14 กันยายน 2547 11:33 น.
วฤก
๏ ใบตองแต่งพุ่มซุ้ม..............ทรงพนม
แทนสิขเรศสม.....................เสกสร้าง
สุเมรุสมาคม........................ครบหมู่
มวลเหล่าเทพล้อมข้าง...........เขตไหว้บายศรี ฯ
๏ บัดพลีบวงเพื่อเชื้อ.............เชิญขวัญ
ขอประสิทธิประสาทสรรค์.......เสร็จได้
ดังพราหมณ์พร่ำรำพัน............ร้องเพรียก
พาสู่องค์ลงใกล้....................กลับเหย้าเยอขวัญ ฯ
๏ อย่าทันเที่ยวเถื่อนถ้ำ..........แถวไพร
หลงสถิตสถานไกล...............สกัดกั้น
จงฟื้นตื่นหลงใหล..................แล้วกลับ
รู้รับเสียงเรียกนั้น..................เหนี่ยวเข้าคืนองค์ ฯ
๏ บรรจงแต่งพุ่มซุ้ม...............ทรงพนม
เสนอดอกผกาชม..................ชื่นเน้อ
ญาติมิตรสมาคม...................ครบหมู่
คอยอยู่มาเถิดเย้อ.................อย่าลี้เลยขวัญ ๚ะ
๑๔ กันยายน ๒๕๔๗
9 กันยายน 2547 13:47 น.
วฤก
๏ สัตว์ล่าเหยื่อเพื่อหาภักษาหาร
คนพร่าผลาญเฉพาะผู้ศัตรูหมาย
ด้วยแรงโกรธโฉดจิตกล้าปลิดวาย
ความดุร้ายจึงเห็นเป็นสากล
ครั้งเหตุการณ์ประหารหมู่เมื่อรู้เหตุ
ความสังเวชสำแดงทุกแห่งหน
สิบเอ็ดกันย์วันฆ่าประชาชน
ล้วนแต่คนบริสุทธิ์ที่หยุดปราณ
นี่หรือเหยื่อเหลือสัตว์ขบกัดร่าง
ถูกทิ้งขว้างครั้งฆ่าเป็นอาหาร
หรือศัตรูผู้ร้ายหมายประจาน
ด้วยเดือดดาลจึงทำเพื่อหนำใจ
สัตว์ล่าเหยื่อเพื่อหาภักษาหาร
คนพร่าผลาญศัตรูรู้วิสัย
ผู้ฆ่าผู้บริสุทธิ์มนุษย์ไย
ฤๅว่าใช่สัตว์นรกสาธกกัน ๚ะ
๘ กันยายน ๒๕๔๗
8 กันยายน 2547 10:54 น.
วฤก
๏ สถานสถิตพร้อม.................พิทยา
ผลาญเหล่าภัยรุชา..................ชั่วร้าย
รู้ศิลป์สั่งรักษา........................โรคสร่าง
เสมือนอย่างจิตจินต์คล้าย........คิดสร้างวางฐาน ฯ
๏ อีสานอาจสุขด้วย.................ดุษฎี
แพทย์ประกอบกรณี...............เนื่องพร้อม
เห็นประโยชน์ประชามี...........มากกว่า.........ตนเนอ
ดำรัสดำริน้อม........................มนัสพร้อมพลีถวาย ฯ
๏ มุ่งหมายมานมั่นแม้น.........เสมอสมัย
กำจัดพยาธิภัย......................หยุดพ้อง
จรรยาอยู่ฤทัย.......................แท้ธาตุ
แท้ค่าประชาร้อง....................เรียกร้องก้องขาน ฯ
๏ สถานสถิตพร้อม.................พิทยา
ผลาญเหล่าภัยรุชา.................หลากเชื้อ
รู้ศิลป์สั่งรักษา.......................โรคสร่าง
แพทยศาสตร์ขอนแก่นเกื้อ...กิจไว้ในสถาน ๚ะ
1 กันยายน 2547 11:14 น.
วฤก
๏ ลาสรวงลงสู่พื้น.....................ไผท
พรายแข่งแสงอุไร....................อร่ามฟ้า
อรุณรุ่งรุจไว-...........................แววเก็จ
วางเพชรเพียงพื้นหญ้า............หยาดน้ำค้างฉาย ฯ
๏ เครื่องหมายคราเมื่อเช้า........ช่วงวัน
โชติเฉิดประกายฉัน.................แฉกรุ้ง
คราสายขาดหายหัน..................เห็นระแหก
ระเหยระเห็จไอน้ำฟุ้ง...............ฟ่องคว้างกลางลม ฯ
๏ ชนม์สมเฉกเช่นแม้น...........เสมือนชล
ชนม์ชาตชวาลผล.....................เพริศแพร้ว
ชนม์ชีระด้วยกล.......................กาลกร่อน
ชนม์ดับลับพ้นแล้ว....................ภาพรุ้งฤๅเห็น ฯ
๏ อย่าเป็นเช่นแค่น้ำ-...............ค้างนอง
ครั้งหนึ่งเคยเรืองรอง................รุ่งล้น
แล้วเลือนแปดเปื้อนหมอง........ปนหม่น
ปลงหมดชีพแล้วพ้น..................พากย์รู้ผู้ขาน ๚ะ
๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๗