9 เมษายน 2552 21:24 น.
วฤก
๏ ลมพัดผันผ่านแล้ว...........ลืมไฉน
คำเอ่ยเคยขานไข................ข่าวแจ้ง
สัญญาผ่านเลยไป................เป็นอย่าง...ลมฤๅ
เห็นปล่อยหายกลายแกล้ง....กล่าวคล้ายสายลม๚
๏ เคยชมเคยชื่นเคล้า-........คลอประคอง
เนาสู่แนบชู้สนอง.................เสน่ห์ซ้อน
อภิรมย์รื่นสมสอง.................สองสุข...เกษมนอ
ลืมหมดรสสวาทร้อน.............สว่างเร้นเลือนไฉน๚
๏ ใบพฤกษ์กระเพื่อมพลิ้ว..พลิกผัน
ใจอาจฤๅเหหัน...................ห่างแล้ว
ใบไม้ก่ายใกล้กัน...............กลก่าย..กลายแม่
ใจก่ายใจใจแก้ว................จึ่งแก้จากกัน๚
๏ ลมพัดผันผ่านแล้ว..........ลืมคำ
ทีท่าที่กระทำ........................กระท้อน
สัญญาเสร็จกลับลำ...............ลบกลบ...แล้วอา
สับปลับสัญญาย้อน..............อย่างคล้ายสายลม๚ะ๛
วฤก : ๙ เมษายน ๒๕๕๒
4 เมษายน 2552 20:46 น.
วฤก
๏ ใต้แสงโคมโสมค้างระหว่างขั้น
เขาตั้งชั้นติดช่อลออฉาย
ระย้าพร้อยลอยพร่างวางดาวพราย
ระยิบย้ายหย่อมโพยมหยอกโสมเยือน
จังหรีดร้องคะนองเร้าความเร่าร้อน
กระชั้นช้อนโฉมใช่จะให้เฉือน
ละอายล้างจางลงจนหลงเลือน
ถึงสะเทื้อนสะท้านถอดยามพลอดเธอ
เห็นแสงโสมโลมเจ้ากระเง้ากระงอด
หึงโสมกอดกายน้องสนองเสนอ
ให้โสมหับดับเถิดละเมิดละเมอ
หากพี่เปรอปรนสิ้นมลินมลาย
ใต้แสงโคมโสมค้างระหว่างขั้น
เขาตั้งชั้นติดช่อลออฉาย
ระย้าพร้อยลอยพร่างวางดาวพราย
จึงเสื่อมคลายโสมคล้อยรอยมนต์คลุม ๚ะ๛
วฤก : ๔ เมษายน ๒๕๕๒
3 เมษายน 2552 18:55 น.
วฤก
๏ ชะรอยหรือคือเค้าร่างเงาฝัน
คือภาพขวัญพี่แขวนแทนถวิล
ยามไกลลับประทับลึกผนึกจินต์
ว่าไม่สิ้นเสียเธอละเมอครวญ
พู่ใบไม้ไกวกวักพยักเย้ย
ในรำเพยลมพัดสะบัดหวน
ขาดคู่ชิดสนิทนี่... ลมยียวน
เธอไม่ทวนทางฟื้นขมขื่นใจ
ครั้นห่างขวัญหันขวับขยับคว้า
ที่ได้มาแม่นเค้าเงาไฉน
จึงเลือนรางจางกรุ่นละมุนไอ
ระเหยไประหายเปล่าคนเฝ้ารอ
ชะรอยหรือคือเค้าร่างเงาฝัน
ที่เทวัญท่านไว้ให้พร่ำขอ
ชีพพลี พิธียัญฤๅนั่นพอ
ได้พะนอน้องบ้างก่อนวางชนม์ ๚ะ๛
วฤก : ๓ เมษายน ๒๕๕๒
29 มีนาคม 2552 22:45 น.
วฤก
ภาคตัวอักษร
๏ กระแสกรรมกำกับบังคับให้
แตกต่างไปเป็นกรรมกระทำผล
ชนกกรรมทำอิทธิฤทธิ์ดล
แต่เกิดตนก่อตัวกรรมพัวพัน
ทั้งชั่วดีที่เกิดเปิดโอกาส
อุบัติชาติใช้กรรมทำเหหัน
อุปัตถัมภกรรมช่วยอำนวยดัน
เดินต่างชั้นชาตะตามพลัง
กฎแห่งกรรมธรรมะพุทธพจน์
ใช่เพียงบทพร่ำบ่นสวดมนต์ขลัง
พึงพินิจวิชชาฆ่าเขลาบัง
บรรลุฝั่งฟากทิพย์ถึงนิพพาน
กระแสกรรมกำกับทั้งดับเกิด
หยุดกำเนิดกำหนดพ้นกลสงสาร
อโหสิกรรมจะละบันดาล
อุปาทาน อวิชชา ตัณหา ปลง ๚ะ๛
วฤก : ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๒
28 มีนาคม 2552 13:54 น.
วฤก
๏ เรียงเมฆเรียมเสกสร้าง........สรรค์ทรง
วาดหว่างกลางฟ้ารงค์.................เรขไว้
ศิลป์สรรค์กลั่นบรรจง................ระบายจาก...ใจแล
เขียนประกาศกลางหาวให้ .........กระหึ่มห้วงสรวงสวรรค์๚
๏ ระบายบรรณฉันเก็บฟ้า........กอบฝัน
มาห่อหุ้มสัมพันธ์.......................ผ่อนร้าง
เราสองประคองกัน....................ก้าวฝ่า-...ฟันเนอ
คนเหนื่อยคนหนึ่งข้าง...............ขับล้าขาดแรง๚
๏ สำแดงโดยเมฆฟ้อน.............ฟ่องลอย
สุหร่ายสายฝนปรอย.................ประพื้น
พาร้อนผ่อนแรงถอย................ราวถอด...ทิ้งนา
ฝนปลุกฝนปลอบฟื้น................ปลอดฝ้าแปลงฝัน๚
๏ เมื่อขวัญมองเมฆคล้อย........เคลื่อนมา
คือบทรจนา.............................แนบไว้
วางหาวกล่าวกถา.....................แท้จาก...พี่เอย
ซ้อนสลักซ่อนรักให้..................หากจ้องจึงเห็น๚ะ๛
วฤก : ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๒