16 กรกฎาคม 2545 06:00 น.
วนา
สิ้น...แล้วหนา ในชีวา มาสูญ...สิ้น
หวัง...พังพิน หลังริน อย่างสิ้น...หวัง
ครั้ง...กระนี้ เจ็บช้ำนัก นับพัน...ครั้ง
นี้...กระมัง ชีพดาวดิ้น สิ้นคราว...นี้
16 กรกฎาคม 2545 05:04 น.
วนา
จากน้องนาง บ้านนา มาหลายวัน
แต่ใจนั้น ยังอยู่ คู่จอมขวัญ
พี่จำจาก ไปไกล ขนาดนั้น
เพี่อสร้างฝัน สองเรา เฝ้ารอมา
ใช่พี่จะ หลงแสง แห่งเมืองกรุง
ใช่พี่จะ ลืมทุ่ง ลืมห่วงหา
ใช่พี่จะ ลืมน้องนาง แห่งบ้านนา
และวาจา เอ่ยไว้ ไม่ลืมเลือน
อยู่เมืองกรุง ยังคิดถึง ซึ่งความหลัง
คิดถึงจัง ดวงจิต เหมือนถูกเฉือน
ความรู้สึก หนหลัง ฝังย้ำเตือน
กี่ปีเดือน ยังคอยอยู่ เคียงคู่กัน
16 กรกฎาคม 2545 05:02 น.
วนา
วันสู่วัน เติมฝัน ให้กันก่อน
เป็นบทกลอน กล่าวไว้ ให้เติมฝัน
เคยฝันไว้ จะเดิน ไปด้วยกัน
พอตื่นพลัน ฝันสลาย มลายลง
แม้ความฝัน ไม่มีวัน จะเป็นจริง
แม้ทุกสิ่ง อยู่ไกล เกินไหลหลง
แม้ความฝัน สลายไป ไม่มั่นคง
แต่ยังคง สุขใจ ที่ได้ฝัน....
13 กรกฎาคม 2545 07:50 น.
วนา
จะกู่ก้อง ร้องไป ให้ลั่นโลก
ด้วยความโศก เจ็บปวด ที่รวดร้าว
ด้วยชีวิต ช้างนั้น มันยืนยาว
แต่ถึงคราว ด่าวดิ้น จนสิ้นใจ
ที่มนุษย์ ทำนั้น มันเจ็บปวด
มันร้าวรวด ขื่นขม ระทมหมาย
อันยาบ้า ทำเจ็บ จวนเจียนตาย
ไม่สนใจ บาปบุญ คุณความดี
ความโหดร้าย ใจมนุษย์ สุดหยั่งถึง
ยากจะดึง ความคิด ทั้งหลายนี้
เกิดเป็นช้าง สิ้นหวัง พังคำมี
สิ้นชีวี ด้วยสัตย์ซื่อ น้ำมือคน
12 กรกฎาคม 2545 22:48 น.
วนา
วันที่เหงา เศร้าตรม ระทมลึก
ความรู้สึก ปวดแปลบ แสบสะท้าน
ในดวงจิต ปั่นป่วน ทั้งดวงมาลย์
สุดต้านทาน ทนเศร้า เหงาระทม
เธอห่างไกล เกินที่ฉัน จะฟันฝ่า
อุปสรรค นานา พารักขม
ความไกลห่าง อ้างว้าง อย่างตรอมตรม
สุดระทม ทรมาน ปานขาดใจ
โปรดรับรู้ เถิดนะ ว่ายังรัก
โปรดประจักษ์ ใ้จฉัน วันไหนไหน
ปรารถนา ดีต่อเธอ อยู่เรื่อยไป
แม้มิได้ เคียงคู่กัน เช่นวันเคย