3 พฤษภาคม 2551 15:54 น.
วรรธนภิโยกุล
พูดไปใครเค้าจะเชื่อ
ก็เมื่อยังมีไฟมาใส่ความอยู่แบบนี้
คิดๆแล้วมันเสียใจจังยังเสียหายอยู่ทุกที
ไม่เห็นว่าใครจะมีท่าทีที่เชื่อเรา
ยอมรับว่าแก่นแก้วกระเดกกระโดก
แต่ไม่เคยมัวเมาในโลกแห่งความฝัน
กล้าที่จะนั่งยันยืนยัน
ว่าฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้นจริงๆ
เฮ้อ! กลุ้มใจจัง
ที่พวกปากหอยปากปูยังระรานอยู่แบบนี้
ใครต่อใครต่างพากันมองว่าเราไม่ดี
แต่ใครกันจะรู้ความที่จริงมีเป็นเช่นไร
เข้าใจอยู่..อันนินทากาเลเหมือนเทแกลบ
ไม่เจ็บแสบเหมือนเอามีดมากรีดเฉือน
เช่นคนใจมารพาลเรื่องดีให้ร้ายป้ายบิดเบือน
แต่ทนไม่ได้เหมือนใจถูกเชือดเฉือนด้วยคำคน
ต่อหน้าเราเค้าทำทีไมตรีมิตร
ลับหลังคิดจ้องจะอิจฉา
มุสาหาป้ายสีเราต่างๆพรรณนา
จนทุกคนเค้าเห็นว่าเป็นจริงทุกสิ่งอัน
2 พฤษภาคม 2551 13:25 น.
วรรธนภิโยกุล
ไม่ได้บ้าผู้ชายเหมือนที่ใครเค้ากล่าวหา
ไม่ได้เสแสร้งมารยาให้ใครหลง
ไม่ได้ปลงกิเลสแล้วดังเช่นพุทธองค์
รัก โลภ โกรธ หลงยังคงต้องเป็น
แม้นใครมาเหน็บแนมให้แสบจิต
ก็ไม่ได้คิดถือโทษเคืองโกรธเขา
แม้ใครปองร้ายก็ไม่มุ่งหมายจะคืนเอา
ไม่ถือเอาความโกรธมาสุมทรวง
พยายามทำดีถึงขนาดนี้
แต่ทำไมเค้า(ผู้อาฆาต)จองเวรยังคิดแง่ดีไม่ได้
เห็นแต่เค้าเฝ้าคิดแผนร้ายคอยทำลายเราเรื่อยไป
ไม่รู้ว่าต้องทำอานิสงฆ์ผลบุญใดเพื่อให้เค้าไปจากเราเสียที
เหตุใดเล่าพวกเค้าจึงเป็นเช่นนี้
เราทำดีกลับตอบแทนเราไม่ดีอย่างที่เห็น
สู้อุตสาห์แผ่เมตตาให้เขาเช้ายันเย็น
แต่กลับถูกเค้าขู่เข็ญเป็นอาจิณ
ทำไมต้องพยาบาทอาฆาตจิต
แอบใจคิดริษยาอิฉาฉันท์
จะก่อเวรกรรมไปเพื่อใครกัน
ไม่ช้านานเวรที่ทำก็ย้อนกลับไปหาตัว
ควรหมั่นสร้างคุณงามความดีไว้
ฝึกจิตใจให้ผ่องใสไม่หม่นหมอง
คิดทำสิ่งใดๆให้ถูกต้องตามครรลอง
มิช้าคงสมใจปองค่าของกรรมดี
28 เมษายน 2551 20:36 น.
