21 กุมภาพันธ์ 2545 17:45 น.
วฤก
๏ ร้อยถ้อยคำฉ่ำเสียงรื่นเรียงร้อย
สานดังสร้อยสอดพันสุวรรณสาน
จารเป็นพจน์บทพร่ำนำจดจาร
คำขับขานความคะนึงซึ้งทุกคำ
เล่ห์ร้อยเรียงเสียงเล่นเพื่อเป็นเล่ห์
หนำใจเหหันไปเพียงใจหนำ
ทำชาชอกยอกย้อนหลอนกระทำ
ใจระกำเกินทนล้างหม่นใจ
ทำความเรียงเพียงสนุกสนานจิต
ทำความคิดผิดถลาถลำไหล
ทำความหลงคงจะพลั้งจะพลาดไกล
ทำความใดให้คะนึงคะเนควร
จงประดิดประดอยงามตามประจง
สวนทางหลงหรือไม่ในกระสวน
ทวนจนครบจบข้อขอทบทวน
ดีทั่วถ้วนถึงจารคือกานท์ดี ๚
20 กุมภาพันธ์ 2545 21:21 น.
วฤก
๏ ร้อยรสบทโคลงคล้อง.............เขียนพัน
ร้อยอย่างงามต่างกัน................เกี่ยวถ้อย
ร้อยรวมร่วมรังสรรค์................สารสาสน์
ร้อยจิตร้อยใจร้อย...................รจน์น้อมนำเสนอ ๚
๏ ฝันอันอาจวาดแต้ม..............แต่งเติม
ฝันต่างพรรณสรรค์เสริม..........เสกสร้าง
ฝันแปลงแต่งฝันเดิม...............ดูต่าง
ฝันสืบฝันปั้นกว้าง...................กว่าให้ใจฝัน ๚
๏ พันพรรณฝันมั่นขวั้น...........พันพันธ์
พรรณนั่นอันบั่นปัน.................ปั่นปั้น
พันขันมั่นพลันสรรค์................สันต์กลั่น
พันมั่นพันธ์ขวัญนั้น................กลั่นปั้นพันฝัน ๚
๏ โคลงสารจารจับร้อย..............เรียงโคลง
โคลงต่อเติมจรรโลง.................รจน์ไว้
โคลงประดิษฐ์ลิขิตโยง..............ยึดอยู่
โคลงสู่โคลงสืบได้.....................ดั่งสร้อยร้อยสาย ๚ ๛
20 กุมภาพันธ์ 2545 00:57 น.
วฤก
๏ ดังเยื่อยุดฉุดใจโยงใยมั่น
จึงผูกพันผูกภักดิ์รักเสมอ
แม้หนทางห่างไกลไม่พบเจอ
ยังพร่ำเพ้อพร่ำถึงคะนึงครวญ
ดังเยื่อยุดฉุดทรวงให้ห่วงน้อง
ถึงห่างห้องห่างไกลใจนึกหวน
ยามเชยชิดสนิทเจ้าเร้ารัญจวน
ยิ่งปั่นป่วนปั่นจิตยากปลิดวาย
เยื่อใยรักใยร้อยใยสอยรัด
เยื่อใยมัดใยขันใยมั่นหมาย
เยื่อใยลอดใยสอดใยกอดกาย
เยื่อใยคล้ายใยคล้องใยครองเรา
ดังเยื่อยุดฉุดจิตสนิทแล้ว
ยามคลาดแคล้วคลาไคลยิ่งใจเหงา
ละเมอเพ้อเผลอเหม่อหวังเจอเงา
ประโลมเล้าล้างจิตคิดถึงเธอ ๚
18 กุมภาพันธ์ 2545 21:36 น.
วฤก
๏ ภาพผันพรรณผิดเพี้ยน..................แผกไฉน
พิศต่างเพราะต่างใจ..........................จิตรู้
แลเห็นเด่นดูใส................................สวยยิ่ง
หรือกลับอับอุดอู้.................................เอ่ยอ้างระคางหมาง ฯ
๏ บ้างแลแต่รุ่งรุ้ง..............................โรจน์มณี
มนัสจับซับสิ่งดี..................................ดุจแก้ว
กุมเล็งเพ่งเพียงสี..............................ใสสุก
เสพสรรพสิ่งล้วนแล้ว........................หลอกให้ใจหลง ฯ
๏ ทุรชนคนถ่อยร้าย........................ราวมาร
ใดพิศคิดดักดาน..............................ดิ่งทิ้ง
ใดดีที่พบพาน..................................พลาดผ่าน
อาจอ่านการณ์จริงพริ้ง......................เพริศแพร้วเพียงหลอน ฯ
๏ สาธุชนชวนช่วยชี้..........................เชิงธรรม
ใดพิศคิดประโยชน์นำ......................นึกน้อม
เห็นจริงสิ่งใดงำ................................งับเงื่อน
เล็งเพ่งดูรู้พร้อม...............................ภาพพ้นกลเผย ๚
17 กุมภาพันธ์ 2545 00:14 น.
วฤก
อีทิสังฉันท์ ๒๐
๏ คลื่นกระทบตลบ ณ ฝั่งนที
กระแทกกระทั้นสนั่นมิมี.................................จะเงียบงัน ฯ
๏ เสียงประหนึ่งจะกล่อมถนอมสวรรค์
ประเลงประโลมประโคมสนั่น..........................สนานเพลง ฯ
๏ คีตะเทวะบวงระบำระเบง
เสนอสนองจะร้องประเลง...............................รึอย่างไร ฯ
๏ รื่นสนุกสนานสราญฤทัย
สดับเจรียงเผดียงมิไคล..................................มิคลายคลา ๚