30 มีนาคม 2547 11:54 น.
วฤก
๏ เพียงพะภัยพรั่นแผ้ว-..........พานตน
อุระรุ่มร้อนทุรน.....................ทุระร้าย
ผองผีป่าฤๅดล.........................ดาลปลอด
โดยเป่าเบายักย้าย....................หยุดยั้งยาไฉน ฯ
๏ ใจทุกข์สร่างทุกข์ด้วย..........ดูนัย
เห็นเหตุสมุทัย........................ที่แท้
ทำนิโรธนิรามัย.......................มั่นสมัคร
มรรคสมัตเสมอแก้..................ประกอบพร้อมประการผล ฯ
๏ คนจึงพึ่งจิตรู้.......................รสธรรม
โดยประพฤติประโพธนำ...........มนัสน้อม
มโนตรองส่องการณ์จำ..............กำจัด
กลจับจิตหมองพร้อม................ผ่อนแก้แผ่กัน ฯ
๏ นั้นไฉนไทยพุทธข้าง.............ข้าพระ
คือพุทธมามกะ..........................ก่อนกี้
ขอผีป่าพาหะ............................พาห่าง..........ภัยเฮย
เพี้ยนเหตุพ้นธรรมชี้..................ช่วยพ้นทุกข์เผา ๚ะ
๒๙ มีนาคม ๒๕๔๗
27 มีนาคม 2547 02:38 น.
วฤก
๏ นายพรานฉลาดผู้.................ฉลุยพง
เลาะป่าบุกฝ่าดง........................ดิบผ้าย
สองตาเสาะหาตรง...................แต่กิ่ง.........ไม้เอย
สัตว์ป่าชะตาร้าย......................หลุดพ้นภัยไฉน ฯ
๏ ไหวไหวพฤกษ์สะท้าน...........สะเทือนใบ
กิ้งก่าชะล่าใจ............................ชระลั่งจ้อง
จึงเล็งศาสตราไป......................ปองกะ-......ปอมนอ
ปังเหนี่ยวกระสุนต้อง................ตกล้มลงดาน ฯ
๏ จอมพรานผู้ล่ากิ้ง-.................ก่าสนาน
สนุกพร่าเพื่อสราญ...................เล่นนั้น
กี่ชีพพ่อปลิดผลาญ...................พลีเปล่า
เพื่อแข่งคะแนนชั้น...................ช่วงชั้นชิงเชิง ฯ
๏ เคยเถกิงเกียรติแต่ครั้ง...........คราเยาว์
ผิดบ่ผิดเพราะเขลา...................ขาดรู้
ครั้นใหญ่แต่ใจเมา....................มืดบอด
ถูกบ่ถูกพรานผู้..........................พร่าเนื้อเพียงสนาน ๚ะ
๒๕ มีนาคม ๒๕๔๗
25 มีนาคม 2547 11:50 น.
วฤก
๏ พร่าเลือนเหมือนม่านผ้า.............มาพราง
ภาพเก่าเคล้าเชยคาง...................คู่ชู้
จุมพิตจืดฤทธิ์จาง........................จากจิต.........ฤๅแม่
แลหม่นเรียมทนกู้.......................แกะเค้าความหลัง ฯ
๏ คะนึงครั้งคราก่อนอ้อน..............ออดคำ
เขียนค่าวโคลงลำนำ...................หนึ่งให้
นวลหวนตรึกคำทำ......................ถ้อยศัพท์
ที่สลักรักไว้ไซร้.........................เสื่อมหล้าฤๅสลาย ฯ
๏ เราหมายสมัครแม้น..................สมานมาน
เสมอหนึ่งนับชั่วกาล....................กัปนั้น
มิทันผ่านผันนาน........................นับขวบ.........หนึ่งอา
กัลป์กลับตระบัดสั้น....................สุดแล้วประลัยเผา ฯ
๏ เหลือเงาหลังม่านผ้า.................มาพราง
ภาพเก่าเค้ารางราง.....................ร่องริ้ว
เรียมพิศลิขิตบาง.......................เบาขีด
คำสลักรักบิดพลิ้ว......................เบี่ยงเพี้ยนเพียงไหว ๚ะ
๒๔ มีนาคม ๒๕๔๗
24 มีนาคม 2547 11:44 น.
