13 เมษายน 2547 09:57 น.
วฤก
๏ เขียนโลกเขียนเล่ห์ข้า.............เขียนเอง
ขายข่าวขายคาวเยง..................ย่ำเย้ย
พากย์ขาวพากย์ดำเพลง.............พากย์สื่อ
เพื่อทรัพย์เพื่อสินเฮ้ย!................เหตุรู้ดูเห็น ฯ
๏ เป็นนกในไร่อ้าง....................โอ่ตน
อยู่ไร่ส้มทุรน............................ทุเรศร้อน
กระจิบกระจอกจน.....................กระโจนหล่ม
กระเจิงป่นตูจับต้อน...................ตบซ้ายตีขวา ฯ
๏ ฮะฮ้า! ข้าสั่งได้.....................ใดหมาย
สีสดสาดระบาย........................ระบุย้อม
แต้มตมแต่งตามกาย..................แกล้งเสก
เงินสั่งดังใดพร้อม....................พากย์ให้เห็นผล ฯ
๏ กลโลกกลเล่ห์ข้า....................เขียนไป
ขายข่าวขายคาวใน...................เน่าเนื้อ
พากย์ขาวพากย์ดำใคร..............ควรเชื่อ
คือศักดิ์คือศรีเอื้อ......................แอบเนื้อเน่าแฝง ๚ะ
๑๒ เมษายน ๒๕๔๗
7 เมษายน 2547 11:29 น.
วฤก
๏ ขวัญเอยขวัญแอบข้าง..............เขาดง
ขวัญสู่คืนสิงองค์.........................อุ่นเนื้อ
ขวัญเอ๋ยอย่าเลยหลง...................เล่นป่า
ขวัญอย่าลืมร่างเกื้อ....................กลับเข้าครองขวัญ ฯ
๏ รำพันพราหมณ์พร่ำร้อง..........เรียกเชิญ
ขวัญช่างเฉยเมยเมิน................หมิ่นถ้อย
ทำหันห่างหายเหิน....................ให้จาก.........จริงอา
อะไรหลอกลวงขวัญข้อย............ขับพ้นตนหาย ฯ
๏ เพียงกายพี่จากเจ้า................จำจร
เพียงจิตพี่อาวรณ์......................วุ่นว้า
เพียงขวัญพี่ขาดสมร.................สมานสู่
เพียงห่างพี่ไห้ล้า.......................รวดร้าวแรมขวัญ ฯ
๏ เชิญขวัญขวัญแอบข้าง...........เขาดง.........ใดแม่
ขวัญจากพรากอนงค์..................นั่นแล้ว
หมอขวัญเรียกขวัญทรง.............สิงสู่...........สกนธ์ฤๅ
เสมือนเสื่อมมนต์แม้นแก้ว........ไม่เกื้อกมลสนอง ๚ะ
๖ เมษายน ๒๕๔๗
6 เมษายน 2547 09:59 น.
วฤก
๏ กล่อมเกลี้ยงกรำเหงื่อเฝ้า.....ฟูมฟัก
เจ้าเติบโตด้วยรัก....................ลูกข้า
ขุนคนนั่นงานหนัก.................ไหนเกี่ยง
ขอแต่เอ็งเติบกล้า...................แตกก้านสานพงศ์ ฯ
๏ ปลงเหงื่อปานห่มฟ้า..........ห่าฝน
กายเจ็บก็จำทน......................ทุกข์ไว้
หวังวันว่าเติบตน...................ตัวลูก............ตูเฮย
เสวยสุขเขษมได้....................ดื่มห้วงสรวงสถาน ฯ
๏ เอ็งสนานสนุกท้า-..............ทายมฤต-.......ยูเวย
ประมาทตนประพฤติ.............พลาดพลั้ง
เขาห้ามกลับโหมฮึด...............เหิมขี่............รถพ่อ
เมาไม่ขับยับยั้ง.....................หยุดยั้งตรองไฉน ฯ
๏ ภัยคะนองเมื่อเข่นมล้าง......มลายหมาย
เจ้าเจ็บพิการกาย....................กลัดกลุ้ม
ข้าหรือจะฟูมฟาย.................ฟกอก
อ้างเหนื่อยอ้างหน่ายอุ้ม.........โอบเลี้ยงลูกถนอม ๚ะ
๖ เมษายน ๒๕๔๗
5 เมษายน 2547 12:00 น.
