16 มีนาคม 2552 00:42 น.
วฤก
๏ แสงอรุณอร่ามพื้น..........แผ่นดิน
สูรย์สาปราตรีภินท์.............ผ่านพ้น
แสงธรรมส่องห้วงจินต์........หุ้มจิต-...ใจแล
แสนสุริยะท้น.....................ถ่องเที้ยนธรรมไฉน๚ะ
๏ อรุณอร่ามแล้ว
สูรย์ผ่องแก้วแผ้วก่องสี
แสงธรรมนำฤดี
สุรีย์ฉายฤๅคล้ายนัย ๚
๏ น้อมธรรมนำสถิต
ที่ดวงจิตทิศดลใจ
ครองเท้าก้าวครรไล
ไปถนนกุศลกรรม ๚
๏ มีศีลศีลกำกับ
ศีลบังคับดับถลำ
ศีลใส่ใช่จองจำ
คำนับศีลสิ้นอบาย ๚
๏ มีธรรมนำชีวิต
น้อมลิขิตคิดความหมาย
เห็นธรรมท่านว่ากลาย
คล้ายชินสีห์ชี้นิพพาน ๚
๏ ฝึกใจไตรสิกขา
วิปัสสนากรรมฐาน
เกิดดับสลับการณ์
อ่านสันตติสติตาม ๚
๏ อรุณอร่ามแล้ว
ธรรมผ่องแผ้วแล้วโลกสาม
มานะพยายาม
ข้ามสงสารนิพพานเทอญ ๚ะ๛
วฤก : ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๒
10 มีนาคม 2552 22:03 น.
วฤก
๏ ลมพัดลมผ่าวร้อน...........รมไอ
ร้อนจุดรัญจวนใจ...............จะเร้น
กระสันสมข่มไฉน...............หนอสนิท...นิ่งนอ
กระหายหัสกระโหมเต้น......ตื่นเร้ารักโหม๚
๏ เคยโลมเคียงแนบน้อง...ถนอมนวล
คืนเร่าร้อนรัญจวน.............รักเจ้า
ร้อนลมห่มรักอวล................ไออุ่น....อกเอย
รักข่มคิมหันต์เคล้า..............คลั่งร้อนคลายหาย๚
๏ เคียงกายเคยกอดเคล้า-..คลอกัน
เอมโอชอกกระสัน...............กระส่ายซ้ำ
เกษมสวาทเสพสวรรค์........เสวยอิ่ม- ...เอมฤๅ
ร้างห่างรักหายห้ำ-...............หักให้หทัยโหย๚
๏ ลมโชยลมช่วยเร้า ..........เร่าไฉน
ลุกโชติลมฤๅไฟ..................ฟู่ร้อน
คะนึงสมข่มนั้นไย...............ยากหยุด...ยั้งแล
กระหายอยู่เคียงคู่ซ้อน........สู่น้องลมกระโหม๚ะ๛
วฤก : ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๒
6 มีนาคม 2552 23:55 น.
วฤก
๏ ตั้งหย่อง... รองใต้ สายไหมกด
กำหนดเพียงออขอตั้งเสียง
สีซอคลอคำเคล้าสำเนียง
จำเรียงร้องเพลงบรรเลงโลม
สามสายหมายสดับจงรับสาร
ขับขานคำพลอดพี่ออดโฉม
“บุหลันลอยเลื่อน” เยือนโพยม
ยิ่งโน้มน้าวจิตคิดถึงนวล
ประนิ้ว... “นิ้วประ” เสียงสะอื้น
เคล้ากลืน “นิ้วพรม” ห่มไห้หวน
ครั่นนิ้ว... “นิ้วครั่น” ด้วยรัญจวน
กระสวนสีซอหยอกล้อใจ
“ทางเปลี่ยน” เปลี่ยนอย่างทางฝรั่ง
เธอยั้งอยากเพี้ยนเปลื่ยนไฉน
พาทย์รับขับร้องทำนองไกล
แล้วไยเล่าซอยังพ้อครวญ ๚ะ๛
วฤก : ๖ มีนาคม ๒๕๕๒