วฤก
๏ ตะวันรอนซบด้าว..............ดับแสง
ดลสว่างภพจำแลง................แจ่มหล้า
ภาพสนุกสนานแฝง..............ฝาดขื่น
ฟั่นขุ่นเท็จจริงคว้า...............ขบเค้นฤๅไข ฯ
๏ ไฟสว่างทางหม่นแม้น.......หมอกมัว
เหมือนติดหล่มสลัว...............สลดรู้
หญิงชายแย่งขายตัว.............ตามขอบ..........ถนนอา
หิวอดฤๅอดกู้........................เกียรติกล้าแก่ตน ฯ
๏ ขวนขวายไล่ไขว่คว้า.........ความฝัน
ครองสุขเขษมอัน..................อะคร้าว
เงินตราค่าอนันต์..................อเนกอย่าง.........จินต์ฤๅ
จึงแก่งแย่งแข่งกร้าว............แกร่งคว้ากุมผล ฯ
๏ ดนตรีตีตุ่มตุ้ม..................แต่งกลอง
จังหวะเร้าคะนอง.................ขณะเต้น
สุราเร่งผยอง.......................พยศกฎ
พยาธิจากประมาทเว้น..........ว่างเงื้อมมือไฉน ฯ
๏ ไขอรุณอร่ามแล้ว..............อุไรฉาย
เสียงเร่ร้องซื้อขาย................ขาดถ้อย
เภรีพ่างจางวาย...................จังหวะ
วาระทิวาคล้อย.....................ค่อยฟื้นคืนสถาน ๚ะ
๒๓ มีนาคม ๒๕๔๗
17 มีนาคม 2547 12:52 น.
วฤก
๏ กระจิบกระจอกจ้อ...................โจษข่าวข้อคำโศกศัลย์
เสียงพร่ำพี่รำพัน........................สนั่นครื้นสะอื้นครวญ ฯ
๏ กระจิบกระจอกจ้อ...................โจษจัน
กระจายข่าวเศร้าโศกศัลย์............สะอื้น
เสียงคำพร่ำรำพัน......................พี่คร่ำ.........ครวญนอ
นั้นสนั่นคระครั่นครื้น.................ข่าวสะอื้นสะอึกขาน ฯ
๏ เรื่องราวผะผ่าวร้อน..............ลือกระฉ่อนกระท้อนโหม
ให้รู้สู่ทั้งโกรม.........................โฉมได้รับสดับฤๅ ฯ
๏ เรื่องราวผะผ่าวร้อน..............เร่งประโคม
ลือกระฉ่อนกระท้อนโหม..........กระหึ่มฟ้อง
ฟังรู้สู่ทั้งโกรม.........................กรรณสดับ
โฉมรับซึ่งศัพท์ร้อง.................เรื่องแล้วฤๅไฉน ฯ
๏ ไยข่าวคำพี่ร้อง....................เพียงลอยล่องลับลมหาย
ความคำคร่ำครวญวาย.............สลายลับเลือนดับซา ฯ
๏ ไยข่าวคำพี่ร้อง....................เรื่องหมาย
เหมือนล่องลอยลมหาย............เหือดเร้น
ความคำคร่ำครวญวาย............เว้นสดับ.........ฤๅแม่
เลือนลับเหมือนกับเว้น.............ว่างว้างวางฟัง ฯ
๏ กระจิบกระจอกแจ้ง..............เจตแสดงสะดุดหา
ให้ศัพท์เกษียนมา....................ว่าไม่สิ้นถวิลครวญ ๚
๏ กระจิบกระจอกแจ้ง..............เจตนา
ให้สะดุดหยุดโสตหา...............เหตุจ้อ
เกษียนศัพท์กับเสียงมา.............มอบแด่........... แม่เนอ
นั่นข่าวคำพี่พ้อ........................พรากน้องครวญถวิล ๚
๑๗ มีนาคม ๒๕๔๗