29 มีนาคม 2551 11:11 น.
วรรธนภิโยกุล
ในตอนนี้เวลานี้
คนดีจะรูตัวบ้างไหม
ว่าอะไรบ้างที่ฉันชอบหรือประทับใจ
แล้วอะไรที่ฉันไม่ต้องการเจอ
ชีวิตรักของเรา
ยิ่งคิดยิ่งเศร้าเกินทนไหว
ทั้งที่อยู่ใกล้กลับเหมือนมันแสนห่างไกล
หรือบางอย่างในใจเธอเปลี่ยนแปลง
ฉันก็เป็นฉันคนเก่า
แต่เธอเหล้าเหมือนเดิมเดิมไหม
เหล้ายาปาปิ้งกินทุกสิ่งมันเข้าไป
จะเลือกเหล้าหรือเลือกใครก็บอกกัน
มันรับไม่ได้หรอกนะ
จู่ๆเธอนะก็เปลี่ยนเป็นคนแบบนี้
ฉันเองก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่แสนดี
แต่รับไม่ได้ถ้ามีแฟนกินเหล้าเคล้ากากีอย่างเธอทำ
มันฟังดูมากเกินไปไหม
ที่จะมาบังคับใจใครแบบนี้แบบนั้น
ถ้าฉันทำอย่างเธอบ้างเธอจะรู้สึกอย่างไรกัน
ที่ต้องมีแฟนเป็นผู้หญิงที่วันๆเมาเหล้าเมายา
+++++++++เรื่องจริงที่เป็น+++++++++
เธออ้วนขึ้นพุงกลมแถมก้นป่อง
ผิวกายหมองคล้ำหน้าตาไม่สดใส
ได้แต่นั่งมองเธอแล้วนึกขำอยู่ในใจ
เห็นเธอทีไรนึกว่าเสนาหอยอ้วนดำๆ
เธอเริ่มจะเป็นเสนาหอย
พุงยื่นก้อนย้อยประมาณนั้น
หน้าตาก็เริ่มเข้าทางกัน
น่าส่งเธอไปประชันกับเสนาตัวเป็นๆ
29 มีนาคม 2551 10:53 น.
วรรธนภิโยกุล
เก็บเอารูปใบเก่าๆ
ที่ฉันและเขาเคยถ่ายไว้
ดูฉันก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป
แต่ทำไมเธอในรูปดูดีเกินจริง
อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้
ที่ทำให้ฉันหลงเธอเมื่อปีที่แล้ว
แต่วันนี้ดูเธอสิมอมแมมเหมือนลูกแมว
ฉันเห็นเธอตอนนี้แล้วแทบจุกตาย
แต่กับวันนี้ความรักที่เรามีเริ่มจางหาย
หน้าตาเธอก็เปลี่ยนไปเสียมากมาย
คิดๆแล้วน่าเสียดายความดูดี
จะว่าไปตอนนั้นฉันมันก็ใจง่าย
ใจเร็วด่วนได้สายฟ้าแลบ
แค่ทิฐิตอ้งการเอาชนะเพื่อนตัวแสบ
ที่มันเคยแอบชอบเค้าเราแย่งมัน
ถ้าตอนนี้ยังมีพรเหลืออีกสักข้อ
ฉันจะขอให้ช่วยต่ออดีตให้ได้ไหม
เพราะเมื่อก่อนเธอเคยอ้อนเคยตามใจ
แต่วันนี้กลับเปลี่ยนไปไม่เหมือนใจเราต้องการ
ถ้าเป็นเมื่อ3ปีที่แล้ว
เธอคงจะเป็นแค่ลูกแมวร้องแง๊วๆตามติดฉัน
ในวันนี้สิ่งที่มีกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เธอเริ่มกลายเป็นคนดุดันจนฉันกลัว
29 มีนาคม 2551 10:37 น.
วรรธนภิโยกุล
ทุกครั้งฉันเฝ้าบอกกับตัวเอง
ว่าฉันนั้นยังคงเก่งอยู่เสมอ
กับทุกๆครั้งที่มีปัญหากับเธอ
ฉันถึงกับยืนเอ๋อ..คำพูดเธอหยาบคาย
คำพูดที่ไม่น่าประทับจับใจ
ที่ฉันคิดไว้เธอคงไม่พูดแย่ๆ
แต่เมื่อวันนึงฉันจึงต้องยอมแพ้
และยอมรับว่าฉันเองน่ะอ่อนแอกว่าใครๆ
คำพูดปลอบประโลมหัวใจ
มันต้องใช้มึง-กูด้วยเหรอ?
แต่ฉันก็คงไม่กล้าจาถามเธอ
เพราะกลัวเธอเผลอทำร้ายร่างกาย
////////////////////////////
ก็มีหลายครั้งที่เธอรับปาก
จะไม่ยอมให้คนที่เธอรักลำบากกว่าที่เห็น
ฉันทนฟังคำที่เธอพร่ำทุกเช้าเย็น
แต่สิ่งที่เธอทำให้เห็นมันกลับไม่เป็นดังคำเธอ
ฉันเคยคิดว่าฉันนั้นคงทนได้
กับอารมณ์ร้ายๆที่เธอเผลอ
แต่กับทุกๆครั้งที่ฉันยังต้องพบเจอ
ก็ยังไม่เห็นว่าเธอจะไม่เผลอพลั้งใจ
พอแล้ว..........พอ..พอแค่นี้
ใจฉันมันอ่อนล้าเต็มทีแล้วรู้ไหม
ถ้าการรักกันมันทำให้ฉันต้องหนักใจ
ยอมอกหักดีกว่าไหมที่ใจจะชา
บนโลกมีคนนับร้อยพัน
ที่คอยเฝ้าฝันแสวงหา
เพียงความรักความเมตตา
แต่เหมือนว่ายังหากันไม่เจอ
แต่ในความที่เป็นจริง
ไม่มีใครดีพร้อมไปทุกสิ่งอย่างที่ฝัน
มีแต่คนคอยจ้องทำร้ายกัน
อย่าไปฝากความฝันไว้กับมันเลย
ส่วนตัวฉันยอมรับในวันนี้
ความรู้สึกที่เคยมีเริ่มจางหาย
กับสันดารจริงทุกสิ่งของชาย
ที่คอยเข้ามาทำร้ายใจให้แหลกราน
28 มีนาคม 2551 19:45 น.
วรรธนภิโยกุล
เมื่อคนเราได้เกิดมาในชาตินี้
ต้องคอยชดใช้หนี้กรรมเคยทำไว้
เจอทั้งสุขทั้งทุกข์อยู่ร่ำไป
แต่ขอให้ใจเข้มแข็งไว้ก็เพียงพอ
แม้ปัญหาจะเข้ามาในชีวิต
ก็ให้คิดว่านั่นเป็นบททดสอบจากสวรรค์
ใช้สติแก้ปัญหาอย่างฉับพลัน
ปัญหานั้นก็จะพลันสิ้นสุดลง
หากใครเจอเรื่องราวที่แย่ๆ
ขอเพียงใจอย่ายอมแพ้ย่อมสู้ได้
ทุกปํญหามีทางออกอยู่แล้วไง
อย่ามัวแต่นั่งร้องไห้กับเรื่องเลวร้ายที่พบเจอ
ลองระงับความโกรธลงเสียบ้าง
เร่งหาช่องทางแก้ไขไม่ดีหรือ
ทุกคนเกิดมามีสมองกับ2มือ
ขอจงอย่ายึดถือปัญหาใด
เมื่อมีเกิดก็ย่อมต้องมีดับ
เราต้องปรับหัวใจเข้าไปหา
ยึดทางสายกลางหรือมัชฌิมา
แล้วค้นหาความสงบจากพุทธธรรม
ดังคำกล่าวของพระพุทธเจ้า
ทุกอย่างมิได้เป็นของเราที่ท่านสอน
ขอจงอย่ายึดมั่นในความอาวรณ์
จงมองละครแล้วย้อนมองดูตน
พึงระงับความโกรธความโลภหลง
ด้วยการปลงทุกสิ่งนั้นไม่เที่ยง
ชีวิตเรานั้นคล้ายไฟตะเกียง
ไม่จีรังยั่งยืนเที่ยงแท้แน่นอน
ดับไฟราคะที่สุมอก
ด้วยการดูหนังตลกกันดีกว่า
สร้างรอยยิ้มให้แทนที่รอยน้ำตา
คงดีกว่าการจองเวรจองกรรมใคร
หาเพลงเพราะๆฟังสักหน่อย
แล้วจงปล่อยจิตใจให้คลายเศร้า
พึงสังวรณ์ว่าไม่มีความแน่นอนในชีวิตเรา
แล้วจงเอาความเหงาเป็นบทเรียน
เมื่อเรารู้แหล่งที่มาจะหาผล
ก็ไม่จนปัญญามิใช่หรือ
ถ้าเป็นคนไม่ได้เป็นกระบือ
คงคิดได้ว่าสิ่งไหนคือความจริง
ลองเปิดใจตัวเองดูสักที
อย่าให้กรรมชั่วบทบังกรรมดีที่ทำไว้
จงตั้งมั่นอย่าถือโทษไปโกรธใคร
อีกไม่นานเราก็ตายเหมือนๆกัน
ไม่มีจะอยู่เค้าฟ้าได้
