16 มีนาคม 2547 11:24 น.
วฤก
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๏ คำหวานผสานพจน์.............รึสะกดกมลหมาย
มอมจิตนิมิตกลาย..................ผิวะคล้ายกะกลมนต์ ฯ
๏ มาเสกอเนกฤทธิ์................สวนิตสนานผล
พาหลงพะวงจน......................จรดลมิพ้นกัน ฯ
๏ ก็น้องจะปองฟัง...................วทะดังวิภังค์พรรณ
พาพจนาสรร...........................สรนั้นเสนอนวล ฯ
๏ น้ำคำและน้ำเสียง.................สุตะเพียงเผดียงหวน
หากแท้และแน่อวล..................ระอุอุ่นละมุนไอ ฯ
๏ อาบรักและภักดี...................นยะนี้สิแน่ไข
ขอน้องสนองใจ.......................ระบุไว้ระบายความ ฯ
๏ คำหวานผสานพจน์...............รึสะกดกมลหวาม
วากย์ในฤทัยตาม.....................รติมั่นฉะนั้นแล ๚ะ
๑๕ มีนาคม ๒๕๔๗
11 มีนาคม 2547 16:04 น.
วฤก
๏ คราครั้งยังเล็กเด็กนัก................ในหล้าน่ารัก
น่าเล่นเห็นสุขทุกหน ฯ
๏ หันใดใสจริงสิ่งยล....................ไร้ชั่วกลั้วกล
โฉดฉลเฉไฉไม่พาน ฯ
๏ เที่ยวเล่นเย็นย่ำสำราญ...............สุขล้ำฉ่ำมาน
มินานนักเพี้ยนเปลี่ยนแปลง ฯ
๏ เป็นหล้าพร่าคล้ำจำแลง.............เล่ห์ขวางคลางแคลง
เสแสร้งเสกสรรผันไป ฯ
๏ ตรองดูรู้เช่นเห็นนัย..................นั่นแท้แก้ไข
ฉุกใจจึงเห็นเป็นลวง ฯ
๏ สาระสะท้อนกร่อนกลวง............แก่งแย่งแข่งหวง
ค้นหาคว้าเปล่าเข้าฟัน ฯ
๏ ใครร้อนปล้อนโฉดโหดหัน........เห็นร้ายคล้ายกัน
เข่นตัวกลัวทุกข์จุกแด ฯ
๏ จงไขใดกันผันแปร....................โลกเปลี่ยนเพี้ยนแล
ฤๅแค่ความลวงห้วงจินต์ ๚ะ
๑๑ มีนาคม ๒๕๔๗
11 มีนาคม 2547 10:38 น.
วฤก
๏ เลี้ยงหมาหมาอยู่เฝ้า........ฝากฝัง
หมาดุดูระวัง......................ระแวดพร้อม
คอยเฝ้าเห่าเสียงดัง.............ใดบุก........รุกเฮย
ฮึ่มขู่ผู้เดินด้อม....................ดักไว้ไล่หนี ฯ
๏ กรณีนักข่าวเฝ้า................ฝากการณ์
ใครผิดครรลองขาน.............ข่าวรู้
ประโคมโหมเหตุพิจารณ์......แจ้งบอก
จึงเปรียบนักข่าวผู้................พึ่งได้ดังเสมือน ฯ
๏ เบือนข่าวกล่าวแต่ด้าน.......เดียวเสนอ
สนองท่านอยากยินเปรอ........เปลี่ยนให้
จรรยาหยุดเผยอ...................ยอมพ่าย
ยศเกียรติเงินตราได้..............ดับแล้วความผยอง ฯ
๏ มองหมาหมารกเรื้อน........เลียนาย
ขอเศษเนื้อตะกาย.................ตะกละขย้ำ
ขย้อนคาวข่าวลวงฉาย.........ฉ้อโฉด
นายโปรดบ้านเมืองช้ำ..........ช่างแม้นแม่งเฉย ๚ะ
๑๐ มีนาคม ๒๕๔๗
9 มีนาคม 2547 16:18 น.
วฤก
๏ เรียมวางระหว่างห้วง..........เวหน
ดาวประดับนภดล....................เด่นแพร้ว
ดึกพราวดั่งพากย์กล................เพลงกาพย์
พี่กล่อมถนอมแก้ว...................กอดเคล้าเคียงเขนย ฯ
๏ รำเพยลมพัดพลิ้ว................เพียงประโคม
เสียงขับสังคีตโหม.................เห่ร้อง
บรรเลงพี่บรรโลม..................บำเรอโสต
ซึ้งสดับกับกรรณน้อง..............เสนาะซ้องเสนอสาร ฯ
๏ ร้อยกานท์ลงกับฟ้า...............ฝากสวรรค์
นิราศนุชรำพัน........................พากย์ไว้
ภาพดาวพร่างพราวบรรณ.......ระบายบท
เพียงพจน์พี่โหยไห้..................ห่างน้องคะนึงหา ฯ
๏ ดาริการะหว่างห้วง.............เวหน
วางประดับนภดล...................ดึกคล้อย
ดังคำคร่ำครวญกล.................กานท์กาพย์
กรองกล่อมถนอมสร้อย..........ส่งน้องนอนฝัน ๚ะ
๙ มีนาคม ๒๕๔๗
6 มีนาคม 2547 23:51 น.
วฤก
๏ ปิดตาตรวจข่าวแก้..................กลบการณ์
ปิดปากพากย์พิจารณ์..................พิจักษณ์แจ้ง
ปิดเสียงศัพท์สื่อสาร...................สิ้นสุด
ฤๅหยุดยั้งยั่วแย้ง........................อยู่ได้ดังหมาย ฯ
๏ คนกระจายกระจัดทั้ง..............ธานี
ปากต่อปากเขามี.........................มากพร้อม
ความคำร่ำลือทวี........................ทวารหับ........หายฤๅ
โสตต่อโสตสดับอ้อม..................อรรถแม้นแทนกัน ฯ
๏ ฤๅพรั่นพรึงสัตย์แท้................ที่บัง
ถูกเบิกบอกเสียงดัง......................สดับได้
ผลประโยชน์เบี่ยงเบนหลัง...........หลบอยู่
ชูสู่ผู้คนไซร้................................สื่อให้เห็นฉล ฯ
๏ จึงทุรนเที่ยวรุกแก้....................กลบการณ์
จึงปิดปากพิจารณ์.......................พิจักษณ์นั้น
จึงปิดศัพท์สื่อสาร.......................สิ้นสุด
หมายหยุดยั้งบังกั้น......................กลบฉ้อฉลไฉน ๚ะ
๖ มีนาคม ๒๕๔๗