25 ตุลาคม 2547 02:13 น.
วฤก
๏ โสมแสงผ่องส่องผ่านผืนม่านเมฆ
เหมือนสร้างเสกสรรค์ทรงชวนหลงฝัน
เป็นรูปต่างร่างแต่งเปลี่ยนแปลงพรรณ
ใครไหนปั้นปรุงนะเรียมคะนึง
เมฆคล้ายซุ้มงุ้มเงาวาดเค้าร่าง
เล็บมือนางในสวนรัญจวนถึง
ที่เคยกอดพรอดพร่ำรักรำพึง
ถ้อยคำซึ้งสู่นางมิจางใจ
เยือกลมหนาวคราวพานสะท้านนัก
หนาวลมจักเหนือจิตเรียมคิดไข
ความหนาวเนื้อเหลือที่จะมีไฟ
ฟ่องอุ่นไออังอาบกำซาบทรวง
เล็บมือนางกลางคืนสะอื้นอ้อน
โอ้อย่างอนเง้าขึ้งเพราะหึงหวง
เรียมรึจะละลาสุดาดวง
เพียงเพราะล่วงเลยกาลพ้นผ่านวัน
ใช่แสงผ่องส่องผ่านผืนม่านเมฆ
เพื่อสร้างเสกทรวดทรงให้หลงฝัน
เรียมสมัครรักนี้นานนิรันดร์
รอไฟกัลป์ฝังกลบจึงลบเลือน ๚ะ
๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗
24 ตุลาคม 2547 20:18 น.
วฤก
๏ ติดตั้งแผงแต่งซุ้มซอกมุมตึก
ก้นตรอกลึกตลาดคนวาดฝัน
ถูกเบียดชิดติดตรงขอบวงวรรณ
นั่งรังสรรค์หนังสือทำมือมา
ถ้อยร้อยเรียงเสียงพากย์หลายหลากเรื่อง
สรรค์บรรเทืองธารบรรณเริงหรรษา
สานงานจัดวัจนะมิละรา
ตามนามว่านักเขียนผู้เพียรการ
สร้างหนังสือมือทำตรากตรำนัก
ไม่รู้จักฤๅจะรู้สถาน
สิ่งเธอใฝ่ใคร่ฝันใครบันดาล
เธอต้องสานแต่งสรรค์ปลุกปั้นเอา
นั่งเฝ้าแผงแฝงตรอกตรงซอกตึก
คงยอกลึกอยู่ในหัวใจเหงา
นอกทำเนียบเปรียบไปคงใช่เรา
ผู้ยังเฝ้ารังสรรค์วรรณกรรม ฯ
๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๗
13 ตุลาคม 2547 11:42 น.
วฤก
๏ ฟังข่าวสารขานศัพท์เพื่อรับรู้
ลองเพ่งดูเผยใดคือนัยแฝง
ฝังกลเงื่อนเกลื่อนงำการสำแดง
จะเห็นแจ้งเหตุจริงจากสิ่งบัง
ด้วยเพราะเปลี่ยนเพี้ยนแปลงตกแต่งเรื่อง
เป็นเช่นเครื่องชักความเฉตามหลัง
เขาฉาบป้ายฉายปะพึงระวัง
ยามรับฟังรู้ใฝ่การใคร่ครวญ
โฆษณาค่าสนองแค่ต้องเชื่อ
ครอบครองเหนือคนนั่นพาผันผวน
ให้คิดแท้แค่ที่เขาชี้ชวน
ตามกระสวนการสื่อยึดถือมา
แม้นใครหลงคงเลอะเป็นเซอะเซ่อ
ลืมตนเพ้อตรองพิศเห็นมิจฉา
เพียงถ้อยคำทำควันคลุมปัญญา
จะชักพาฉุดพรากก็ลากไกล
อย่าพลั้งจิตผิดจากผู้มากพร้อม
เห็นสิ่งปลอมสร้างแปลงไม่แจ้งไข
กระพี้แก่นแผนกลวงหลอกลวงใด
ย่อมล่อให้หลงหนพิกลกัน
ฟังข่าวสารขานศัพท์จงรับรู้
พินิจดูไหนดังแกล้งรังสรรค์
รู้แก้ไขไกลเขลาเห็นเท่าทัน
กลเล่ห์ปั้นฤๅปราชญ์หลงพลาดตาม ๚ะ
๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๗
14 กันยายน 2547 11:33 น.
วฤก
๏ ใบตองแต่งพุ่มซุ้ม..............ทรงพนม
แทนสิขเรศสม.....................เสกสร้าง
สุเมรุสมาคม........................ครบหมู่
มวลเหล่าเทพล้อมข้าง...........เขตไหว้บายศรี ฯ
๏ บัดพลีบวงเพื่อเชื้อ.............เชิญขวัญ
ขอประสิทธิประสาทสรรค์.......เสร็จได้
ดังพราหมณ์พร่ำรำพัน............ร้องเพรียก
พาสู่องค์ลงใกล้....................กลับเหย้าเยอขวัญ ฯ
๏ อย่าทันเที่ยวเถื่อนถ้ำ..........แถวไพร
หลงสถิตสถานไกล...............สกัดกั้น
จงฟื้นตื่นหลงใหล..................แล้วกลับ
รู้รับเสียงเรียกนั้น..................เหนี่ยวเข้าคืนองค์ ฯ
๏ บรรจงแต่งพุ่มซุ้ม...............ทรงพนม
เสนอดอกผกาชม..................ชื่นเน้อ
ญาติมิตรสมาคม...................ครบหมู่
คอยอยู่มาเถิดเย้อ.................อย่าลี้เลยขวัญ ๚ะ
๑๔ กันยายน ๒๕๔๗
9 กันยายน 2547 13:47 น.
วฤก
๏ สัตว์ล่าเหยื่อเพื่อหาภักษาหาร
คนพร่าผลาญเฉพาะผู้ศัตรูหมาย
ด้วยแรงโกรธโฉดจิตกล้าปลิดวาย
ความดุร้ายจึงเห็นเป็นสากล
ครั้งเหตุการณ์ประหารหมู่เมื่อรู้เหตุ
ความสังเวชสำแดงทุกแห่งหน
สิบเอ็ดกันย์วันฆ่าประชาชน
ล้วนแต่คนบริสุทธิ์ที่หยุดปราณ
นี่หรือเหยื่อเหลือสัตว์ขบกัดร่าง
ถูกทิ้งขว้างครั้งฆ่าเป็นอาหาร
หรือศัตรูผู้ร้ายหมายประจาน
ด้วยเดือดดาลจึงทำเพื่อหนำใจ
สัตว์ล่าเหยื่อเพื่อหาภักษาหาร
คนพร่าผลาญศัตรูรู้วิสัย
ผู้ฆ่าผู้บริสุทธิ์มนุษย์ไย
ฤๅว่าใช่สัตว์นรกสาธกกัน ๚ะ
๘ กันยายน ๒๕๔๗