24 พฤศจิกายน 2544 16:33 น.
วฤก
๏ พร่ำเพลงกลอนกล่อมเจ้า..................จอมใจ
พี่พร่ำวจีไข.........................................รักน้อง
เพียงขวัญผ่อนหลับใหล......................พิงอก พี่นอน
พันก่ายแจ่มจันทร์ป้อง.........................ปกน้องนิทรา ฯ
๏ พร่ำเพลงกลอน กล่อมเจ้า จอมใจพี่
พร่ำวจี ไขรัก น้องเพียงขวัญ
ผ่อนหลับใหล พิงอก พี่นอนพัน
ก่ายแจ่มจันทร์ ป้องปก น้องนิทรา ๚
24 พฤศจิกายน 2544 10:33 น.
วฤก
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๏ เรืองสีสุรีย์ฉาย.......................นภพรายอุไรแสง
ทองทาอุษาแปลง......................ผิวะแต่งสุพรรณพรรณ
๏ หมู่เมฆะเคลื่อนคล้อย...........กลค่อยละล่องผัน
คลี่คลายกระจายกัน..................ขณะดั้นทิฆัมพร
๏ หมู่นกก็ผกผิน.......................รยะบินละถิ่นจร
จากรังมิรั้งนอน.........................ฆระตื่นละคอนไป
๏ ส่งเสียงสำเนียงร้อง...............เสนาะก้องพนาไกล
ขับขานประสานไพ - ................เราะเจรียงจรายเพลง
๏ ยินซึ้งประหนึ่งซับ..................ดุริย์ศัพทะบรรเลง
ซ่านหวานละเวงเทง..................เสนาะกล่อมถนอมใจ
๏ ยามรุ่งอรุณรื่น.......................พิศชื่นฤทัยใน
ภาพธรรมชาติไข.......................สุขได้ภิรมย์ชม ๚
ศัพท์ : นภ = ท้องฟ้า, อุษา = เช้าตรู่, ทิฆัมพร = ท้องฟ้า,
รยะ = เร็ว, ฆร = เรือน, เจรียง = ขับกล่อม, จราย = แผ่ไป,
ละเวง = ก้องกังวาน, เทง = เคาะ
22 พฤศจิกายน 2544 17:16 น.
วฤก
๏ แก้วบงกชบานกลางบึงกว้างใหญ่
รับอุไรรังสีสุรีย์ฉาย
หยาดน้ำค้างพร่างเพชรเก็จแพรวพราย
ส่องประกายก่องประภัสสร์จรัสพราว
ม่านหมอกลอยอ้อยอิ่งระกิ่งไม้
ชโลมไอละอองซ่านสะท้านหนาว
กลั่นรินหยดรดหยาดเสียงกราดกราว
เสนาะราวสำเนียงเสียงดนตรี
ณ ลานชลอุบลวางระหว่างไว้
ระยะใกล้ไกลรับสลับสี
ราวนางนาฏลีลาศไปในวารี
ด้วยท่วงทีท่าทางย่างลีลา
โอ้โกมุทสุดพิไลใครหรือสร้าง
สลักวางวาดสายลายเลขา
พิสุทธิ์สรรค์สวรรค์ก่อชะลอมา
ทัศนานฤมิตพิจิตรพรรณ ๚
21 พฤศจิกายน 2544 23:02 น.
วฤก
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
๏ ฉายพรายแสงรุจิรัศมีศศิประภา
เพ็ญผ่องกระจ่างตา....................................................พิไล
๏ แสงลูบโลมวสุธาและพงพนไศล
แผกสีฉวีไพร............................................................สุพรรณ
๏ พรายแสงดารกะเด่นสกาวคคนะอัน
พราวพริบระยิบสรรค์...............................................ภิรมย์
๏ โอบอ้อนขวัญหฤทัยประโลมวจนะชม
เดือนดารกาสม.........................................................สุปรีดิ์
๏ ครั้งคืนนั้นประจุลึกผนึกหฤษฎี
แน่นในฤทัยพี่...........................................................มิวาง
๏ ค่ำคืนไหนสุมะส่องสว่าง ณ คคนางค์
หวนคิดมิปลิดจาง.....................................................ละใจ ๚
21 พฤศจิกายน 2544 23:02 น.
วฤก
๑ ๏ หนาวลมลมลิ่วไล้....................ร้าวยอกใจไข้เยือกหนาว
หนาวขื่นขื่นขมคราว......................คลาดสวาทนางว้างระทม ฯ
๏ หนาวลมลมลิ่วไล้.......................ลูบหนาว
หนาวอกอกรานราว......................ลิ่มข้อน
หนาวขื่นขื่นขมคราว.....................คลาดห่าง
หนาวสร่างสร่างนางซ้อน...............ซ่อนร้าวระทมขม ฯ
๒ ๏ จึงครวญคำพร่ำเพ้อ...............เพียงละเมอเผลอผวา
ฝันใฝ่ใคร่กลับมา..........................เคหาเคล้าเจ้าแนบนอน ฯ
๏ จึงครวญคำพร่ำเพ้อ...................พรรณนา
หลงเลื่อนเลือนผวา.......................หวาดร้าง
ฝันใฝ่ใคร่กลับมา..........................ละมุนก่าย
เนื้ออ่อนนอนแนบข้าง...................คู่เคล้าเคียงเขนย ฯ
๓ ๏ คิดถึงคราก่อนเย้า..................หยอกหยิกเร้าเราสุขสันต์
ไยร้างห่างหายพลัน.......................ผันพลิกฝืนกลืนน้ำตา ฯ
๏ คิดถึงคราก่อนเย้า.....................หยอกกัน
แช่มชื่นรื่นสุขสันต์........................สนุกล้ำ
ไยร้างห่างหายพลัน.......................พลิกผก
ฟกอกเรียมอั้นน้ำ..........................เอ่อล้นนัยน์ไหล ฯ
๔ ๏ หนาวลมนอนห่มผ้า................ผิงเพลิงพาผ่อนหนาวไฉน
คืนชู้คู่เคียงใจ..............................ได้แนบกายหายหนาวกุม ฯ
๏ หนาวลมนอนห่มผ้า....................ผิงไฟ
หวังผ่อนรอนหนาวไฉน.................ชนะช้ำ
คืนชู้คู่เคียงใจ...............................จึงอุ่น
แนบก่ายหายหนาวกล้ำ.................เกาะเนื้อกุมหนาว ๚