26 ธันวาคม 2544 17:31 น.

เช้าวันหนาว

วฤก

15tree0.jpg

๏ แสงสีทองส่องฉายที่ชายฟ้า
ฟ่องเมฆาเคลื่อนคล้อยลอยเวหน
ราวเวหาสดาดม่านสำราญยล
ค่อยคลี่หล่นโลมแผ่นแดนไผท
พฤกษ์สะบัดกวัดกิ่งกลิ้งใบส่าย
เล่นพระพายพักโบกโยกโยนไหว
ปลายยอดโค้งวงค้อมน้อมกอไกว
ระบำไพรพิจิตรพิศเพลินตา
ลมหนาวชายกรายผ่านสะท้านเยือก
น้ำค้างเกลือกกลิ้งในใบพฤกษา
สะท้อนแสงแรงสีสุรียา
จรัสจ้าแจ่มแววแสงแพรวพราว
เพียงพรายเพชรเก็จพร้อยร้อยประดับ
วาววะวับวางไว้ในหมอกหนาว
ดังเวหนกล่นกลาดดื่นดาษดาว
ภาพยามเช้ายลชื่นตื่นตาชม ฯ

โอ้จอมขวัญวันเหงายามเช้าหม่น
ขื่นระคนระคายคล้องจะครองขม
เจ้าอยู่ไกลใจผวาเหมือนคว้าลม
ไร้คู่ชมชื่นอรุณหมกมุ่นมาน
มองแสงทองส่องฟ้าครารุ่งแจ้ง
ไม่สาดแสงสู่ใจจนใสฉาน
หมอกหนาวคลุ้มกุมจิตแทบปลิดปราณ
เยือกสะท้านสะเทือนจิตคิดถึงเธอ ๚				
26 ธันวาคม 2544 00:00 น.

รากแก้ว

วฤก


๏ หยั่งรากซอนซ้อนเซาะเกาะดินแกร่ง
เพื่อขืนแข็งขึ้นตรงทรงพฤกษา
เกิดกกกอก่อไว้ในพนา
ให้แกร่งกล้ากำบังลมคลั่งแรง

เป็นรากแก้วแล้วใช่เพียงให้ยุด
ฤๅใช่ขุดขอดน้ำตามระแหง
แต่เป็นหลักปักลงส่งสำแดง
มีกล้าแกร่งเกิดก่อกกกอไพร

ฉันทลักษณ์หลักการบุราณพากย์
ก็คือรากลงมั่นกันหวั่นไหว
แม้นมีหลักหนักแน่นแม่นมั่นใจ
กลกลอนใดดลหลงงุนงงฤๅ

หยั่งรากซอนซ้อนเซาะให้เกาะจิต
ลงลิขิตขีดสารจารลายสือ
สร้างกลอนโคลงโยงคำร่ำระบือ
เป็นผู้สื่อทรงแล้วรากแก้วกานท์ ๚				
25 ธันวาคม 2544 20:52 น.

ระบำมาร

วฤก

28dance.jpg

๑ ๏ กองไฟไอผ่าวร้อน.......................รุมราย
ผีป่าพาผีพราย...................................ผุดล้อม
ชุมนุมกลุ่มภูติหมาย...........................มาสนุก.......สนานนอ
ฟ้อนร่อนกรอ่อนอ้อม..........................เอ็ดอื้ออึงเสียง ฯ

๒ ๏ ผีเปรตทุเรศร้าย.........................รุมสุม
โลดหลุดผุดจากหลุม...........................ลึกเร้น
ร้องร่าว่าโลภกุม.................................เกาะจิต.......มนุษย์เฮย
จักผลิตผีเปรตเต้น.............................ตื่นขึ้นเต็มสกล ฯ

๓ ๏ รากษสสำรากร้อง.......................เรียกกัน.......ฮะเหย
รากอ่อนชอนใช่ผัน............................แผกได้
รากโฉดโกรธแค้นคัน........................เคืองขุ่น
รากงอกออกยักษ์ให้...........................โหดขย้ำขยอกผลาญ ฯ

๔ ๏ โมหะมาห่อหุ้ม...........................ให้หลง
ผีโป่งโผนโจนลง................................เล่นด้วย
ติรัจฉานผ่านชลสรง...........................ใสส่อง........ใจฤๅ
เห็นเกรอะเลอะจนม้วย.......................หม่นครึ้มครองมาน ฯ

