26 พฤศจิกายน 2545 13:59 น.

+++ อริยสัจ +++

วฤก

-๑-
๏ ฉายแสงสูรย์ส่องหล้า.....................เรืองรุจ
เห็นกระจ่างหนทางสุด......................ส่องให้
เออไฉนเหล่ามนุษย์.........................มนัสอับ.........ชอ่ำเอย
หลงต่ำหลงลงใต้..............................ตกเบื้องอบายบัง ๚

-๒-
๏ ยังทุกข์ใจไม่เว้น..........................วันวาร
พร้อมส่ำทรัพย์มหาศาล....................เสพสร้าง
อำนาจยิ่งกลับดาล...........................ดลเดือด
หาดับระงับล้าง................................เร่าร้อนผ่อนหาย ๚

-๓-
๏ ฉายแสงธรรมส่องจ้า....................จับใจ
เห็นทุกข์สมุทัย...............................ที่แท้
แลนิโรธร่วมมรรคไข.......................คอยมุ่ง...........พินิจนา
นั้นดับระงับแก้.................................กลบร้อนหลอนกมล ๚

-๔-
๏ ทศพลพิสูจน์แล้ว...........................อริยสัจ
สอนเหล่าเวไนยชัด...........................ช่องชี้
ชาวพุทธพ่างปฏิบัติ...........................อุบายบ่ง..........บอกนอ
ร้องบ่นบ่ายหลบลี้...............................เร่าร้อนฤๅไฉน ๚ ๛

.				
24 พฤศจิกายน 2545 21:32 น.

+++ สายใย +++

วฤก



-๑-
๏ สายใยใสเกี่ยวเกี้ยว........................ก่ายกัน
พาดข่ายป่ายกันพัน............................ผูกซุ้ม
ยลใยใคร่พันขัน.................................คล้ายอย่าง.........ใยเอย
สานแข่งแมงมุมคุ้ม............................ครอบน้องครองถนอม ๚

-๒-
๏ เป็นจอมขวัญจิตเคล้า.....................คลอประคอง
ประพัทธ์อยู่สมสู่สอง..........................สู่ด้วย
สายใยใส่ยึดจอง - .............................จำพี่................จริงฤๅ
จับแน่นแม้นมอดม้วย.........................มัดคล้ายคลายไฉน ๚

-๓-
๏ สายใจสองจิตร้อย...........................รัดพัน
เป็นข่ายป่ายคล้องกัน.........................เกาะไว้
สองเราร่วมเสพหรรษ์.........................หารสุข - ......ทุกข์นอ
เสมอชีพเสมือนชนม์ได้......................ดุจแม้นมานสมาน ๚

-๔-
๏ สายใยใสเกี่ยวเกี้ยว.........................กอดกระหวัด
เรียมสอดสอยร้อยรัด..........................ร่วมนั้น
ใยไหนเล่าเทียมทัด............................ถึงห่วง.........ใยแม่
มีดหมื่นดาบแสนสะบั้น.......................บั่นแล้วฤๅสลาย ๚ ๛
.				
24 พฤศจิกายน 2545 00:33 น.

+++ นิทานใบไม้ +++

วฤก

มามะ ..เด็ก ๆ มานั่งล้อมวง 
ปู่วฤก(สำนวนเจ้าลิง อัลมิตรา) จะเล่านิทานให้เจ้าฟัง ......

============================================

๏ ทาบละลอกหมอกหม่นบนใบไม้
ม่านหมอกไล้โลมถนอมแนบกล่อมขวัญ
ใบระบัดจะหยัดกล้าท้าตะวัน
ไม่ยอมพรั่นแพ้แดดที่แผดแรง
ซากใบไม้ใบก่อนที่กร่อนกรอบ
ปลายย่นยอบยักแยกแตกระแหง
เคยเขียวสดสลดคล้ำดูก่ำแดง
ระเหยแห้งเหือดน้ำชุ่มฉ่ำใบ

