29 มีนาคม 2552 22:45 น.
วฤก
ภาคตัวอักษร
๏ กระแสกรรมกำกับบังคับให้
แตกต่างไปเป็นกรรมกระทำผล
ชนกกรรมทำอิทธิฤทธิ์ดล
แต่เกิดตนก่อตัวกรรมพัวพัน
ทั้งชั่วดีที่เกิดเปิดโอกาส
อุบัติชาติใช้กรรมทำเหหัน
อุปัตถัมภกรรมช่วยอำนวยดัน
เดินต่างชั้นชาตะตามพลัง
กฎแห่งกรรมธรรมะพุทธพจน์
ใช่เพียงบทพร่ำบ่นสวดมนต์ขลัง
พึงพินิจวิชชาฆ่าเขลาบัง
บรรลุฝั่งฟากทิพย์ถึงนิพพาน
กระแสกรรมกำกับทั้งดับเกิด
หยุดกำเนิดกำหนดพ้นกลสงสาร
อโหสิกรรมจะละบันดาล
อุปาทาน อวิชชา ตัณหา ปลง ๚ะ๛
วฤก : ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๒
28 มีนาคม 2552 13:54 น.
วฤก
๏ เรียงเมฆเรียมเสกสร้าง........สรรค์ทรง
วาดหว่างกลางฟ้ารงค์.................เรขไว้
ศิลป์สรรค์กลั่นบรรจง................ระบายจาก...ใจแล
เขียนประกาศกลางหาวให้ .........กระหึ่มห้วงสรวงสวรรค์๚
๏ ระบายบรรณฉันเก็บฟ้า........กอบฝัน
มาห่อหุ้มสัมพันธ์.......................ผ่อนร้าง
เราสองประคองกัน....................ก้าวฝ่า-...ฟันเนอ
คนเหนื่อยคนหนึ่งข้าง...............ขับล้าขาดแรง๚
๏ สำแดงโดยเมฆฟ้อน.............ฟ่องลอย
สุหร่ายสายฝนปรอย.................ประพื้น
พาร้อนผ่อนแรงถอย................ราวถอด...ทิ้งนา
ฝนปลุกฝนปลอบฟื้น................ปลอดฝ้าแปลงฝัน๚
๏ เมื่อขวัญมองเมฆคล้อย........เคลื่อนมา
คือบทรจนา.............................แนบไว้
วางหาวกล่าวกถา.....................แท้จาก...พี่เอย
ซ้อนสลักซ่อนรักให้..................หากจ้องจึงเห็น๚ะ๛
วฤก : ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๒
16 มีนาคม 2552 00:42 น.
วฤก
๏ แสงอรุณอร่ามพื้น..........แผ่นดิน
สูรย์สาปราตรีภินท์.............ผ่านพ้น
แสงธรรมส่องห้วงจินต์........หุ้มจิต-...ใจแล
แสนสุริยะท้น.....................ถ่องเที้ยนธรรมไฉน๚ะ
๏ อรุณอร่ามแล้ว
สูรย์ผ่องแก้วแผ้วก่องสี
แสงธรรมนำฤดี
สุรีย์ฉายฤๅคล้ายนัย ๚
๏ น้อมธรรมนำสถิต
ที่ดวงจิตทิศดลใจ
ครองเท้าก้าวครรไล
ไปถนนกุศลกรรม ๚
๏ มีศีลศีลกำกับ
ศีลบังคับดับถลำ
ศีลใส่ใช่จองจำ
คำนับศีลสิ้นอบาย ๚
๏ มีธรรมนำชีวิต
น้อมลิขิตคิดความหมาย
เห็นธรรมท่านว่ากลาย
คล้ายชินสีห์ชี้นิพพาน ๚
๏ ฝึกใจไตรสิกขา
วิปัสสนากรรมฐาน
เกิดดับสลับการณ์
อ่านสันตติสติตาม ๚
๏ อรุณอร่ามแล้ว
ธรรมผ่องแผ้วแล้วโลกสาม
มานะพยายาม
ข้ามสงสารนิพพานเทอญ ๚ะ๛
วฤก : ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๒