วรรธนภิโยกุล
เธอกลับมาขอคืนดีอีกสักครั้ง
เธอขอแก้ไขอะไรที่ทำพังกับฉันไว้
เธอขอให้เราย้อนคืนวันหวานที่ผ่านไป
เธอขอให้ฉันมองเธอเสียใหม่อีกสักที
เธอวอนขอต่อฉัน
จะไม่มีวันทำน้ำตาฉันให้ต้องเสีย
เธอขอโทษที่ทำให้ฉันโกรธจนใจเพลีย
เธอบอกว่ารักฉันเกินกว่าจะยอมเสียให้ใครอีกคน
แล้วทำไมมาพูดเอาตอนนี้
ตอนความรักที่เคยมีเริ่มจางหาย
ไม่มีค่าเพียงพอให้ฉันนั้นเสียดาย
รู้ซึ้งแล้วกับผู้ชายสันดารหลายรักอย่างเธอ
เชิญไปอ้างสัจจะกับคนอื่น
ฉันจะไม่ทนฝืนให้ใจสลาย
ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเข็ดแทบตาย
ไม่มีวันที่ฉันใจทำใจหล่นหายให้กับเธอ
ไงล่ะคิดจับปลาทีละ10มือ
มาทำฟอร์มเนียนหน้าซื่อตาใส
เมินเสียเถิดพ่อผู้ชายหลายใจ
ไม่มีวันที่ฉันจะกลับไปยืนจุดเดิม
นี่แหละจุดอ่อนของเธอ
พอไว้เนื้อเชื่อใจก็แว่บเผลอไปเจอหญิง
เจ็บมาจนพอแล้วจริงๆ
ไม่เสียดายที่ถูกเธอทิ้งให้เปล่าดาย
ช่างเถอะที่รัก
ฉันดีใจที่เธอสอนให้รู้จักกับคำนี้
แค่ขาดเธอก็ไม่ได้ขาดใจตายในทันที
สัจธรรมข้อนี้สอนให้ฉันลุกสู้เพื่อศักดิ์ศรีและความจริงใจของใครที่ปรารถนาดีกับเรา
28 เมษายน 2551 20:24 น.
วรรธนภิโยกุล
เพราะอะไร.กัน.....
จิตใจจึงไหวหวั่นถึงเพียงนี้
เพียงแค่พบสบตาไม่กี่ที
ใจกลับแอบคิดถึงเค้าทุกๆทีที่หลับตา
แม้เพิ่งได้รู้จัก
ใจกลับง่ายไปรักปักใจหลง
ความรักไม่ใช่หมอลักษณ์ที่จะได้กล้าฟันธง
ไม่กล้าบอกกับใครว่าหลง.....หลงรักเธอ
โอ้....ใจเจ้ากรรม
เหตุใดต้องไหวหวั่นง่ายดายถึงเพียงนี้
ไม่นึกคิดตรึกตรองมองให้ดี
เดี๋ยวก็ไม่วายช้ำใจเหมือนทุกทีที่ผ่านมา
ในใจมัวแต่คอยครุ่นคิด
จิตใจเฝ้าใฝ่ฝันหา
แอบรักแอบคิดถึงทุกเวลา
ทั้งที่ใจก็รู้ว่าเธอไม่เคยเห็นค่าในสายตาเลย
คงเป็นเพราะสายตาของเธอ
ที่ทำให้ใจต้องเพ้อถึงเพียงนี้
แอบคิดหวง..ห่วงเธออยู่ทุกที
ไม่รู้ว่าใจเอย..ใยเป็นเช่นนี้ไม่เข้าใจ
28 เมษายน 2551 20:14 น.
วรรธนภิโยกุล
ส่วนธุรชนล้น บาปหาบชั่ว
หลงหมกมัวอบายมุข ทุกข์มัวหมอง
เหมือนจุดไฟเผาตนจนไหม้พอง
บาปสนอง ต้องทุกข์ร้อนทรมาน
อยู่ยากเย็นเข็ญใจ ไร้สุขา
สิ่งต่ำช้าพาตกต่ำ ชั่วลูกหลาน
ตกนรกหมกไหม้ ไร้สำราญ
ทรมานนานนับ ชั่วกัปกัลป์
ควรเพ่งพิศ สรรพชีวิต เป็นไฉน
เกิด ตาย วายปราณ สังขารขันธ์
ไม่ประมาท ก่อประโยชน์ โชติชีวัน
สร้างสุขสันติ์ ส่องแสงธรรมนำสังคม