ไม่มีใครไม่เคยเสียใจในชาตินี้
อย่าไปคิดแก่งแย่งชิงความดี
เพียงเท่านี้จิตก็มีกุศลผลบุญเอง
แม้นเค้าด่าก็อย่าด่าเค้าตอบ
แม้นไม่ชอบหน้าเขาเราก็เฉยเสีย
แม้นรู้เช่นเห็นชาติว่าเค้าหน้าตัวเมีย
ก็จงอย่าไปเสียใจแล้วด่าทอ
ยิ่งเค้าเห็นเราเสียใจมากเท่าไหร่
เค้าก็ยิ่งกระหยิ่มใจมากเท่านั้น
คนทุกวันมันมิซื่อถือสัจธรรม
ปล่อยไปตามเวรตามกรรมของมันเอง
แค่เสียใจก็ไม่ได้ชีวิต
จะถูกผิดรู้แก่ใจใช่ใครเห็น
อย่าไปสนคำพูดของคนปากเป็น
ทำไม่รู้ไม่เห็นเดี๋ยวมันก็ดี
คำพูดจาถากถางของคนชั่ว
อย่าไปกลัวเก็บมาคิดให้ปวดหมอง
จงใช้สติคิดตรึกตรอง
จะร้องไห้ให้ได้อะไรกัน
ตัวเราเจ็บคนทำจะรู้ไหม
เราเสียใจใครบ้างจะแลเหลียว
คิดเสียว่ามันแค่ผู้ชายบ้าๆเพียงคนเดียว
อย่าเอาเรื่องมันมาเกี่ยวให้เปลี่ยวใจ
28 มีนาคม 2551 07:45 น.
วรรธนภิโยกุล
ยามเมื่อเราเจอพายุร้าย
ที่เข้ามาทำลายให้ใจเสีย
ขอเพียงแต่กายใจอย่าอ่อนเพลีย
เรื่องแค่เนี๊ยเดี๊ยวมันก็ผ่านไป
ฟ้าหลังฝนมันต้องมีอยู่แน่ๆ
เพียงแต่ใจอย่าอ่อนแออย่าท้อแท้ก็สู้ได้
คิดเสียว่ามันเป็นเพียงมรสุมที่เลวร้าย
สู้ๆสู้ตายอย่าถอดใจ
เพียงแค่เราเปิดตามองทุกสิ่ง
เราจะพบความจริงที่ตรงหน้า
อย่าไปมัวหมองทนทุกกับเรื่องเก่าที่ผ่าน
ไม่นานไม่ช้าเดี๋ยวมันก็คงผ่านไป
ในบางครั้งที่สุดแย่
ก็มีแม่นี่แหละคอยปลอบเศร้า
คลายทุกข์ในใจให้หายเหงา
กับเรื่องสุขทุกข์เรื่องเศร้าที่เราเจอ
อะไรๆก็คงต้องมีทางออก
แม่เราเฝ้าบอกอยู่แบบนี้
ขอบคุณฟ้าที่ส่งรักมีค่าที่สุดในปฐพี
รักแท้ของแม่นี้ยาหแท้หาใครแทน
แม้แต่คนที่เคยรักพร่ำว่ารักเรา
แต่กลับสวมเขาให้เราได้
พักเรื่องรักแล้วหันมาดูแลแคร์หัวใจ
เริ่มต้นชีวิตใหม่กับอะไรๆที่ดีกว่าเดิม
ต่อจากวินาทีที่ตรงนี้
จะไม่มีคราบน้ำตาให้กับเขา
จะรักแต่ตัวเองรักตัวเรา
เพื่อทำใจให้ลืมเขาในสักวัน
อาจต้องใช้เวลาที่นานกว่านี้
จิตใจฉันมันคงดีขึ้นมาบ้าง
กับหัวใจช้ำๆที่บอบบาง
คงจะไม่อ้างว้างตลอดไป
ยังไม่อยากเปิดใจรับใครอื่น
กลัวต้องนอนสะอื้นเหมือนคืนเก่า
รอเวลารักษาใจให้ทุเลา
คงต้องอยู่อย่างเหงาๆสักพักนึง
พยายามทำใจยอมรับโลก
ไม่ทุกโศกกับทุกสิ่งที่วิ่งหา
ทำใจให้เป็นกลางจิงใจไม่ไก่กา
เอาน่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลืมเธอ
ถ้าฉันสามารถแปลงร่างได้ดังใจคิด
จะเปลี่ยนชีวิตเป็นโดเรมอน
ไม่ทุกข์ใจไม่เดือดร้อน
เป็นโดเรมอนแสนสบายใจ
แถมยังมีกระเป๋าใส่ของวิเศษ
เหมือนแม่มดที่มีเวทย์มนต์ขลัง
มีเครื่องเติมแรงใจให้พลัง
มีของวิเศษให้ความหวังใจโทรมๆ