24 กุมภาพันธ์ 2547 10:53 น.
วฤก
๏ ถึงพร้อมเหตุปัจจัยพิสัยก่อ
ครบต้นตอแต่งปรุงบำรุงผล
สังสารวัฏบัดนั้นก็พลันดล
กำเนิดตนตามกรรมเนื่องนำมา
เสวยชาติผาดโผนกระโจนแล่น
เวรวาดแผนพาเหตามเรขา
อกุศลกุศลส่งลงมรรคา
ไม่ลดราเลิกฤทธิ์เฝ้าติดตาม
โหมรักโลภโกรธหลงให้ทรงจิต
ไม่ปลงปลิดเปลื้องกิเลศเหตุข้องหนาม
ไขว้เหนี่ยวลงสงสารนานนิยาม
ยังคงข้ามกัลป์กัปมิดับลง
กำจัดเหตุปัจจัยพิสัยก่อ
มิให้พอเพิ่มฤทธิ์พิศวง
สังสารวัฏบัดนั้นก็พลันปลง
ปัญญาส่งเสวยทิพย์สู่นิพพาน ๚ะ
๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗
24 กุมภาพันธ์ 2547 09:31 น.
วฤก
๏ ที่อยากจำย้ำตนให้ทนท่อง
แต่สมองเสมือนเลอะเซอะสับสน
ครั้นได้หน้าผวาอกหลังวกวน
ราวเล่ห์กลร้ายแกล้งพลิกแพลงกลาย
ในวันนี้ปีก่อนตอนเย็นย่ำ
เคยเอ่ยคำอ้างคืนเหมือนกลืนหาย
คำเคยไขกระไรนิอธิบาย
เถิดโฉมฉายช่วยชี้พี่ลืมความ
ครั้นอยากลืมอยากเลือนก็เหมือนแกล้ง
กลับทิ่มแทงฤทัยหนักดังยักหนาม
ให้เจ็บแสบแปลบทรวงทุกห้วงยาม
ยากหักห้ามให้หยุดเลิกขุดที
ครั้งพี่ลืมของขวัญวันเกิดเพื่อน
น้องย้ำเตือนตระหนักตามสักขี
จนพ้นวันนั้นมาสิบห้าปี
ยังจ้ำจี้จ้ำไชไม่เลิกรา
อยากให้จำย้ำตนพี่ทนท่อง
สร้างสมองเหมือนสมุดจุดเรขา
ทุกเรื่องราวคราวผ่านพ้นกาลมา
มีคุณค่าควรมอง.... เรื่องสองเรา ๚ะ
๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗
23 กุมภาพันธ์ 2547 15:18 น.
วฤก
๏ ภักษาพาเสพเอื้อ.......................อิ่มโอษฐ์
เอมอร่อยลองรสโภช....................เพื่อลิ้น
คาวหวานซ่านประโมทย์...............ประมาณหนึ่ง
ครั้นอิ่มลิ้มแล้วสิ้น........................เสื่อมล้างรสหาย ฯ
๏ กำหนัดกามแน่นเร้า.................ราคะ
ประโลมหัตถ์โหมผัสสะ...............เสพลิ้ม
สมาสพรรณสมานระ-..................เริงชื่น
ลุสุขเขษมพริ้ม...........................ผ่านแล้วราสนาน ฯ
๏ เสวยเกียรติศักดิ์สร้าง..............ทรงไฉน
คว้าแข่งแย่งมาใน......................ขณะนั้น
ครอบครองบ่นานไป....................เป็นอื่น
เป็นอนึ่งอนิจกลั้น........................สะกดไว้ตะกายหวัง ฯ
๏ สรรเพชญทรงแผ่แท้...............พุทธธรรม
สดับศัพท์ประดับนำ....................มนัสน้อม
พินิจการณ์พิจารณ์จำ..................จนจิต..............แจ้งนา
นั้นเกียรติกามกินย้อม.................หยดเปื้อนใจไฉน ๚ะ
๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗
22 กุมภาพันธ์ 2547 11:54 น.
วฤก
๏ มโหรีปี่พาทย์ขึ้น....................ประโคมเพลง
เสียงแผ่วแว่ววังเวง...................ว่างว้าง
โหมโรงเล่นโหรงเหรง...............ประเลงเปล่า
ประลัยปล่อยลอยเคว้งคว้าง........ขาดผู้ชูศิลป์ ฯ
๏ ฮิพฮอพป๊อปเปรื่องโก้..............ปรากฏ
ปี่พาทย์แปลกเพลงปลด..............ผ่อนปั้น
เครื่องสายเครื่องหมายยศ..........สยามหมู่..........ตูเฮย
เขาประดิดประดอยหั้น...............ประดับให้ประดาเห็น ฯ
๏ ดอกเอ๋ยดอกพุดซ้อน..............ซ่อนความ
ศิลปะไทยเสื่อมทราม...............สุดเศร้า
เพลงไทยใช่ไร้งาม...................เลวแง่
เพียงแต่ตนลืมเหง้า..................งั่งสิ้นศิลป์สยาม ฯ
๏ มโหรีปี่พาทย์พ้อ..................เพลงวา
ว่าดอกดังเพลงลา...................หลับพ้น
พลพาทย์แผ่วเสียงซา..............สิ้นศัพท์
ซับเก็บดังน้ำล้น.....................หล่นข้างขอบสถาล ๚ะ
๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗
15 กุมภาพันธ์ 2547 11:37 น.
วฤก
๏ เพลงรักไพเราะร้อง...............รำพัน
เพลงกล่อมฤทัยหรรษ์................หัสเร้า
เจรียงคำพร่ำจำนรรจ์................น้องพี่
ไพเราะเพลงรักเคล้า.................คละถ้อยคำไฉน ฯ
๏ ไขคำสังคีตคล้าย...................ประโคมคลอ
เคล้าออดพรอดพะนอ................พนิตน้อง
เสนอกลอนฉะอ้อนฉอ-...............เลาะชื่น
รื่นชิดเรียมเชยป้อง....................ประเล้าประโลมขวัญ ฯ
๏ พันพากย์พันธ์พาทย์พร้อม.......พรรณนา
เพลงรักเดือนกุมภาฯ..................เพราะพริ้ง
เผยเสนาะเสน่ห์สา-....................ทุศัพท์
ฤๅนับเหนือสิงคลิ้ง......................สขะคล้องเพลงผสาน ฯ
๏ หวานแว่วเพลงแผ่วแจ้ว..........จำเรียง
เจริญโสตเสนอเสียง...................เสนาะซึ้ง
เกษมสารบ่หวานเพียง................เพลงรัก.........เรานอ
นำสวนะอึ้ง................................อาบซึ้งซ่านหวาน ๚ะ
๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