29 มกราคม 2545 21:21 น.

กวีวัจน์

วฤก

โคลงสี่สุภาพ

 ๏ ขานคำหวานฉ่ำล้ำ......................เลอเสียง
หลากพจน์บทพากย์เพียง................พาทย์พ้อง
เพลงหวานซ่านจำเรียง...................จรุงรื่น
ชวนดื่มด่ำคำซร้อง..........................เสนาะก้องกล่อมสวรรค์ ฯ

โคลงสี่สุภาพ กลบทโตเล่นหาง

 ๏ โคลงขานหวานแว่วแจ้ว.............จับใจ
โคลงพร่ำคำใครไข.......................ข่าวรู้
โคลงถนอมกล่อมใจใย..................ยึดอุ่น
โคลงเทิดเชิดชูกู้...........................ก่อชั้นวรรณศิลป์ ฯ

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

๏ หวานฉันท์ผสานเสียง................เสนาะเพียงเจรียงพิณ
เพลงสรวงสวรรค์ยิน.....................เฉพาะเทพ ธ เสพฤๅ 
๏ ลายลักษณ์สลักพจน์..................ตะละบทระบายสือ
เส้นสายและลายมือ......................ฉลุไว้วิไลตา ฯ

กาพย์ยานี ๑๑ 

๏ กาพย์กานท์หวานซ่านซึ้ง...........สำเนียงตรึงคำนึงหา
จากสรวงห้วงนภา.........................มากล่อมคำฉ่ำสำเนียง
๏ คำขับรับจังหวะ.........................วางระยะระหว่างเสียง
รื่นรสพจน์พากย์เพียง...................จำเรียงดังสังคีตชม ฯ

กลอนแปด

๏ มธุรสวาทีวจีหวาน.........................วาดกลอนกานท์กอปรความที่งามสม
โตเล่นหางวางพจน์บทนิยม...............ชวนภิรมย์รื่นคำฉ่ำชื่นใจ
รวมรักร้อยร้อยรักศุภักษร..................สร้างสรรค์กลอนกลอนงามชวนหวามไหว
กวีวัจน์อรรถรสพจน์วิไล.....................ประดิษฐ์ไว้ประดับกรรณนิรันดร์เทอญ ๚				
28 มกราคม 2545 07:40 น.

ม่านหมอก

วฤก

morning01.jpg

๑ ๏ มัวหมอกมืดแม้นม่าน................สุรีย์ฉานฉายผ่านแสง
หมอกไข้ใจคลางแคลง......................แจ้งจริงไขใช้ปัญญา ฯ

๏ มัวหมอกมืดหม่นแม้น...................ม่านพราง
สุรีย์ส่องแสงสาดจาง.........................แจ่มได้
หมอกใจหม่นใจหมาง.......................ใจมืด
แสงสว่างปัญญาไซร้..........................ส่องให้เห็นแสง ฯ

๒ ๏ อย่าปล่อยปลงดวงจิต.................เดินทางผิดพ้นธรรมฉาย
ทุกข์จิตสุดคิดคลาย...........................วายชีพวางอย่างมืดมน ฯ

๏ อย่าปล่อยปลงจิตข้อง......................ข่ายอบาย
เหินห่างจางธรรมฉาย........................ชืดร้าง
ทุกข์จิตสุดคิดคลาย............................ขมขื่น
ตนตื่นคืนสุขอ้าง.................................เอ่ยได้ฤๅไฉน ฯ

๓ ๏ หลักธรรมนำชีพใส.......................ล้างทุกข์ไปให้ผ่องแผ้ว
ธรรมส่องผ่องเพริศแล้ว.......................แววธรรมครองล้างหมองใจ ฯ

๏ หลักธรรมนำชีพแจ้ง.........................แจ่มใส
ล้างทุกข์เข็ญขุกใจ..............................จิตแผ้ว
ธรรมส่องสว่างไกล..............................เกริกก่อง
ธรรมส่องครองจิตแล้ว.........................จักมล้างมลายหมอง ๚				
22 มกราคม 2545 18:14 น.

