20 มกราคม 2545 18:14 น.
วฤก
๏ เพราะเหตุห้วงดวงใจมั่นในรัก
ไม่ตระหนักดวงใจจึงใหลหลง
เพราะหวงห่วงดวงใจใฝ่พะวง
เมื่อรักปลงดวงใจจึงไข้ตรม
ด้วยเหตุผลกลแกล้งเธอแสร้งเอ่ย
ด้วยเหตุเผยเพียงความงามเหมาะสม
ด้วยเหตุอ้างหมางใจให้ระทม
ด้วยเหตุล้มเลอะเลือนเฟือนจริงใจ
ลืมแล้วหรือความหลังครั้งเคยรัก
ลืมตระหนักความหลังครั้งหวามไหว
ลืมความรักความหลังดังลบไป
ลืมเช่นไรความหลังเคยฝังทรวง
ต่อไปนี้ไม่มีใจจะใฝ่คิด
ต่อไปนี้ไม่มีจิตจะคิดหวง
ต่อไปนี้ไม่มีใจให้หลอกลวง
ต่อไปนี้ไม่มีห่วงคนลวงใจ
15 มกราคม 2545 20:38 น.
วฤก
๏ รำแพนหางกางวาดลีลาศฟ้อน
อรชรฉะอ้อนชู้คู่กระสัน
ป้อปีกป้องประคองนวลชวนผูกพัน
กรีดกรายกั้นโก่งร้องเสียงก้องไพร
โอ้ แม่งามทรามสงวนเย้ายวนนัก
จะสมัครอยู่เดียวเปลี่ยวไฉน
จะไร้ร้างห่างคู่อยู่กระไร
มาร่วมใจพิศวาสไม่คลาดกัน
ด้วยระตีมีฤทธิ์พาจิตชื่น
เริงระรื่นรสภิรมย์สมสุขสันต์
สนุกสนานดาลใจได้ทุกวัน
อย่าประหวั่นหวาดระแวงแหนงฤดี
ขอแม่อยู่ดูพี่ที่ลีลาศ
ลีลานาฎน้อมรัญจวนมิควรหนี
อย่าคลาไคลให้ระกำช้ำชีวี
ช้ำอกพี่เพียงน้องไม่ต้องตา
รำแพนหางกางวาดลีลาศฟ้อน
ยูงฉะอ้อนออดคู่เคียงคูหา
มิระวังพลั้งตนคนบีฑา
วายชีวาวอดวางด้วยหางตน ๚
13 มกราคม 2545 12:14 น.
วฤก
โคลงสี่สุภาพ
๏ มีมิ่งมิตรแม่นแม้น...................เหมือนมาศ
พรายพร่างพรรณผุดผาด.............ผ่องแผ้ว
อึดอัดอกอั้นอาจ...........................เอื้ออุ่น
ขับขุ่นคลายขุกแคล้ว....................คลาดคล้ายคอยไข ฯ
อินทรวงศ์ฉันท์ ๑๒
๏ มีมิตรสนิทชิด........................จิตะคิดจะคลายไฉน
ด้วยมิตรสนิทใจ........................มิละไร้ละลายเลอะเลือน
๏ รักษ์มิตรภาพเถิด...................จะประเสริฐเสมอเสมือน
สูรย์สูงจะจูงเดือน......................บทเคลื่อนนภาคระไล ฯ
กาพย์ฉบัง ๑๖
๏ มีจิตมิตรตอบชอบใจ......................จักเอื้อเกื้อให้
มิตรภาพตราบชั่วนิรันดร์
๏ เสกสร้างส่งเสริมสุขสันต์.................สืบสานนานวัน
ยิ่งสนิทมิตรมั่นมิบั่นรอน ฯ
กลอนสักวา
๏ สักวามิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
ดังภูผาผาแกร่งเกินแรงถอน
เพราะมีจิตมิตรใจไม่สั่นคลอน
ไม่กลายกร่อนกลบเกลื่อนเลือนกับกาล
ด้วยจริงใจในมิตรสนิทนั่น
หมายมุ่งมั่นประคองรักสมัครสมาน
เสมอเพื่อนเสมือนตนดลบันดาล
มิตรภาพนาน นับวันนิรันดร์เอย ๚
12 มกราคม 2545 11:02 น.
วฤก
๏ มธุรสมดกรายหมายลองลิ้ม
ได้เชยชิมชื่นจิตติดรสหวาน
คราวเว้นว่างห่างพ้นก็ดลมาน
เซอะซมซานเสาะหามาดื่มกิน
มะนาวเปรี้ยวเคี้ยวขบคำรบหนึ่ง
ก็ซ่านซึ้งซึมติดจิตถวิล
ปรุงแปลกโอษฐ์โภชนารสชาชิน
ช่วยชุ่มลิ้นรสรื่นชวนชื่นใจ
ดังชีวิตคิดไปไม่ผิดแผก
มีเปรี้ยวแทรกซึมซ่านความหวานไหว
มีสุขสมระทมทุกข์คลุกเคล้าไป
จะยึดไยรสชาติที่คลาดคลอน
เมื่อรับหวานรู้หวานที่หวานรส
เปรี้ยวปรากฏปร่าขมก็จมถอน
ใช่เปรี้ยวคงทรงหวานนานแน่นอน
นิรันดรคือชีวิตอนิจจัง ๚
9 มกราคม 2545 17:45 น.
วฤก
๏ ฤๅกรอบคือขอบข้อง......................ขัดขวาง
เลือนรสเกลื่อนพจน์วาง....................วัจน์ได้
ขัดใดอัดใจหมาง..............................หมายหัก........หาญนอ
รื้อกรอบฤๅชอบไร้............................รสด้อยถ้อยกถา ฯ
๏ การณ์ใดสั่นสะท้าน.........................สะเทือนจิต
อยากจดพจน์ลิขิต..............................ข่าวนั้น
จารสือสื่อความคิด.............................ขานกล่าว
กานท์ใช่ไปกางกั้น.............................กว่าเอื้อมเอาถึง ฯ
๏ ฉันทลักษณ์คือหลักรั้ง......................รจนา
กวีร่วมรวมฉันทา...............................ที่พ้อง
เห็นงามบ่ทรามซา..............................ศิลป์เสื่อม
เป็นเช่นปลักดักคล้อง.........................ขัดข้องความไฉน ฯ
๏ ควรเพียรเรียนเพื่อสร้าง...................สรรค์กวี
เป็นสง่าค่าธานี....................................เนื่องร้อย
ปล่อยปละละเลือนศรี............................สูญเสื่อม
ฤๅหยุดสุดสิ้นถ้อย.................................ถักสร้อยวรรณศิลป์ ๚