25 กุมภาพันธ์ 2546 20:41 น.
วฤก
-๑-
๏ รุ้งพรายฉายเพริศแพร้ว....................พิราม
เพราะหลากสีสลับตาม........................แต่งแต้ม
ลายเหลือบเหลื่อมเลื่อมงาม.................เงาแง่
รังสฤษฏ์ลายสลับแฉล้ม......................ฉลุรุ้งแลเฉลา ๚
-๒-
๏ ม่วงครามไม่ข่มน้ำ - .......................เงินเขียว
เหลืองแสดแดงสอดเกลียว..................กอปรไว้
แม้นเขินขาดสีเดียว...........................ดูเสื่อม
ด้วยสรรพสีนี่ไซร้..............................เสกให้เห็นสวย ๚
-๓-
๏ เสมือนมิตรสมาสแม้น.....................เสมอกัน
ร่วมจิตร่วมรังสรรค์............................สมัครแล้ว
เสมือนรงค์ร่วมสมานพรรณ.................ภาพรุ่ง......รุ้งนา
ร่วมประดิษฐ์พิจิตรแพร้ว.....................พิเศษล้ำเลอเสนอ ๚
-๔-
๏ จงเป็นดังเช่นรุ้ง............................แลลออ
ตนต่างฤๅต่างกอ.............................ก่อเกื้อ
สมานสมัครร่วมถักทอ.......................เถิดอย่า.......แหยงแม่
มาพ่ายมาหมดเชื้อ...........................ชืดร้างฤๅไฉน ๚ ๛
20 กุมภาพันธ์ 2546 22:40 น.
วฤก
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๏ ถึงคราชราวัย.................................พิเคราะห์ในอดีตกาล
เห็นดีและเลวดาล..............................หฤหรรษ์รึหู่ใจ ๚
๏ ทำชั่วก็กลัวผิด...............................หิริคิดคะนึงไข
ขลาดกรรมกระทำไป..........................จะสนุตสนองตน ๚
๏ ทำดีก็มีสุข....................................สรนุกสนานผล
อิ่มเอมเกษมมน................................รติล้นกุศลกรรม ๚
๏ ใดดีและที่ร้าย...............................อธิบายขยายคำ
สรรเพชญเสด็จนำ.............................อภิธรรมแถลงความ ๚ ๛
อีทิสังฉันท์ ๒๐
๏ ครั้งอดีตกาลมิเคยจะถาม
มิคิดจะครุ่นคะนึงนิยาม.........................นิยตธรรม ๚
๏ คราวชราระลึกและตรึกประจำ
กุศลและสิ่งมิดีถลำ..............................ทุราจาร ๚
๏ เป็นประดุจปฏักประจักษ์ประจาน
ทุรนทุรายทุเรศจะซาน..........................จะซ่อนใด ๚
๏ เหลือจะหลบจะลบจะล้างไฉน
มิอาจจะข่มจะขืนฤทัย............................วิสัญญี ๚
๏ ดังฉะนั้นนะกาลลุผ่านวิถี
กระทำกระไรก็เท่าทวี............................สนองคืน ๚
๏ เป็นฉะนี้มิมีวิธีจะฝืน
จะกลบจะเกลี่ยจะกลับจะกลืน..................ประการใด ๚ ๛
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
๏ พึงน้อมมโนและสตินึก......................พิเคราะห์ลึกพิจารภัย
เห็นเวรและกรรมรยะคระไล...................ปะทะใส่สนองตน ๚
๏ ทำดีทวีรุหะสิรี................................ภวนี้สนองผล
ทำชั่วก็มัวธุมกมล...............................อกุศลกระเสียรเบียน ๚
๏ อย่าปล่อยและลอยกษณะกาล............มละผ่านมิพิศเรียน
พลั้งชั่วและดีอนิจเวียน.........................วหะตามยถากรรม ๚
๏ ถึงคราวชราชิรณะวัย.........................นิรในกุศลนำ
นึกหวนก็ครวญตนุมิทำ..........................นิธิไว้ประลัยดาย ๚ ๛
16 กุมภาพันธ์ 2546 21:54 น.
วฤก
๏ เพ็ญมาฆะวาระมหัศจรรย์
นับหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบสงฆ์
ล้วนเอหิภิกขุร่วมธุดงค์
เฝ้าพุทธองค์ฟังอรรถไม่นัดกัน
ทรงประกาศโอวาทปาติโมกข์
ครบสังโยคสามอย่างทางสงบสันต์
ในมหาวิหารเวฬุวัน
เป็นเหตุอันพิเศษหมายเหตุจำ
จุดธูปเทียนเวียนขวาบูชาพระ
สมพุทธะสางกิเลสสาเหตุสำ
เดินชีวิตพิทยาหาพระธรรม
จนพ้นกรรมบ่วงเวรเห็นนิพพาน
เพ็ญมาฆะวาระอันวิเศษ
คำนึงเหตุมหัศจรรย์อันกล่าวขาน
พ้นเปลือกเปรอะเลอะกระพี้พิธีการ
เห็นแก่นสารพุทธธรรมนำชีพเทอญ ๚ ๛
๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖
16 กุมภาพันธ์ 2546 21:45 น.
วฤก
๏ คืนร้าวข่าวร้อนสะท้อนอก
วิตกวุ่นใจโอ้ใครผลาญ
เสียงคำพร่ำพ้อทรมาน
แหลกลาญฤดีโดนบีฑา
ด้วยคำฉ่ำหวานเคยผ่านโสต
ลิงโลดหลงเล่ห์เสน่หา
เชื่อชื่อถือมั่นว่าสัญญา
มีค่าแค่ลิ้นพลิกปลิ้นความ
เคยจดเคยจำเป็นคำมั่น
เคยฝันเคยใฝ่ใจผลีผลาม
เคยเพลิดเคยเพลินหลงเดินตาม
จะห้ามจะหักรู้จักจำ
คืนร้าวข่าวร้อนสะท้อนจิต
ที่ผิดที่พลั้งครั้งถลำ
รับรู้ดูเห็นว่าเป็นกรรม
ผิดซ้ำเสียใจให้ครั้งเดียว ๚ ๛
16 กุมภาพันธ์ 2546 21:35 น.
วฤก
-๑-
๏ สงครามประกาศแล้ว.....................ล้างบาง
ยาเบื่อยาบ้าสาง..............................เสร็จสิ้น
สามเดือนสั่งดับจาง.........................จนหมด
กดกลบกุดหัวดิ้น.............................ดับเชื้อเชือดสาย ๚
-๒-
๏ เสียง...ปืนปะทุถ้วน......................ถิ่นคาม
เสียง...ก่อเกิดคำถาม......................ที่แท้
เสียง...ศพท่าวล้มหาม.....................เลือดห่ม......ดินนอ
เสียง...สั่งสับชีพแม้........................ไม่ค้นความจริง ๚
-๓-
๏ หลายศพ...คือข่ายข้อง................ขายยา
หลายศพ...สร้างกังขา....................ใคร่รู้
หลายศพ...ใช่มิจฉา.......................เฉกท่าน.....ชี้ฤๅ
หลายศพ...เร้าทรวงกู้.....................ก่นฟ้องยุติธรรม ๚
-๔-
๏ ฤๅ...เมาอำนาจแม้น....................เมรัย
มาร...มืดมันสาไถย.......................ประทุษร้าย
ครอง...แดนเข่นด้วยภัย..................พิบัติ
เมือง...รุ่มรุมเร่าคล้าย....................คุร้อนประลัยเผา ๚ ๛