20 มกราคม 2545 22:33 น.
วฤก
๏ รื่นรสพจน์พากย์พร้อง....................เพลงเพราะ
เพียงพาทย์พิณเสนาะ.......................เสน่ห์น้อม
สดับพจน์บทโคลงเกาะ.....................กุมเกี่ยว......กูเฮย
สุดมุดหลุดรั้วล้อม............................รอบด้านสนานเสียง ฯ
๏ เสียงเจรียงจรายร่ายนั้น..................เสนาะกรรณ
เสียงพร่ำเพลงรำพัน..........................เพราะพริ้ง
เสียงสนานซ่านสนองสันต์...................สนั่นนั่น......เสนาะนอ
เสียงกร่อยปล่อยปละทิ้ง.....................ท่าวล้มสมไฉน ฯ
๏ ไฉนไม่มาร่วมคล้อง.......................ลิขิตโคลง
ไฉนไม่ร่วมจรรโลง............................รจน์ไว้
ไฉนไม่ใคร่คอยโยง............................ยึดเหนี่ยว
ไฉนไม่ยอโคลงให้..............................ห่อนร้างเลือนศิลป์ ฯ
๏ ศิลป์ศาสตร์พิณพาทย์ล้ำ..................รสเสียง
ฤๅเปรียบเทียบเทียมเพียง..................พจน์พร้อง
ขาดโคลงส่งเสียงเจรียง......................รสรื่น........เลอฤๅ
โคลงส่งเสียงเสนาะซ้อง.......................ซ่านซึ้งศัพท์ผสาน ๚
20 มกราคม 2545 19:55 น.
วฤก
๏ ด้วยเพราะเหตุประเภทใดชวนให้รัก
หรือทึกทักทำไปไร้เหตุผล
อารมณ์ลวงดวงใจให้หลงกล
จึงวกวนวุ่นหลงคงภักดี
รักเริ่มแรกแทรกซ่านความหวานชื่น
ใครเล่าฝืนฝ่าฟันหันหน้าหนี
มิมีจิตจะคิดแจงแจ้งคดี
ว่ารักนี้น่าชมเหมาะสมกัน
ควรคิดตรองมองดูสักครู่หนึ่ง
ให้ลึกซึ้งสุดตาอย่าหุนหัน
หาเหตุผลกลแก้แผ่พรางพลัน
รู้นี้นั้นนั่นแน่ะ.... จึงแน่ใจ
ด้วยอารมณ์นิยมก่อนแต่ตอนต้น
ด้วยเหตุผลพาคิดวินิจฉัย
ด้วยสองสิ่งติงตรึกนึกทวนไป
จึงจักไขความรักประจักษ์จริง ๚
20 มกราคม 2545 18:14 น.
วฤก
๏ เพราะเหตุห้วงดวงใจมั่นในรัก
ไม่ตระหนักดวงใจจึงใหลหลง
เพราะหวงห่วงดวงใจใฝ่พะวง
เมื่อรักปลงดวงใจจึงไข้ตรม
ด้วยเหตุผลกลแกล้งเธอแสร้งเอ่ย
ด้วยเหตุเผยเพียงความงามเหมาะสม
ด้วยเหตุอ้างหมางใจให้ระทม
ด้วยเหตุล้มเลอะเลือนเฟือนจริงใจ
ลืมแล้วหรือความหลังครั้งเคยรัก
ลืมตระหนักความหลังครั้งหวามไหว
ลืมความรักความหลังดังลบไป
ลืมเช่นไรความหลังเคยฝังทรวง
ต่อไปนี้ไม่มีใจจะใฝ่คิด
ต่อไปนี้ไม่มีจิตจะคิดหวง
ต่อไปนี้ไม่มีใจให้หลอกลวง
ต่อไปนี้ไม่มีห่วงคนลวงใจ
15 มกราคม 2545 20:38 น.
วฤก
๏ รำแพนหางกางวาดลีลาศฟ้อน
อรชรฉะอ้อนชู้คู่กระสัน
ป้อปีกป้องประคองนวลชวนผูกพัน
กรีดกรายกั้นโก่งร้องเสียงก้องไพร
โอ้ แม่งามทรามสงวนเย้ายวนนัก
จะสมัครอยู่เดียวเปลี่ยวไฉน
จะไร้ร้างห่างคู่อยู่กระไร
มาร่วมใจพิศวาสไม่คลาดกัน
ด้วยระตีมีฤทธิ์พาจิตชื่น
เริงระรื่นรสภิรมย์สมสุขสันต์
สนุกสนานดาลใจได้ทุกวัน
อย่าประหวั่นหวาดระแวงแหนงฤดี
ขอแม่อยู่ดูพี่ที่ลีลาศ
ลีลานาฎน้อมรัญจวนมิควรหนี
อย่าคลาไคลให้ระกำช้ำชีวี
ช้ำอกพี่เพียงน้องไม่ต้องตา
รำแพนหางกางวาดลีลาศฟ้อน
ยูงฉะอ้อนออดคู่เคียงคูหา
มิระวังพลั้งตนคนบีฑา
วายชีวาวอดวางด้วยหางตน ๚
13 มกราคม 2545 12:14 น.
วฤก
โคลงสี่สุภาพ
๏ มีมิ่งมิตรแม่นแม้น...................เหมือนมาศ
พรายพร่างพรรณผุดผาด.............ผ่องแผ้ว
อึดอัดอกอั้นอาจ...........................เอื้ออุ่น
ขับขุ่นคลายขุกแคล้ว....................คลาดคล้ายคอยไข ฯ
อินทรวงศ์ฉันท์ ๑๒
๏ มีมิตรสนิทชิด........................จิตะคิดจะคลายไฉน
ด้วยมิตรสนิทใจ........................มิละไร้ละลายเลอะเลือน
๏ รักษ์มิตรภาพเถิด...................จะประเสริฐเสมอเสมือน
สูรย์สูงจะจูงเดือน......................บทเคลื่อนนภาคระไล ฯ
กาพย์ฉบัง ๑๖
๏ มีจิตมิตรตอบชอบใจ......................จักเอื้อเกื้อให้
มิตรภาพตราบชั่วนิรันดร์
๏ เสกสร้างส่งเสริมสุขสันต์.................สืบสานนานวัน
ยิ่งสนิทมิตรมั่นมิบั่นรอน ฯ
กลอนสักวา
๏ สักวามิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
ดังภูผาผาแกร่งเกินแรงถอน
เพราะมีจิตมิตรใจไม่สั่นคลอน
ไม่กลายกร่อนกลบเกลื่อนเลือนกับกาล
ด้วยจริงใจในมิตรสนิทนั่น
หมายมุ่งมั่นประคองรักสมัครสมาน
เสมอเพื่อนเสมือนตนดลบันดาล
มิตรภาพนาน นับวันนิรันดร์เอย ๚