เมื่อก่อนนั้นวันเก่าเขาเคยแกร่ง
เคยต้านแรงตะวันมิหวั่นไหว
เคยแผ่ร่มห่มดินแถวถิ่นไพร
เป็นแบบให้เห็นอย่างเพื่อย่างตาม
ว่าก้าวไปในหล้าใช่กล้ากร้าน
ประสบการณ์กักขฬะหรือจะหยาม
หากกมลพ้นชั่วก่ายกลั้วลาม
ย่อมพาข้ามทุกข์พ้นกลอบาย

โลกเป็นไปใบระบัดยังหยัดสู้
ยังคงอยู่เย้ยแรงแสงแดดฉาย
ร้อนเท่าร้อนมิกร่อนเผาจนเฉาตาย
ยังท้าทายโถมร้อนรอนผจญ
ลิ่วละลอกหมอกหม่นบนใบไม้
เหมือนตั้งใจจ้องดูอยากรู้ผล
ใบไม้กล้าท้าประทุสุริยน
แล้วใจคนเขาจะกล้าท้าโลภฤๅ ๚๛

====================================				
22 พฤศจิกายน 2545 14:39 น.

+++ ฝนสั่งฟ้า +++

วฤก

-๑-
๏ ชโลมชลชะฝุ่นล้าง..................เลือนละออง
ผิวผ่องพ้นไคลหมอง.................หม่นคล้ำ
ชลนัยน์เอ่อไหลนอง...................เนตรหลั่ง
นั้นหลั่งล้างเนตรช้ำ...................ชอกช้ำฤๅไฉน ๚

-๒-
๏ อาลัยโอ้อกร้าว......................เรียมระทม
ถวิลสู่ชู้ภิรมย์...........................ร่วมห้อง
หมายใจใคร่คืนสม...................สายสวาท
หวังสนิทชิดเนื้อน้อง.................แนบเคล้าเคียงถนอม ๚

-๓-
๏ จากจอมขวัญพี่ไข้................ขมอก
มองม่านวลาหก.......................ห่มฟ้า
สายอัสสุชลตก........................ต้องอุ-............ราเอย
ชลฉ่ำชื้นไยข้า.........................ขาดแล้งละอองฝน ๚

-๔-
๏ ชโลมชลชะฝุ่นล้าง................รอยฝัง
รอยขื่นขมเรียมยัง....................อยู่ย้อม
โหมสินธุกระหน่ำพัง.................ภินท์อก
อุทกสามหล้าพร้อม...................พัดช้ำเพลาไฉน ๚ ๛				
19 พฤศจิกายน 2545 22:27 น.

+++ ฮึ่ม เพื่อนนะเพื่อน +++

วฤก



-๑-
๏ ยามพลั้งผิดพลาดล้ม..............ลื่นถลา
ใครเล่าเคยสัญญา....................อยู่ใกล้
อำนวยช่วยพยุงพา.....................พิงหยัด...........ยืนเฮย
ครั้นหกล้มแล้วไร้.......................หลักคว้าประคองขืน ๚

-๒-
๏ ค่ำคืนใครว่าแม้น...................มืดมิด
จะอยู่เคียงคู่ชิด..........................ช่วยเกื้อ
ยามก้าวย่างเท้าติด.....................ตมหล่ม
ตมเปรอะตมเปื้อนเนื้อ................แนบเนื้อเปื้อนปัน ๚

-๓-
๏ สัญญายืนสัตย์ไว้...................วากย์ไฉน
นับเช่นลมพัดไป.......................เปล่าสิ้น
เป็นหลักหมุดยึดใคร.................คิดมั่น............คงฤๅ
พูดพล่อยพออร่อยลิ้น.................เล่นลิ้นฤๅไฉน ๚

-๔-
๏ ใช่น้อยใจจึ่งพ้อ......................พูดคำ
มิตรสนิทสิน่าจำ........................จับถ้อย
ยืนด้วยช่วยยามถลำ...................ถลาลื่น.........ล้มเฮย
อยากเอ่ยโอษฐ์ใช่น้อย................เช่นนี้เพื่อนกู ๚๛

.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวฤก