24 เมษายน 2547 22:46 น.
วฤก
๏ กันเกราเศร้าโศกใบโบกปัด
แกว่งกวัดกระท้อนลมร้อนเผา
กระเพื่อมเงื้อมงุ้มตะคุ่มเงา
ซึมเซาเสียงคำเคยจำนรรจ์
คราฝนชลชุ่มชอุ่มพื้น
เคยชื่นเชยชิดร่วมคิดฝัน
ว่าสองครองคู่ชื่นชู้กัน
ตราบวันวอดกัปจึงดับปลง
ผ่านหนาวร้าวรอนสะท้อนจิต
คู่คิดคล้ายเหมือนจะเลือนหลง
ลืมพี่ลี้ละรึอนงค์
พะวงผวาเจ้าลาไกล
หน้าร้อนร้อนอกวิตกหนัก
เกรงรักสะบั้นจึงหวั่นไหว
บอกกันกันเกราข้าเศร้าใจ
เป็นไปเป็นกันก็มันเป็น
กันเกราเศร้าโศกใบโยกแกว่ง
เรี่ยวแรงล้าอ่อนเกินรอนเข็ญ
กระเพื่อมเงื้อมงุ้มเคยคุ้มเย็น
เผยเห็นไฟเหงารอเผาทรวง ๚ะ
๒๓ เมษายน ๒๕๔๗
24 เมษายน 2547 22:26 น.
วฤก
๏ ทำบุญหวังส่งย้อน.............ยังผล
เพื่อเสพซึ่งกุศล.....................ส่งให้
กระหายบุญขุ่นกมล...............กลุ้มหมอก....... กิเลศเวย
อานิสงส์ส่งไซร้....................สัตย์นั้นท่านเฉลย ฯ
๏ ทิฏฐธัมมิกัตถ์เกื้อ-.............กูลโภชย์
สำเร็จผลประโยชน์...............อย่างต้น
โภคทรัพย์ซึ่งเธอโปรด.........ปันแบ่ง..........กันเนอ
สนองอยู่อย่างนั้นพ้น............โผล่ให้เห็นผล ฯ
๏ สัมปรายิกัตถ์กล้า...............กุมใจ
จิตอิ่มเอมผ่องใส..................สุดกลั้น
คือทรัพย์สะสมไป................เป็นดั่ง........เสบียงนา
นับประโยชน์ของโภคนั้น......ภพหน้านำสนอง ฯ
๏ ปรมัตถะแท้....................ที่สุด
ถึงฝั่งธารวิมุต.....................มุ่งพ้น
ทิ้งประโยชน์เพื่อตนผุด.......ผลตอบ........แทนพ่อ
คือศุภกุศลล้น......................เลิศล้ำนำเสวย ฯ
๏ ทำบุญหวังส่งย้อน..........ยังผล
ตามภพภูมิกมล.................แม่นแล้
จิตโลภประโยชน์ดล..........ได้ประโยชน์.....หนึ่งแล
จิตละกิเลศแก้..................ก่องแท้ทุกข์ปหาน ๚ะ
๒๓ เมษายน ๒๕๔๗
21 เมษายน 2547 11:13 น.
วฤก
๏ เขาพรากจากทุ่งข้าว..............ขังกรง
ขาดหมู่มาพลัดหลง...................เหล่าพ้อง
เพื่อคนสะเดาะเคราะห์ปลง........เขาปล่อย..........ไปเอย
วิหคหักเคราะห์ข้อง-................ขัดให้คลายไฉน ฯ
๏ วิสัยกรรมกรรมก่อนั้น............สนองกรรม
เวรบาปบาปตามนำ...................เนื่องไซร้
ผลบุญจากบุญทำ......................เธอประกอบ.......ก่อนนา
สรรเพชญสำแดงไว้.................ว่าแท้กรรมวิถี ฯ
๏ วจีสดับมิซับซึ้ง.....................ซึ่งกถา
ถูกจิตมืดมิจฉา..........................ฉุดล้อม
เห็นบาปว่าบุญพา......................เพื่อข่ม............เข็ญเวย
ว่าปล่อยนกนั้นพร้อม.................ผ่านพ้นภัยผล ฯ
๏ คนพรากจากทุ่งข้าว..............ขังกรง
คือบาปเขาทำลง.......................ล่วงแล้ว
ซื้อนกสะเดาะเคราะห์คง...........คือส่ง-...........เสริมนอ
นกปล่อยไปฤๅแคล้ว-.................คลาดเว้นเวรสนอง ๚ะ
๒๐ เมษายน ๒๕๔๗
15 เมษายน 2547 10:11 น.
วฤก
๏ ฟ้าครวญคำพร่ำฟ้อง..............ฟูมฟาย
ฟกอกฟ้าสลาย...........................สลดไห้
กระโหยชลกระโหมสาย.............สรงแผ่น.........ภพเนอ
ไผกระหน่ำทำฟ้าไข้...................ขุกร้องฟ้องขาน ฯ
๏ รานอุระรึสะอื้น......................สะอึกเสียง
โศกกระหึ่มได้เสดียง.................สะดุดสะดุ้ง
สดับคำคร่ำครวญเพียง..............พี่คร่ำ-............ครวญนอ
คราถูกศรร้างกระทุ้ง..................กระแทกห้องหทัยหาย ฯ
๏ วายสวาทเรียมคลาดน้อง........ขาดนาง
เสมือนหนึ่งเจ้าเมินหมาง...........หมดเชื้อ
สิ้นแล้วสร่างรักจาง...................จริงฤ..............ฤๅแม่
ลืมอุ่นฤๅเล่าเนื้อ..........................แนบเคล้าเคียงเขนย ฯ
๏ เลยครวญคำพร่ำฟ้อง............ฟูมฟาย
ฟกอกเรียมสลาย.......................สลดช้ำ
กระโหยชลกระโหมสาย............สรงอก...........พี่อา
อุระหักทำท่วมน้ำ-....................เนตรท้นกมลเหงา ๚ะ
๑๔ เมษายน ๒๕๔๗
13 เมษายน 2547 16:17 น.
วฤก
๏ ดอกรักดูชอกช้ำ...................ฤๅเจ้างำคำควรไข
เรื่องราวข่าวความนัย..............ใครเปลี่ยนแปลงจงแจ้งความ ฯ
๏ ดอกรักดูชอกช้ำ...................ฉุกใจ
เจ้าเก็บงำความนัย...................แน่แล้ว
เรื่องราวข่าวคราวไข..............ใครเปลี่ยน
ควรบอกดอกรักแจ้ว................จุ่งแจ้งแจงเฉลย ฯ
๏ เคยชมโฉมเฟื่องช้อย...........ช่อรักร้อยแรรงค์ขาว
ดอกรักบ่งรักราว.....................สกาวพรรณฉะนั้นใจ ฯ
๏ เคยชมโฉมเฟื่องช้อย...........ช่อขาว
ความรักสีสกาว.......................ก่องเนื้อ
ดอกรักบ่งรักราว.....................รงค์นั่น
พรรณรักเราอะเคื้อ.................โอ่คล้ายผกา ฯ
๏ คราเห็นดอกรักคล้ำ.............เรียมครั่นช้ำทำขวัญหาย
เกรงรักเราจักกลาย..................คล้ายดอกไม้ให้พะวง ฯ
๏ คราเห็นดอกรักช้ำ...............ชวนฉงาย
เรียมครั่นขวัญอาจหาย............อกไห้
โอ้รักจักกลับกลาย....................กลอย่าง..........รักนอ
เหมือนดั่งดำดอกไม้................หม่นนั้นหวั่นพะวง ฯ
๏ จงไขให้ข่าวแจ้ง................ใดจำแลงสำแดงเห็น
ยอดชู้ยังอยู่เป็น......................เช่นเก่าก่อนตอนจากฤๅ ๚
๏ จงไขให้ข่าวแจ้ง...............จริงเห็น
แจงเหตุจับประเด็น...............ประดาปนั้น
ยอดชู้อยู่ยังเป็น.....................ไปอย่าง..........เดิมฤๅ
หรือเปลี่ยนแปลงแต่ครั้น........คลาดร้างห่างสมร ๚ะ
๑๒ เมษายน ๒๕๔๗