มองเมฆ...มองตน

วฤก

sky01.jpg

๏ เมฆาคราปลิวลิ่วล่อง.........................เมียงมองหมู่เมฆเสกสรร 
ลวดลายหลายหลากมากพรรณ...............แผกผันภาพพิศคิดกล 
ต่างเห็นเป็นแปลกแผกลักษณ์...............ต่างทักถ้อยเอ่ยเผยผล 
ต่างใจไขต่างทางตน............................ต่างคนคิดต่างทางกัน 
บ้างว่าหน้ายักษ์จักเคี้ยว........................เข่นเขี้ยวขึ้งขุ่นหุนหัน 
บ้างคิดผิดแผลงแจ้งพลัน......................เทวัญวาดยิ้มพริ้มตา 
เพียงหนึ่งซึ่งเห็นเป็นต่าง.....................ใดพรางภาพผิดปริศนา 
ฤๅจิตคิดแสร้งแปลงมา........................เฟือนค่าคล้ายเพี้ยนเปลี่ยนไป 
มานึกตรึกตรองถ่องแท้.......................มาแลลอดพ้นกลไข 
มามองส่องซึ้งถึงนัย............................ตรองให้เห็นสิ่งจริงความ 
เมฆาคราปลิวลิ่วล่อง...........................ตรึกตรองติงให้ใจถาม 
ชื่นตาปรากฏงดงาม............................หรือทรามเสื่อมแท้แต่ใจ ๚				
20 มกราคม 2545 22:33 น.

มาเขียนโคลงกันเถอะ

วฤก


๏ รื่นรสพจน์พากย์พร้อง....................เพลงเพราะ 
เพียงพาทย์พิณเสนาะ.......................เสน่ห์น้อม 
สดับพจน์บทโคลงเกาะ.....................กุมเกี่ยว......กูเฮย 
สุดมุดหลุดรั้วล้อม............................รอบด้านสนานเสียง ฯ 

๏ เสียงเจรียงจรายร่ายนั้น..................เสนาะกรรณ 
เสียงพร่ำเพลงรำพัน..........................เพราะพริ้ง 
เสียงสนานซ่านสนองสันต์...................สนั่นนั่น......เสนาะนอ 
เสียงกร่อยปล่อยปละทิ้ง.....................ท่าวล้มสมไฉน ฯ 

๏ ไฉนไม่มาร่วมคล้อง.......................ลิขิตโคลง 
ไฉนไม่ร่วมจรรโลง............................รจน์ไว้ 
ไฉนไม่ใคร่คอยโยง............................ยึดเหนี่ยว 
ไฉนไม่ยอโคลงให้..............................ห่อนร้างเลือนศิลป์ ฯ 

๏ ศิลป์ศาสตร์พิณพาทย์ล้ำ..................รสเสียง 
ฤๅเปรียบเทียบเทียมเพียง..................พจน์พร้อง 
ขาดโคลงส่งเสียงเจรียง......................รสรื่น........เลอฤๅ 
โคลงส่งเสียงเสนาะซ้อง.......................ซ่านซึ้งศัพท์ผสาน ๚				
20 มกราคม 2545 19:55 น.

จงเตือนจิต ก่อนคิดรัก

วฤก


๏ ด้วยเพราะเหตุประเภทใดชวนให้รัก
หรือทึกทักทำไปไร้เหตุผล
อารมณ์ลวงดวงใจให้หลงกล
จึงวกวนวุ่นหลงคงภักดี

รักเริ่มแรกแทรกซ่านความหวานชื่น
ใครเล่าฝืนฝ่าฟันหันหน้าหนี
มิมีจิตจะคิดแจงแจ้งคดี
ว่ารักนี้น่าชมเหมาะสมกัน

ควรคิดตรองมองดูสักครู่หนึ่ง
ให้ลึกซึ้งสุดตาอย่าหุนหัน
หาเหตุผลกลแก้แผ่พรางพลัน
รู้นี้นั้นนั่นแน่ะ.... จึงแน่ใจ

ด้วยอารมณ์นิยมก่อนแต่ตอนต้น
ด้วยเหตุผลพาคิดวินิจฉัย
ด้วยสองสิ่งติงตรึกนึกทวนไป
จึงจักไขความรักประจักษ์จริง ๚				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวฤก