6 มีนาคม 2547 23:51 น.
วฤก
๏ ปิดตาตรวจข่าวแก้..................กลบการณ์
ปิดปากพากย์พิจารณ์..................พิจักษณ์แจ้ง
ปิดเสียงศัพท์สื่อสาร...................สิ้นสุด
ฤๅหยุดยั้งยั่วแย้ง........................อยู่ได้ดังหมาย ฯ
๏ คนกระจายกระจัดทั้ง..............ธานี
ปากต่อปากเขามี.........................มากพร้อม
ความคำร่ำลือทวี........................ทวารหับ........หายฤๅ
โสตต่อโสตสดับอ้อม..................อรรถแม้นแทนกัน ฯ
๏ ฤๅพรั่นพรึงสัตย์แท้................ที่บัง
ถูกเบิกบอกเสียงดัง......................สดับได้
ผลประโยชน์เบี่ยงเบนหลัง...........หลบอยู่
ชูสู่ผู้คนไซร้................................สื่อให้เห็นฉล ฯ
๏ จึงทุรนเที่ยวรุกแก้....................กลบการณ์
จึงปิดปากพิจารณ์.......................พิจักษณ์นั้น
จึงปิดศัพท์สื่อสาร.......................สิ้นสุด
หมายหยุดยั้งบังกั้น......................กลบฉ้อฉลไฉน ๚ะ
๖ มีนาคม ๒๕๔๗
2 มีนาคม 2547 14:59 น.
วฤก
๏ คืนเพ็ญมาฆะครั้ง...............ครองลัคน์
ล่วงหนึ่งพุทธศัก-...................ราชคล้อย
เอหิภิกขุสมัคร........................สมานหมู่
เสมอหนึ่งพันสองร้อย.............และห้าสิบสงฆ์ ฯ
๏ ลงวิหารเวฬุล้อม.................บรมศาส-...........ดาแฮ
ห้อมสดับพุทโธวาท................ระหว่างหั้น
ปาติโมกข์ประกาศ..................ประการกอปร
เกื้อประกฤตประกันกั้น.............กร่อนกล้อนกิเลสเขลา ฯ
๏ พึงเว้นวางชั่วกลั้ว...............กุมกมล
พึงประกอบกุศลดล.................ดับร้อน
พึงชะจิตจนผล.......................ผุดผ่อง
พ้นทุกข์สะท้อนข้อน...............เข่นสะท้านสทุมทรวง ฯ
๏ ครั้งเพ็ญมาฆะคล้อย...........ครบฉนำ
น้อมจิตในพระธรรม..............ที่แท้
พิธีพลีกรรม...........................การประกอบ
กระพี้ห่อหากรู้แล้...................หลุดพ้นโมหันธ์ ๚ะ
๒ มีนาคม ๒๕๔๗
1 มีนาคม 2547 12:22 น.
วฤก
๏ ระบำทำท่าเต้น.......................ตามระเบง
ตรงระเบียบจังหวะเพลง..............พากย์ไว้
พิณวาทน์พาทย์บรรเลง...............ร้องบท
รำแบบบทบอกได้.......................ดั่งนั้นนาฏกรรม ฯ
๏ นัฏการนั้นกอปรพร้อม.............เพริศศิลป์
พร้อมสรรพภาพเสียงยิน.............เยี่ยมแล้
หยาดโลมชุ่มโกรมดิน................ดลสุข
ดังเสกสวรรค์แก้........................เกลี่ยหล้าลืมเข็ญ ฯ
๏ ละครฤๅขาดข้อ.......................ควรแล
ไขเล่ห์ลึกซึ้งแด..........................เด่นแจ้ง
ดลจิตพิจารณ์แปล......................เปรียบสิ่ง
เป็นสัตย์เป็นเสแสร้ง...................สื่อรู้ดูตน ฯ
๏ ดนตรีปี่พาทย์ร้อง...................ละคร
เล่นครบจนจบตอน....................แต่งหั้น
ตรองเห็นตรึกเหตุสอน...............สารบอก
เสร็จบทชีวิตนั้น........................นั่นสิ้นสังขาร ๚ะ
๑ มีนาคม ๒๕๔๗