30 พฤศจิกายน 2545 23:15 น.
วรรณกาญจน์
ฉันเกิดมาโชคดีที่ไม่สวย
ไม่ร่ำรวยทรัพย์สินสิ้นปัญหา
ไม่โดดเด่นเป็นดาวพราวนภา
เป็นเพียงคนธรรมดาน่าภูมิใจ
มีพ่อแม่พี่น้องผองเพื่อนรัก
ไม่มากนักมิ่งมิตรพิสมัย
ครูอาจารย์สอดส่องมองเลยไป
เจ้านายไม่เสริมส่งคงลืมเรา
เห็นมีเธอคนเดียวเที่ยวเยินยอ
เชิดชูต่อฉันล้ำนำใครเขา
วานเทิดทูนฉันแต่แค่ทำเนา
อย่าเพียรเฝ้าปลื้มกันฉันหลงตน
ฉันพอรู้ดูท่าว่าเธอชอบ
แต่ข่ายขอบสัมพันธ์มันสับสน
หากคิดคู่เคียงฉันนั้นต้องทน
เป็นแค่คนทั่วไปไม่อวดตัว
29 พฤศจิกายน 2545 05:47 น.
วรรณกาญจน์
สิบล้อห้อเหยียบมิดติดคันหน้า
คงลายตาครานั้นคันเบรคหาย
รถจึงพุ่งชนกันสนั่นวาย
ผลสุดท้ายส่งมาหาฉันไง
ยักษ์ชนยักษ์ซักไปใจอ่อนล้า
ดีหนักหนาไม่ส่งลงโลกไหน
แค่หัวแตกกระดูกหักพักกันไป
ผ่าตัดใหญ่พรุ่งนี้ที่รอคอย
เห็นบอกกินยาบ้ามากันด้วย
ถึงคราวซวยเกิดหลับขับเหงาหงอย
พอตื่นมาปวดช้ำน้ำตาปรอย
เลือดหยดย้อยเนื้อวิ่นสิ้นเรี่ยวแรง
อุทาหรณ์สอนใจใครขับรถ
โปรดจ้องจดสติมิพลิกแผลง
กินยาบ้าจงงดลดสำแดง
หนทางแห่งรถราหาใช่เมรุ
26 พฤศจิกายน 2545 22:51 น.
วรรณกาญจน์
(๑)
ชมลำนำค่ำนี้....................... ......................สำราญ
เวียนอ่านโคลงกลอนกานท์........................ท่านร้อย
บางงานส่องแววหวาน................................หวามหวั่น
ของหนุ่มสาววัยน้อย...................................แต่งไว้มากมาย
(๒)
พาตาปรายส่องค้น.....................................ยลไป
กลอนมอบกำลังใจ.....................................ท่วมท้น
อันคนช่วยคอยไข.....................................ความขุ่น หมองเฮย
ดูท่าคงหาพ้น.............................................มากล้นประสบการณ์
(๓)
ยังมีงานอ่านซึ้ง.........................................ตรึงกมล
งานมุ่งชมไพรสณฑ์...................................ดอกไม้
ลายสือสื่อสารจน.......................................ใจอยาก เยือนนา
ทิวทุ่งธารจารไว้........................................มิ่งแม้นแดนสรวง
(๔)
กลอนแสบทรวงมุ่งเน้น.............................เฮฮา
เราชอบจริงเชียวนา..................................ไม่แคล้ว
จึงตามอ่านแลหา.......................................มาฝาก
ควรมิควรเห็นแล้ว....................................อย่าขึ้งโกรธเคือง
(๕)
ปัญญาเรืองผ่องแผ้ว.................................ภูมิธรรม
กลอนปรัชญาคอยนำ................................ฉุดรั้ง
ดึงคนซึ่งใจถลำ.........................................คืนกลับ
คนแต่งคงเลอทั้ง.......................................มากล้วนจิตเกษม
(๖)
จึงปรีเปรมดิ์อ่านแล้ว.................................แสนสบาย
พานพบงานเรียงราย.................................แน่นแฟ้น
ชวนใจมุ่งตรงหมาย...................................สานต่อ
ขอร่วมเขียนงานแม้น................................ต่ำด้อยปัญญา
25 พฤศจิกายน 2545 19:06 น.
วรรณกาญจน์
ก็ถึงวันฉันอยากฝากเรื่องเป๋อ
มอบให้เธอผู้ชอบรอบที่สอง
ไม่รบกวนใช้จิตคิดไตร่ตรอง
เบาสมองอ่านกันไปให้เฮฮา
ฉันกับเพื่อนรับงานที่คลินิคหนึ่ง
ทำเลซึ่งชุมชนคนแน่นหนา
การเดินทางแสนสบายคล้ายราชา
คุณหมอพาติดรถหมดกังวล
หมอให้เราลงก่อนซอนหาที่..
จอดรถดีมิให้ไกลถนน
พอเลิกงานก็ไปขับกลับมาวน
รับทุกคนเช่นนี้ที่ทำกัน
มีคืนหนึ่งงานฉันนั้นเสร็จสรรพ
จึงรีบรับอาสาท่าแข็งขัน
ห่อข้าวของใส่ถุงมุ่งเร็วพลัน
ถึงรถนั้นนั่งรอหมอเดินมา
หย่อนข้าวของวางลงตรงกระบะ
ช้าจริงนะ! ฉันตรึกนึกถามหา
เพื่อนแอบเดินมาสะกิดชิดกายา
จึงถามว่าไหนหมอรอนานจริง
เพื่อนเหลียวซ้ายแลขวาคว้าข้าวของ
ฉันจับจ้องสงสัยใจเพื่อนหญิง
เพื่อนบอก เดินตามมาอย่าประวิง
อายแทนยิ่งรถหมอรอโน่นไง
22 พฤศจิกายน 2545 02:00 น.
วรรณกาญจน์
อยากบอกออกไปว่า
พุดพัดชาช่างน่ารัก
โชคดีที่รู้จัก
เธอทายทักมอบแรงใจ
ในวันอันสับสน
เธอหนึ่งคนชี้ทางให้
หนทางจึงอำไพ
บอกจากใจฉันขอบคุณ
บางครั้งเรื่องเพียงนิด
เฝ้าครุ่นคิดจนหัวหมุน
หาทางออกซุกซุน
เธอเจือจุนช่วยดูแล
น้ำใจที่มอบกัน
ทำให้ฉันนั้นแน่วแน่
จริงใจไม่ผันแปร
ขอเพียงแต่หมั่นทำดี
เป็นตัวของตัวเอง
ไม่กลัวเกรงไม่ถอยหนี
หากเจตนาดี
ไม่รอรีลงมือเลย
นี่คือสิ่งฉันได้
จากเธอไงที่ไม่เฉย
ตอนนี้ชักคุ้นเคย
ยามเธอเอ่ยต้องรับฟัง
รายงานเธอเป็นกาพย์
ขอเธอทราบสมดั่งหวัง
รู้สึกสุขใจจัง
มีมิตรดั่ง พุดพัดชา