28 พฤษภาคม 2545 20:44 น.
วฤก
กมลฉันท์ ๑๒
๏ ศุภธรรรมฤต่ำตก..................................ฤนรกจะยกสูง
อมนุษย์ฤฉุดจูง........................................นรกานต์ฤบ้านเรา ๚
๏ ทุระร้ายอบายห้อม................................ดุจล้อมตะล่อมเผา
ปะทุร้อนมิผ่อนเพลา................................บ่มิเซามิสร่างซา ๚
๏ วรธรรมมินำจิต....................................วิปริตและมิจฉา
ธุมะล้นกมลพา.........................................จิตะร้ายกระหายโกย ๚
๏ ตริจะแย่งจะแข่งคว้า............................ผิวะล้าและอ่อนโหย
บ่มิปล่อยมิถอยโรย...................................ชนะโดยอุบายกล ๚
๏ มิระลึกและตรึกธรรม...........................คุรุกรรมจะก่อผล
หิริร้างกมลตน.........................................ธุมะล้นอธรรมรุม ๚
๏ ศุภธรรมฤต่ำตก...................................ฤนรกประชุมสุม
ทุระร้ายสยายกุม.....................................นรชาติพินาศจม ๚ ๛
23 พฤษภาคม 2545 21:13 น.
วฤก
๏ วัน...ประสูติพระเจ้า.............................จอมมุนินทร์
วัน...ตรัสรู้ ธ ภินท์...................................อวิชช์ได้
วัน...ปรินิพานผิน....................................พระผ่าน........วัฏนอ
วัน...วิสาขไหว้........................................วัตรน้อมมโนถวาย ๚
23 พฤษภาคม 2545 19:35 น.
วฤก
๏ เป็นธุลีที่เท้าเขาเหยียบย่ำ
ฤๅยอมช้ำเฉยไปให้คนหยาม
ฤๅยอมเจ็บเก็บตนทนต่ำทราม
ฤๅยอมตามตีค่าว่าต่ำศักดิ์
ไยไม่ปลุกลุกขึ้นยืนปะทะ
เอาชนะคำหยันบั่นให้หัก
อย่ายอมจนคนถ่อยพูดพล่อยทัก
ยอมเสียหลักล้มคะมำถลำลึก
มามองการณ์ประมาณตนจนรู้ชัด
ปฏิบัติแบบทำนองที่ตรองตรึก
กระทำใดใจดูรู้สำนึก
และทนฝึกฝักใฝ่ในสิ่งงาม
เป็นธุลีที่เท้าเขาเหยียบย่ำ
อย่ายอมช้ำเฉยไปให้คนหยาม
อย่ายอมเจ็บเก็บตนทนต่ำทราม
พยายามสร้างสิ...ศักดิ์ศรีตน ๚ ๛
23 พฤษภาคม 2545 19:26 น.
วฤก
๏ ดอกเอ๋ยดอกโศก...................................ยามวิโยคยอกใจใคร่ครวญหา
คอยคิดหวนทวนทบบรรจบมา................บอกใจว่าเขาไม่ร้างไม่ห่างคลาย
ตลอดเช้าเฝ้าดูอยู่จนค่ำ..........................จึงยอมช้ำชอกลำเค็ญเขาเร้นหาย
ถึงคร่ำครวญหวนไห้ไปจนตาย................ก็ไม่กรายมาใกล้ให้ชื่นเอย ๚
23 พฤษภาคม 2545 18:14 น.
วฤก
๏ โรยแสงแรงโหยอ่อน....................สุรีย์รอนผ่อนรังสี
ผ่านร้างห่างธาตรี.............................ลี้หลีกผันดั้นพ้นไกล
๏ แหนงหน่ายคล้ายแคลงแหนง.......ฤๅเสแสร้งแกล้งไฉน
เย็นย่ำช้ำชอกใจ.............................ไข้เหน็บหนาวร้าวระบม
๏ ตะวันผันพลัดห่าง.........................ทิ้งฟ้าว้างระคางขม
เงียบเหงาเศร้าโศกตรม..................ซมทรวงเสียวเปลี่ยวเดียวดาย
๏ กี่นานผ่านกาลเล่า........................กว่าจะเช้าเพรางายฉาย
ชะเข็ญเว้นวายคลาย.......................กลายกลับขื่นคืนชื่นใจ
๏ โรยแสงแรงโหยอ่อน...................สุรีย์ซอนซ่อนซอกไหน
ทิ้งหล้าลาลับไป................................ให้อดสูอยู่เยือกเย็น
๏ เหมือนน้องหมองเมินหมาง..........ทิ้งเรียมร้างอ้างว้างเข็ญ
ขื่นขมตรมลำเค็ญ...........................เช่นหล้าร้างห่างตะวัน ๚ ๛