๕ ๏ กระสือเสือกส่ายไส้.....................ส่งเสียง
เสพมูตรสูดมูลเพียง...........................เพชรรุ้ง
เสพเสร็จส่ายตาเมียง.........................มองใหม่
หมายหล่มอาจมฟุ้ง............................ฟ่องนั้นสุคันธ์หอม ฯ

๖ ๏ กองไฟไอผ่าวอ้าว........................อบอวล
ผีเผ่นเต้นผันผวน..............................แผดร้อง
เสียงสนั่นลั่นในสวน...........................เสียดโสต
ลิงโลดโดดล้อมคล้อง.........................คร่าคว้าครองคน ๚				
24 ธันวาคม 2544 21:21 น.

จงกล้า คว้าฝัน

วฤก

271012254419270.jpg

๑ ๏ จงหวังตั้งมั่นคว้า........................ความฝัน
ล้มลื่นฝืนหยัดยัน.............................อย่าท้อ
ถอนถอยปล่อยแปรผัน.....................ผละห่าง
ยอมหน่ายพ่ายกลล้อ.........................หลอกให้เหหัน ฯ

๒ ๏ บากบั่นฟันฝ่ากล้า......................แกร่งเผชิญ
อุปสรรคฤๅจักเกิน............................กว่าแก้
ทางไกลใช่พ้นเดิน............................ดะดุ่ม......ได้นอ
ระย่อยอมท้อแพ้................................พ่ายแล้วฤๅไฉน ฯ

๓ ๏ ปลุกใจให้ตื่นขึ้น........................คืนตน
คอยแกะคอยแก้กล..........................เกี่ยวรั้ง
สะสางสร่างสับสน..............................ใสส่อง......แสงนา
ฉายสว่างทางถางทั้ง...........................ที่กั้นกลายสลาย ฯ

๔ ๏ เนือยหน่ายคลายเหนื่อยล้า........ลงนอน
พักก่อนอ่อนแรงรอน........................ร่างได้
แต่ใจใช่ยอมคลอน...........................คลายหน่าย
จงหมั่นมั่นก้าวใกล้............................เกี่ยวคว้าความฝัน ๚				
24 ธันวาคม 2544 18:00 น.

กาพย์เห่ ลาตะวัน

วฤก

26sunset.jpg

๏ สายัณห์ผันลับแล้ว.................................ลาตะวัน
แสงอ่อนรอนแดดอัน................................อบร้อน
พระพายพัดผ่านผัน..................................เพลาผ่าว.......ร้อนนา
สุรีย์เลื่อนลอยคล้อยซ้อน...........................ซ่อนหล้าลาหาย ฯ

๏ สายัณห์ผันลับเลื่อน................................ตะวันเคลื่อนเลือนลาฟ้า
แดดอ่อนรอนร้อนรา.................................แสงจัดจ้าพร่าแรงโรย
๏ พระพายชายพัดไล้................................ล้างร้อนไปให้เหือดโหย
เย็นชื่นรื่นลมโชย.....................................โบยสะบัดพัดผ่านมา
๏ ย่ำค่ำย่ำฆ้องก้อง.....................................ยินเสียงซ้องท่องธรรมกถา
พระเถรเณรหลวงตา.................................พาเสียงธรรมนำชีพชน
๏ สุรีย์ที่ลาลับ............................................เลื่อนโลกอับแสงสับสน
ธรรมสิ้นศีลเสื่อมจน..................................ใจหมองหม่นท้นหมองมัว
๏ เสียงธรรมเคยฉ่ำชื่น.............................ชืดชาขื่นในคืนสลัว
เสียงกรีดหวีดหวาดกลัว............................กลั้วเสียงกามขามเสียงธรรม
๏ จิตใสใจพิสุทธิ์.......................................เสื่อมโฉดฉุดยุดโยกต่ำ
โมหะโทสะกำ............................................โลภร่านย้ำขย้ำกิน
๏ เยื้อแย่งแข่งขันสู้..................................เพียงเพื่อกูโกยยศสิน
เดือดร้อนค่อนธานินทร์.............................มิยลยินสิ้นเยื่อใย
๏ ตะวันที่ผันลับ........................................เคยหวนกลับนับวันใหม่
แสงธรรมเคยนำใจ...................................จะคืนไหมในชีพชน ๚				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวฤก