15 ธันวาคม 2545 03:16 น.
วฤก
.
๏ ไม่อยากจำยิ่งจำยิ่งย้ำลึก
ไม่อยากนึกอยากเห็นยิ่งเด่นฉาย
ไม่อยากมองยิ่งมองจ้องมิวาย
ไม่อยากพ่ายอยากแพ้ขอแค่ลา
อยากลืมวันคืนวันสัมพันธ์ชิด
อยากปลงปลิดปลงใจเคยใฝ่หา
อยากอดกลั้นกลืนกลั้นอั้นน้ำตา
ที่ไหลบ่าไหลนองคับข้องใจ
ลืมให้หมดอดอกสะทกสะท้าน
ทรวงจะรานฤๅนั่นมิหวั่นมิไหว
จะเจ็บช้ำลำเค็ญก็เป็นก็ไป
ความขื่นไข้ขมปร่าจะท้าจะทาย
ไม่อยากจำยิ่งจำยิ่งย้ำลึก
ไม่อยากนึกอยากเห็นยิ่งเด่นฉาย
ไม่อยากมองยิ่งมองจ้องมิวาย
ไยจึงพ่ายจึงแพ้แค่อยากลืม ๚ ๛
13 ธันวาคม 2545 18:02 น.
วฤก
๏ เสียงกานท์หวานแว่วแผ่วพจน์
ราลดโรยอ่อนผ่อนหาย
เคยฟังฝังกรรณพลันคลาย
ราวทรายซึมผ่านซ่านชล
ระแหงแห้งขุ่นฝุ่นฟ่อง
คราบหมองมัวคลุกทุกหน
หาใดไหนชะกมล
ผ่านพ้นพบชื้นชื่นใจ
วรรณศิลป์สิ้นฤทธิ์มิดมืด
ชาชืดชีระสมัย
หมดมนต์ร่นถอยกร่อยไป
ทิ้งให้หายเหือดเผือดบรรณ
เสียงกานท์หวานแว่วแผ่วพจน์
ฤๅงดเงียบไร้ใครสรรค์
สดับศัพท์ซ่านผ่านกรรณ
เพียงฝันฟุ้งเฝื่อนเลือนราง ๚ ๛
13 ธันวาคม 2545 11:16 น.
วฤก
-๑-
๏ แสวงร่มหลบร่มไม้.......................หมายเย็น
พักเหนื่อยเพลาเหนื่อยเข็ญ..............ขุ่นร้อน
ระคายจิตเพ่งจิตเห็น........................หาที่........หลบฤๅ
หายทุกข์หายโศกข้อน.......................เข่นได้ใครแสวง ๚
-๒-
๏ แรงทุกข์โถมทุกข์ท้น....................ถมทวี
เสมือนหนึ่งมารหนึ่งตี.......................ต่อยซ้ำ
คิดร้อนยิ่งร้อนฤดี..............................ดาลเดือด
เย็นจิตเย็นอย่างน้ำ............................นิ่งได้ด้วยตน ๚ ๛
3 ธันวาคม 2545 00:50 น.
วฤก
.
-๑-
๏ เสียงแคนครวญโศกคล้าย.........................คำวอน
เรียมสั่งครั้งคราวจร....................................จากร้าง
หายไปใช่ใจรอน.........................................ลืมสวาท.............วายแม่
หวังอยู่คู่เคียงข้าง........................................คลาดแล้วลืมไฉน ๚
-๒-
๏ นกไซข้ามทุ่งข้าว....................................คล้อยบิน
คล้ายดั่งลืมถวิล...........................................ว่ายฟ้า
สูรย์รอนอ่อนแสงผิน.....................................โผกลับ.............รังเฮย
เสมือนดั่งเรียมแม้ล้า....................................เร่งข้ามคืนเรือน ๚
-๓-
๏ สุดสะแนนแคนเป่าเคล้า.........................คำครวญ
เพลงพร่ำพารัญจวน....................................จิตไข้
คำคะนึงพี่คระหวน......................................หาสุด..............สะแนนนอ
สนองโสตเสียงเพียงไห้................................หักห้ามหายถวิล ๚
-๔-
๏ แม่ฮ้างกล่อมลูกน้อย..............................นอนเปล
ปลอบหยุดเสียงโยเย...................................อย่าฮ้อง
เหลือใจหักใจเห.......................................หายห่าง.............นางเอย
ย่านห่างนานแล้วน้อง..................................นั่งฮ้องฮ้างหาย ๚
-๕-
๏ วอนสายลมพัดพร้าว............................พาคำ
ขับกล่อมเป็นลำนำ....................................เสนาะถ้อย
เสียงลายใหญ่ยังจำ..................................เจนจิต
เคยสดับกับลายน้อย.................................แน่งน้อยนอนฟัง ๚
-๖-
๏ แมงภู่ตอมดอกไม้................................ละมุนโลม
มือพี่ประโลมโฉม......................................เฉกนั้น
เชยเฉียดชื่นตระโบม.................................เบาแผ่ว
เพียงอย่างกางไหมกั้น................................กอดเคล้าครองถนอม ๚
-๗-
๏ เรียมลาฤๅลับแล้ว................................ล่องของ
ครั้นห่างไปไป่ปอง................................เปลี่ยนเพี้ยน
ชลธารซ่านท้นนอง................................น้ำหลั่ง.................ไหลนา
นั้นใช่ใจเทียบเที้ยน................................เท่าแท้แน่ไฉน ๚
-๘-
๏ ขับเสียงแคนคลับคล้าย.......................คำวอน
เรียมพร่ำพลอดสมร...............................สมัครชู้
ลายแคนออดออนซอน...........................เสียงสื่อ
แล่นแตร่แลแล่นรู้...................................รักล้นกมลหมาย ๚ ๛
.
26 พฤศจิกายน 2545 13:59 น.
วฤก
-๑-
๏ ฉายแสงสูรย์ส่องหล้า.....................เรืองรุจ
เห็นกระจ่างหนทางสุด......................ส่องให้
เออไฉนเหล่ามนุษย์.........................มนัสอับ.........ชอ่ำเอย
หลงต่ำหลงลงใต้..............................ตกเบื้องอบายบัง ๚
-๒-
๏ ยังทุกข์ใจไม่เว้น..........................วันวาร
พร้อมส่ำทรัพย์มหาศาล....................เสพสร้าง
อำนาจยิ่งกลับดาล...........................ดลเดือด
หาดับระงับล้าง................................เร่าร้อนผ่อนหาย ๚
-๓-
๏ ฉายแสงธรรมส่องจ้า....................จับใจ
เห็นทุกข์สมุทัย...............................ที่แท้
แลนิโรธร่วมมรรคไข.......................คอยมุ่ง...........พินิจนา
นั้นดับระงับแก้.................................กลบร้อนหลอนกมล ๚
-๔-
๏ ทศพลพิสูจน์แล้ว...........................อริยสัจ
สอนเหล่าเวไนยชัด...........................ช่องชี้
ชาวพุทธพ่างปฏิบัติ...........................อุบายบ่ง..........บอกนอ
ร้องบ่นบ่ายหลบลี้...............................เร่าร้อนฤๅไฉน ๚ ๛
.