปราชญ์)
จากแม่รักฤๅรอน ขาดได้
...........................................(ลิลิตพระลอ)
ผจงรักร่ำโรยขจร จารึก
...........................................(ไพวรินทร์ ขาวงาม ฤดีกาล)
ร้อนใช่ร้อนไฟไหม้ พี่ร้อนกลกาม
...........................................(โคลงเจ้าเชียงใหม่)
เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย
............................................(ลิลิตพระลอ)
เสียงนุชพี่ฤๅใคร ใคร่รู้
............................................(เจ้าฟ้ากุ้ง บทเห่สังวาสและเห่ครวญ)
จึงถามแน่ทรามวัย มานี่ ไยฤๅ
............................................(กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส โคลงรามเกียรติ์)
ครั้นเมื่อทรงทราบกระทู้ ตรัสอ้อ! กระนั้นเหลอ
.........................................(ม.จ.จันทร์จิรายุ รัชนี บ่อนโคลงนายโต๊ะ ณ ท่าช้าง)
ดูหรือเรียมหลับแล้ว ช่างกระไร
เนื้ออุ่นเนื้อแอบไอ อกน้อง
มนต์โคลงหากหลงใหล ลืมโลก จริงนา
รักห่มรักร่วมห้อง ห่มแก้มเรียมหอม
เสน่ห์โคลงแม้นค้นพบ ขลังนัก
ใจจรดใจจึงจัก ประจักษ์แจ้ง
ใช่เพียงเอก-โทสลัก เจ็ด-สี่
สัมผัสหากเสแสร้ง ห่อนซึ้งวิญญาณโคลง
หทัยหวังโคลงคู่ฟ้า อมตะ
ดุจรักเรียมฤๅละ เลิกได้
แดฝังดั่งพันธะ ใดเทียบ
แม้นสวาทเรียมหม่นไหม้ อกไหม้โคลงมลาย
วันใดโคลงเสื่อมสิ้น อวสาน
เน่าเปื่อยเป็นตำนาน อดีตคล้าย
ผองกวีหยุดขับขาน โคลงคร่ำ ครึแฮ
ขอเป็นกวีคนสุดท้าย ร่ำร้อยโคลงนิรันดร์
โคลงโคลงโคลงโขล่งโขล้ง โคลงโคลง
โคลงโขล่งโคลงโคลงโขลง โคล่งโคล้ง
โขลงโคลงโคล่งโคลงโคลง โคลงโคล่ง
โคลงโขล่งโขลงโคลงโคล้ง โขล่งโคล้งโคลงโขลง.....
23 สิงหาคม 2548 11:16 น.
วาทิพย์
พ่อจ๋าหนูอายุสี่ขวบ
รายที่สอง
หนูเรียนอนุบาล แม่หาบคานขายส้มตำ
ตากแดดจนตัวดำ ต้องเลี้ยงลูกถึงสี่คน
พ่อตายไปหลายปี แม่ยังสาวหนุ่มยังสน
พ่อเลี้ยงก็เวียนวน คนเก่าไปคนใหม่มา
หนูไม่ต้องการพ่อ ทั้งพอใจใครนินทา
เป็นเด็กอนาถา กำพร้าพ่อก็ยินดี
ไยแม่จึงยัดเยียด หาพ่อใหม่ให้ทุกที
เผลอแม่เขาตบตี และเตะผางเข้าข้างฝา
วันนี้แม่ไม่อยู่ หนูแสนกลัวตัวสั่นชา
เขาจับหนูถ่างขา แล้วกดทับอย่างกลัดมัน
ข่มขู่กูจะฆ่า โอ้แม่จ๋าอยู่ไหนกัน
พี่กลับมาไม่ทัน หนูสิ้นฝันของวัยเยาว์
พ่อจ๋าอย่าทำหนู มึงลูกกูที่ไหนเล่า
แม่มึงกูเบื่อเอา นังพี่สาวจงเตรียมใจ!
น้ำตาหนูไหลพราก มันฝากหนองไว้กองใหญ่
กลีบอ่อนเกินชอนไช กระนั้นไซร้ใช่พ้นกรรม
บวมเป่งบาดแผลเปิด หนูตะเพิดไอ้ริยำ
โตขึ้นมึงจงจำ กูจะขย้ำหัวใจชาย!!
19 สิงหาคม 2548 10:15 น.
วาทิพย์
กลอนเสี่ยวๆ แต่งสดๆ เพื่อชีวิตรันทดแบบซึ้งๆ
ของคนที่ยังซิงๆ
ในยามที่เธอเศร้า
ใครกันเล่าคอยดูแล
ในยามที่เธอแพ้
ใครคอยแคร์และห่วงใย
ในยามที่เธอสุข
ไร้ความทุกข์โลกสดใส
แต่ยามเราเศร้าใจ
ใครรู้บ้างช่วยบอกที
อยากให้เธอไร้ทุกข์
สุขเกษมและเปรมปรีดิ์
แม้ว่าตัวเรานี้
จะโศกีและทุกข์ใจ
รู้เธอไม่แชเชือน
เธอคือเพื่อนที่ยิ่งใหญ่
ให้เธอจงสดใส
และ Good night หลับฝันดี
16 สิงหาคม 2548 16:06 น.
วาทิพย์
ฉันอยู่ที่ภูเก็ต ระเห็จมาจากขอนแก่น
ขายตัวไปทั่วแดน ไม่อยากทำก็ต้องทำ
ฟุตฟิตและฟอไฟ ไอเลิฟยู โอเวลคัม!
ตากแดดจนตัวดำ ไม่ยี่หระผู้ชายไทย
หนทางแห่งความทุกข์ เราแลกสุขกันใช่ไหม
รสสวาทบำเรอไป เงินก้อนใหญ่ให้ฉันมา
ในนามของสามี ยูซื้อที่มีราคา
รีสอร์ต ณ ริมผา สัมปทานอีกอักโข
หนทางแห่งความสุข ฉันยอมทุกข์ไม่ยอมโซ
แล้วไยมาเยโย ทำยึกยักเกินสัญญา
เรียกร้องอะไรเล่า คนมันเขลาตามประสา
บ้านนอกและคอกนา เพียงใจกล้าใช่เก่งเกิน
ยั่วยวนไปตามกรรม อย่ายีย่ำให้ยับเยิน
ทนงั่งก็เพื่อเงิน ไม่มีใจไม่มีจินต์
ยูคิดว่าฉันคือ กะหรี่หรือจึงหยามหมิ่น
ด่าทอทั้งติฉิน ว่างี่เง่าไม่เข้าใจ
อยากได้ผู้หญิงดี มีปัญญาสมองใส
ใครใช้เล่าใครใช้ ให้มาคว้าเมียเช่าครอง
ถ่มถุย! สมน้ำหน้า หนอยชะช้า! อย่าจองหอง
เราต่างก็แลกทอง บนทางเถื่อนทุลักทุเล
ดูดดื่มแค่ผิวดำ กี่ฉนำก็จำเจ
ไม่นานก็หันเห ต่างโหยหาสันดานตัว
ได้เงินมาเป็นกอบ ฉันก็ลอบไปเกลือกกลั้ว
ผัวน้อยก็คือผัว ยูก็มั่วสาวบาร์มันส์
มีเงินไม่มีสุข เหมือนติดคุกทั้งเธอฉัน
แล้วเราก็เจ๊ากัน จะดึงดันจะโทษใคร
บอกมาแค่คำเดียว ไม่อยากเอี่ยวก็ย่อมได้
เพียงยูไสหัวไป แผ่นดินไทยจะงอกงาม
อยากอยู่ก็ต้องทน ผจญเมียผู้แสนทราม
ไม่ต้องมาลามปาม ตั้งคำถามเกินความรู้
เวลคัม...โอ้เวรกรรม! หัวอกช้ำจริงหนอตู
พิซซ่ากับปลาทู จะทู่ซี้สักกี่น้ำ!
ปลาร้ากับสตูว์ จะทู่ซี้สักกี่นาน!