5 พฤษภาคม 2547 23:35 น.

+++ คือค่าวรรณศิลป์ +++

วฤก

๏ ฉันทลักษณ์ทรงหลักล้ำ.................เล่ห์ประพันธ์ 
ประพฤติอย่างระแบบบรรณ.............บ่งไว้ 
วรรณสารที่จารสรรค์.......................เจนศัพท์ 
จึงสดับเสพซับได้.............................ดื่มซึ้งซึ่งเสียง ฯ 

๏ เพียงประพิณประพัทธ์พร้อม.........ประพนธ์พจน์ 
ตรงระบอบตามกรอบกฎ..................กล่าวอ้าง 
บรรณสารบ่ซ่านรส..........................สมเล่ห์.............ประพนธ์เนอ 
ฉะนั้นอรรถมิอาจสร้าง.....................ส่งให้เห็นผล ฯ 

๏ กลประพันธ์ประภาษแล้ว..............รสความ 
คืออรรถบ่อาจงาม............................แง่ไซร้ 
รสคำต่ำสารทราม.............................สูญเสื่อม 
เสียบทรสความไร้............................เล่ห์ชั้นรังสรรค์ ฯ 

๏ ฉันทลักษณ์ทรงหลักล้ำ.................เชลงกานท์ 
ประกอบสรรพคำความขาน..............ขับแล้ว 
รสประพนธ์บ่พ้นวาร.......................วายสดับ 
ชนซับเสน่ห์แก้ว.............................กล่อมฟ้าวรรณศิลป์ ๚ะ 

๕ พฤษภาคม ๒๕๔๗				
3 พฤษภาคม 2547 08:24 น.

+++ กันเกรา ๒ +++

วฤก

๏ กันเกราเคล้ากลิ่นเนื้อ.........นวลปรางเหลือเจือจางหาย 
แรมร้างห่างฤๅวาย..................คลายจิตจินต์ถวิลนวล ฯ 

๏ กันเกราเคล้ากลิ่นเนื้อ.........นวลปราง 
เคยชื่นฤๅชืดจาง.....................จากได้ 
แรมร้างห่างหนทาง..................แถวเถื่อน 
จางเจื่อนฤๅจิตไร้.....................ละว้างวางถวิล ฯ 

๏ ประทิ่นกลิ่นแก้มน้อง...........แนบประคองปองชมฉม 
ชื่นชวนยวนนิยม....................ภิรมย์รสฤๅอดรอ ฯ 

๏ ประทิ่นปรุงกลิ่นเร้า.............รื่นรมย์ 
ประคิ่นประคองชม..................ชื่นนั้น 
เนาแนบแอบอกดม................ดอมกลิ่น.........แก้มเอย 
เอมรสเรียมอดกลั้น................สะกดได้ฤๅไฉน ฯ 

๏ ใคร่สมชมชื่นเคล้า..............สนิทเนาเฝ้าถนอม 
สมัครชู้อยู่มิยอม.....................ยาตรห่างกันเจ้ากันเกรา ฯ 

๏ ใคร่สมชมชื่นเคล้า..............ประคองนอน 
เนื้อแนบเนื้อสมร...................สมาสเนื้อ 
สมัครชู้อยู่มิรอน.....................แรมห่าง 
ร้างสวาทวางเว้นเรื้อ...............นิราศไร้ใจหาย ฯ 

๏ พระพายพากลิ่นฟุ้ง..............ฟ่องจรุงมุ่งไฉน 
กันเกราเร้าฤทัย.....................ให้ชื่นเคล้าฤๅเท่านวล ๚ 

๏ พระพายพากลิ่นฟุ้ง.............ฟ่องไกล 
หมายมุ่งจรุงไฉน...................นึกข้อง 
กันเกรากล่อมฤทัย................ฤๅเทียบ 
ฤๅเปรียบปานชื่นน้อง............แนบเคล้าครองถนอม ๚ะ 

๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗				
24 เมษายน 2547 22:46 น.

+++ กันเกรา +++

วฤก

๏ กันเกราเศร้าโศกใบโบกปัด
แกว่งกวัดกระท้อนลมร้อนเผา
กระเพื่อมเงื้อมงุ้มตะคุ่มเงา
ซึมเซาเสียงคำเคยจำนรรจ์

คราฝนชลชุ่มชอุ่มพื้น
เคยชื่นเชยชิดร่วมคิดฝัน
ว่าสองครองคู่ชื่นชู้กัน
ตราบวันวอดกัปจึงดับปลง

ผ่านหนาวร้าวรอนสะท้อนจิต
คู่คิดคล้ายเหมือนจะเลือนหลง
ลืมพี่ลี้ละรึอนงค์
พะวงผวาเจ้าลาไกล

หน้าร้อนร้อนอกวิตกหนัก
เกรงรักสะบั้นจึงหวั่นไหว
บอกกันกันเกราข้าเศร้าใจ
เป็นไปเป็นกันก็มันเป็น

กันเกราเศร้าโศกใบโยกแกว่ง
เรี่ยวแรงล้าอ่อนเกินรอนเข็ญ
กระเพื่อมเงื้อมงุ้มเคยคุ้มเย็น
เผยเห็นไฟเหงารอเผาทรวง ๚ะ

๒๓ เมษายน ๒๕๔๗				
24 เมษายน 2547 22:26 น.

+++ ทำบุญเพื่อหวังผล +++

วฤก

๏ ทำบุญหวังส่งย้อน.............ยังผล
เพื่อเสพซึ่งกุศล.....................ส่งให้
กระหายบุญขุ่นกมล...............กลุ้มหมอก....... กิเลศเวย
อานิสงส์ส่งไซร้....................สัตย์นั้นท่านเฉลย ฯ

๏ ทิฏฐธัมมิกัตถ์เกื้อ-.............กูลโภชย์
สำเร็จผลประโยชน์...............อย่างต้น
โภคทรัพย์ซึ่งเธอโปรด.........ปันแบ่ง..........กันเนอ
สนองอยู่อย่างนั้นพ้น............โผล่ให้เห็นผล ฯ

๏ สัมปรายิกัตถ์กล้า...............กุมใจ
จิตอิ่มเอมผ่องใส..................สุดกลั้น
คือทรัพย์สะสมไป................เป็นดั่ง........เสบียงนา
นับประโยชน์ของโภคนั้น......ภพหน้านำสนอง ฯ

๏ ปรมัตถะแท้....................ที่สุด
ถึงฝั่งธารวิมุต.....................มุ่งพ้น
ทิ้งประโยชน์เพื่อตนผุด.......ผลตอบ........แทนพ่อ
คือศุภกุศลล้น......................เลิศล้ำนำเสวย ฯ

๏ ทำบุญหวังส่งย้อน..........ยังผล
ตามภพภูมิกมล.................แม่นแล้
จิตโลภประโยชน์ดล..........ได้ประโยชน์.....หนึ่งแล
จิตละกิเลศแก้..................ก่องแท้ทุกข์ปหาน ๚ะ

๒๓ เมษายน ๒๕๔๗				
21 เมษายน 2547 11:13 น.

+++ ปล่อยนก +++

วฤก

๏ เขาพรากจากทุ่งข้าว..............ขังกรง
ขาดหมู่มาพลัดหลง...................เหล่าพ้อง
เพื่อคนสะเดาะเคราะห์ปลง........เขาปล่อย..........ไปเอย
วิหคหักเคราะห์ข้อง-................ขัดให้คลายไฉน ฯ

๏ วิสัยกรรมกรรมก่อนั้น............สนองกรรม
เวรบาปบาปตามนำ...................เนื่องไซร้
ผลบุญจากบุญทำ......................เธอประกอบ.......ก่อนนา
สรรเพชญสำแดงไว้.................ว่าแท้กรรมวิถี ฯ

๏ วจีสดับมิซับซึ้ง.....................ซึ่งกถา
ถูกจิตมืดมิจฉา..........................ฉุดล้อม
เห็นบาปว่าบุญพา......................เพื่อข่ม............เข็ญเวย
ว่าปล่อยนกนั้นพร้อม.................ผ่านพ้นภัยผล ฯ

๏ คนพรากจากทุ่งข้าว..............ขังกรง
คือบาปเขาทำลง.......................ล่วงแล้ว
ซื้อนกสะเดาะเคราะห์คง...........คือส่ง-...........เสริมนอ
นกปล่อยไปฤๅแคล้ว-.................คลาดเว้นเวรสนอง ๚ะ

๒๐ เมษายน ๒๕๔๗				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวฤก