31 พฤษภาคม 2551 23:16 น.
วรรธนภิโยกุล
กลับมาอีกครั้ง
กลับมาเล่าเรื่องราวให้ฟังกันอีกหน
เงียบหายไปนานด้วยความกังวล
และความสับสนในบางสิ่งที่ถูกประนาม
ก็เลยอยากฝากเรื่องราวมาถามไถ่
กับใครต่อใครที่เคยเจอเหตุการณ์ประมาณนี้
ถูกจองเวรจองกรรมมันทุกข์ทรมานใจสิ้นดี
ไม่อยากเป็นเป้านิ่งให้ใครตบตีที่ทารุณกรรม
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่
ใจอ่อน...อ่อนแอท้อแท้แลสิ้นหวัง
ไม่มีแล้วแม้ใครสักคนที่คอยปลอบคอยฟัง
มีเพียงใจที่สิ้นหวังลำพังเอย
20 พฤษภาคม 2551 09:19 น.
วรรธนภิโยกุล
อยากมีชีวิตที่เรียบง่าย
อยู่สบายๆอะไรแบบนั้น
ไม่ต้องมาคิดมากอยู่ทุกวัน
อยากอยู่อย่างสงบเงียบงันฉันท์แม่ชี
++++++++++++++++++++++
แม้มีเงินทองกองตรงหน้า
ก็ไม่อาจค้นหาความสุขที่แท้จริงได้
ความพอเพียงต่างห่างคือความสุขระยะไกล
และความจริงใจนั่นไงความสุขที่ยั่งยืน
++++++++++++++++++++++
อยากได้..อยากมี...เหมือนคนอื่น
แม้กล้ำกลืนฝืนทนยังคงทนไหว
แม้ไม่อาจปลงหัวจิตปกปิดหัวใจ
ก็ไม่สามารถตัดกิเลสที่ใครๆยังคงมี
++++++++++++++++++++++
20 พฤษภาคม 2551 09:11 น.
วรรธนภิโยกุล
ในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้
คนไทยทุกที่ลำบากยากเข็ญ
เครียดกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น
แทบหาความสุขไม่เห็นเป็นเช่นใด
ราคาน้ำมันก็ขึ้นอีก
กระเป๋าแทบฉีกก็ต้อนทนไว้
น้ำมันแพงแต่ค่าแรงไม่เพิ่มขึ้นเท่าไร
เวรกรรมที่เราต้องใช้..ใช้หนี้แทนรัฐบาล
ไหนจะค่าหน่วยกิตก็แพงขึ้น
ลง4ตัวตั้งสองหมื่นแทบยืนไม่ไหว
คนหาเช้ากินค่ำเล่าเขาจะทำกันฉันท์ใด
ไม่รู้จะหาตังค์ทางไหนมาใช้หนี้กัน
17 พฤษภาคม 2551 21:36 น.
วรรธนภิโยกุล
เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
ในใจจึงยังคำนึงและห่วงหา
ก็แค่ผู้หญิงธรรมดา
ที่ไม่มีใครเห็นค่าความสำคัญ
หน้าตาก็ธรรมดาบ้านๆ
ไม่ได้คอยระรานใครๆที่ไหน
แม้ตอนนี้ยังมีรอยช้ำเป็นจุดเป็นจ้ำที่หัวใจ
แต่ก็ยังไม่เคยคิดสองใจเหมือนใครๆบางคน
เป็นเพียงผู้หญิงขี้แง
ทั้งอ่อนแอทั้งอ่อนไหว
นิสัยก็ไม่ดีขี้น้อยใจ
ชอบให้ใครห่วงใยแต่เอาใจใครไม่เป็น
17 พฤษภาคม 2551 21:18 น.
วรรธนภิโยกุล
โรคร้ายยังพอมีทางรักษา
แต่โรคอิจฉารักษาไม่หาย
โรคร้ายเค้ารักษากันทางกาย
แต่โรคอิจฉาต้องรักษาที่หัวใจใครที่เป็น