30 กันยายน 2545 13:33 น.
วลี..
สูงสุดผุด ต่ำเตี้ย ............... ขัดขืน
ฟ้าต่ำ วสันต์ครืน .............. สนั่นหล้า
เอ่อล้น ป่นขยี้ผืน .............. พื้นภพ สิ้นเฮย
สาบกลิ่น คนสิ้นท่า ............ ฝอยฟุ้งปฐพี
พิ้นภูลู่ลาดโล้น .................. เลียนเตียน
คนสัตว์พลัดพลากเจียน .... ร่างม้วย
วสันต์สาป กงเกวียน ......... กรรมระส่ำ
งาม เอ่อล้น ปน ด้วย .......... ผู้พ้นศฤงคาร
24 กันยายน 2545 02:20 น.
วลี..
A Lovers Concerto
...
how gentle is the rain
that falls softly on the meadow
birds high upon the trees
serenade the clouds
with their melody oh oh
see there beyond the hills
the bright colors of the rainbow
some magic from above
made this day for us
just to fall in love
...
you hold me in your arms
and say once again you love me
and if your love is true
everything will be
just as wonderful
now I belong to you
from this day until forever
just love me tenderly
and Ill give to you
every part of me
dont ever make me cry
through long lonely nights without love
be always true to me
keep this day in you heart eternally
...
๑ สายฝนโปรยปรายฝอยลอยฟุ้งฟ้า
แวววาวทั่วทุ่งหญ้าระยับใส
สกุณาแว่วสำเนียงเคียงคบไม้
เมฆาเพลินร่ายเสียงเพลงเปล่งกังวาน
๒ ณ ปลายขอบรอบภูสูงรุ้งเล่นสาย
เพริศแพร้วพลิ้วพร่างพรายลายสวรรค์
โอ้ .. ดั่งแดนแผ่นดินทิพย์พิมาน
ทิพย์สถานภิรมย์รักสลักใจ ..
๓ ในอ้อมอุ่น จากไอโอบ พี่เอ่ยอ้าง
กระซิบแผ่ว แว่วเฉลย ที่เผยไว้
คำเพียงแผ่ว แว่วตราตรึง บึ้งหทัย
ทุกสิ่งในใต้หล้า เลอค่างาม
๔ ต่อแต่นี้ มีพี่เฝ้า เย้าเคียงข้าง
ตราบฟ้าดิน สิ้นทุกอย่าง อย่าได้ถาม
เริ่มแรกรัก เริ่มตะหนัก ทุกโมงยาม
น้องมอบรัก สลักดาม ตามนิรันดร์
๕ แม้นคืนวันอันเปลี่ยวร้างห่างไกลรัก
มิตระหนัก มิตระหนก อกไหวหวั่น
ห่างเพียงแค่สายตา รักผูกพัน
ตราบชีพ ตราบนิรันดร์ มั่นดวงใจ
20 กันยายน 2545 12:55 น.
วลี..
อาจก่อพ้อปรารถนาล้าแรง
เปี่ยมพลังแอบแฝงอันลุ่มลึก
กาลก่อกาฬกร้านแล้วความรู้สึก
แล้ว นั้นเสียงอึกทึก กระแทกมา
แม้แต่เพียงว่าหาก อยากเช่นนี้
หมื่นแสนล้านวิถึ ปรารถนา
กาลก่อกาฬกร้านแล้ว ในแววตา
แล้ว นั้นภาพจินตนา ก็แปลงไป
ณ ถิ่นฐานด้านไหนใจเจ้าเอ๋ย
ดุจไม่เคยเลยไม่คุ้นสุดจะไข
กาลก่อกาฬกร้านแล้ว นะหัวใจ
แล้ว สัมผัสเพียงได้ จากอายดิน
สุราราดสาดซดรดลงศอ
ระรินพอระรื่นล้อระรั่วลิ้น
กาลก่อกาฬกร้านแล้ว จนชาชิน
แล้ว นั้นกลิ่นอะไร ใครบอกที ..... นะ
...... แงะ ^L^
18 กันยายน 2545 07:23 น.
วลี..
รุจีจำรัสจำเริญฟ้า..เรืองรอง
เปล่งประโลมหล้า.อาบทอง..งามแท้
รวงข้าวเคียงคู่หล้า.โอนพลิ้ว ชวนแล
ภมรภู่ กรีดกราย หมายแม้ กระพือพ้อกระพริบพราว
ท้องธารปรก..ร่มเงาพรรณพฤกษ์..พนา
ธารเอื่อยเอื่อย ไหลล้าล้า สายขาวขาว
โขดคราบเขียว ครึมเข้ม ดั่งหนวดยาว
ตะไคร่เกาะก้อนราวกำมะหยี่
ฟายฟอง ละอองไหว ของสายน้ำ
แชล่มชื่น ระรื่นฉ่ำ ลำนำวารี
สดับไว้ ในพนา นอกธานี
ดุจเสียงแก้ว กาญจน์มณี ที่ได้พบ
แว่ววน..ผสานก้อง สกุณา
เย็นยะเยือกจับอุรา มาสยบ
อยู่ทุ่งนา เอกเขนกคอนคบ
มั่วจนจบ ..อยู่ท้องนา หรือป่าไพร ........... นะ???
15 กันยายน 2545 00:14 น.
วลี..
๑ กระต่ายเต้น กระแตไต่ ใบไม้แกว่ง
ใบที่แหว่ง ปลดปลิว ละลิ่วหล่น
กระต่ายตื่น กระแตตก อลวน
อยู่ใต้ต้น จามจุรี ดอกสีส้ม
๒ กระแตเทา กระต่ายขาว ขนยาวปุย
กระแตคุ้ย เขี่ยขอนไม้ เสียงใสข่ม
กระต่ายเต้น ตื่นตาม ยามยืนชม
ช่างวิเศษ สุขสม ร่มไพรพฤกษ์
๓ อีกยอดยูง ใหญ่ยื่น เหยียดยาวยิ่ง
แผ่ก้านกิ่ง กว้างไกล ให้พิลึก
กระแตไต่ ตามต้น เหมือนฝนฝึก
กระต่ายนึก อยากไต่ บ้างไหม..ล่ะ
๔ นึกนิทาน นานนมนัก กระต่ายน้อย
มาหมายคอย หมายนั้นนี้ ที่เหมือนจะ
เจ้ากระต่าย หมายจันทร์ ไม่ลดละ
ชะเง้อกว่า จันทร์เจ้า เข้าใจจริง