วฤก
๏ ดัชนีที่ปิดดูผิดแผก
เพราะแต่แรกเข้าตลาดเคยคาดหวัง
ว่ารากฐานกร้านแกร่งแรงพลัง
ชื่อเสียงดังด้วยทุนค้ำจุนมา
เป็นเชื้อชาติสะอาดใสใจพิสุทธิ์
ถือพระพุทธธรรมะศาสนา
รู้ว่าโลภโกรธหลงคงอัตตา
ก่อปัญหาให้ตนหมองหม่นใจ
เมื่อกระแสทุนนิยมบ่าถมถั่ง
ถอยกำลังแรงต้านแตกซ่านไหล
ลอยตามโลภโกรธหลงดิ่งลงไป
ตกอยู่ในวังวนสับสนจินต์
จึงเล่นแร่แปรทรัพย์เพื่อจับคว้า
ใช้ปัญญาแย่งยื้อถือทรัพย์สิน
ไม่ละเว้นเข่นแม้นของแผ่นดิน
ยังปล้อนปลิ้นปล้นตะแบงว่าแปลงทุน
ฉีกสัญญาท้ารัฐขอขัดแย้ง
แล้วกลับแกล้งว่าเสียหายอ้ายสถุล
สถานใหม่ให้เขียนเปลี่ยนเป็นจุน
มันจ้วงตุนตักขม้ำชาติช้ำพัง
ดัชนีที่ปิดจึงผิดแผก
รู้แต่แรกเข้าตลาดไม่คาดหวัง
ว่าคนโลภก็โลภไซร้ไม่ระวัง
แล้วมานั่งเสียจริตคิดผิดเอง ๚ะ
๑ เมษายน ๒๕๔๗
1 เมษายน 2547 15:37 น.
วฤก
๏ มะเฟืองแฝงกิ่งซ้อน..............เหมือนเจ้าซ่อนซอนซอกหาย
มาพรากจากพี่ชาย...................หมายมุ่งเร้นเว้นค้นฤๅ ฯ
๏ มะเฟืองแฝงกิ่งซ้อน.............ซ่อนหาย
ซอนหลบเรียมฤๅหมาย............มุ่งเร้น
เจ้าพรากจากพี่ชาย.................ชวนเล่น.........ฤๅแม่
ซ่อนแอบเรียมฤๅเว้น...............ว่างค้นวนหา ฯ
๏ ระเกะระกะก้าน....................ก่ายกิ่งผ่านสานซุ้มใบ
บังดอกมะเฟืองไย...................ให้ยากค้นยลพิราม ฯ
๏ ระเกะระกะก้าน....................กุมไฉน
สานกิ่งก่อซุ้มใบ.....................เบี่ยงกั้น
บังดอกมะเฟืองไย..................ยากเหนี่ยว
นำสู่ชูชมหั้น..........................ห่างเอื้อมเห็นโฉม ฯ
๏ มะเฟืองแฝงคบคว้า.............ครองผกามาชมสม
นวลแฝงแหล่งนิคม................เฝ้างมคว้าไป่หาเจอ ฯ
๏ มะเฟืองแฝงคบคว้า.............ครองชม
สูงสุดเอื้อมเรียมสม...............สบแล้ว
นวลแฝงแหล่งนิคม................ไหนใคร่.........รู้นอ
ซานเสาะหานางแก้ว...............กลับคว้างว่างหาย ฯ
๏ เรียมหมายสมัครเฝ้า...........สองสู่เคล้าเข้าครองกัน
คู่ชู้อยู่นิรันดร์.......................วันกัปสิ้นบ่สิ้นซา ๚
๏ เรียมหมายสมัครเฝ้า...........ใฝ่ฝัน
สองสู่สองครองกัน.................เกาะคล้อง
คู่ชู้อยู่นิรันดร์........................เนาร่วม
นานล่มกัลป์บ่ต้อง.................แตกร้าวรานสลาย ๚ะ
๑ เมษายน ๒๕๔๗