8 มกราคม 2545 00:28 น.
วฤก
๏ พระจันทรรอนสีรุจีรัศมิ์
จะเลาะลัดลาร้างห่างเวหน
เธอถามดาวคราวหลบนภดล
อยากพร่ำบ่นคำใดให้รับความ
ฤๅเหน็ดเหนื่อยเนือยอ่อนสะท้อนสะท้าน
ฤๅรำคาญคำฉินยินคนหยาม
ฤๅหมดหวังพลังล้าพยายาม
ฤๅสุดห้ามหักหมองหมายครองใจ
ห้วงโพยมโสมหรือเคยถือเด่น
เพียงจันทร์เพ็ญผ่องฟ้าสง่าไฉน
เพราะมีดาวพราวพรายเรียงรายไป
จึงสุกใสสมสรวงห้วงนภา
ฉะนั้นใดไหนย่ำให้ช้ำชอก
ฉะนั้นบอกเบิกคำพร่ำกถา
ฉะนั้น เจ้า-เราร่วม รวมฉันทา
ฉะนั้นมาสมัครมิตรสนิทเทอญ ๚
4 มกราคม 2545 15:36 น.
วฤก
ธารโสกเชือกเชือกมัดกระหวัดมั่น
ราวเชือกพันพาโศกวิโยคหมอง
พี่ห่างเจ้าเศร้าจิตเฝ้าคิดปอง
โศกซึมพ้องโสกธารสะท้านทรวง
โสกเชือกกั้นปันแคว้นแดนสาเกตุ
นคเรศกรุงไกรอันใหญ่หลวง
นับสิบเอ็ดประตูตั้งถ้วนทั้งปวง
เวลาล่วงเรียกร้อยเอ็ดผิดเท็จจริง
ถึงสิบเอ็ดร้อยเอ็ดพันเอ็ดอ้าง
สาวสะอางอาจยั่วกลั้วสุงสิง
พี่ไม่พรั่นหวั่นใจจนไหวติง
เพราะมีมิ่งเมียขวัญสำคัญครอง
จะมั่นคงจงรักจะหนักจะแน่น
ไม่คลอนแคลนคิดเพ้อเสนอสนอง
แสนนารีจะลี้เลี่ยงมิเมียงมิมอง
จะรักน้องแน่นหนักมิพักมิเพลา ฯ
3 มกราคม 2545 18:00 น.
วฤก
๏ ยลหยาดเพชรเก็จพราวสกาวพร่าง
หยดน้ำค้างคลับคล้ายพรายเพชรไข
เมลืองรายฉายแรงแสงอุไร
รับวันใหม่ในม่านผ่านหมอกมล
ลมหนาวพัดสะบัดพลิ้วละลิ่วผ่าน
สั่นสะท้านสะเทือนทบซบสถล
คลุกน้ำค้างวางคละขุ่นระคน
ฝุ่นแฝงปนเปื้อนเปรอะจนเลอะไป
ดุจดังค่าผกาคลี่ดอกสีขาว
ไร้รอยคาวราคีที่เคลือบไข
หากหนอนชอนกร่อนช้ำรอยคล้ำไช
คงสิ้นไร้ค่าแล้วดังแก้วราน
ยลหยาดเพชรเก็จพราวสกาวพร่าง
หยดน้ำค้างคลับคล้ายจะไขขาน
ให้คิดน้อมมโนนึกระลึกนาน
อย่ายอมพาลพาผิดชีวิตพัง ๚