24 กรกฎาคม 2545 00:08 น.
วนา
ฟังวจี ที่เอื้อนเอ่ย เฉลยเล่า
มาบอกกล่าว สิ่งดีดี ที่รู้สึก
สัมผัสได้ ในห้วง แห่งสำนึก
เฝ้าระลึก ลึกซึ้ง ที่ถึงกัน
ความรู้สึก ดีดี ที่รับรู้
ยังก้องอยู่ รับรู้ได้ ในใจฉัน
สัมผัสได้ ที่หัวใจ ในทุกวัน
จากวันนั้น จนวันนี้ ทีีมีเธอ
24 กรกฎาคม 2545 00:02 น.
วนา
จากชีวิต ผู้หนึ่ง ซึ่งร่อนเร่
และหันเห อยู่กลางป่า พนาสิน
ไร้คนเอื้อ อาทร นอนกลางดิน
ในชีวิน ที่ร่อนเร่ พเนจร
จึงเกิดคำ นามนี้ ที่ฝันใฝ่
วเนจร ผู้ก้าวไกล ในสิงขร
นามปากกา ของข้าน้อย เมื่อกาลก่อน
เขียนบทกลอน บทความ ตามกันมา
เมื่อเวลา ผันไป ใช่คงมั่น
โอ้นามนั้น จะเก่า เกินไปหนา
จึงคิดเปลี่ยน ไปเป็น เช่นวนา
หมายถึงป่า กว้างไกล โอ้ไพรพง
ความรู้สึก ต่อพงไพร ที่ใฝ่ฝัน
พนาวัน พรานไพร ที่ไหลหลง
นามปากกา คงไว้ ใฝ่บรรจง
มาจบลง ที่วนา วเนจร
18 กรกฎาคม 2545 12:41 น.
วนา
คิดถึงทุ่ง รวงทอง ของสองเรา
ใจเปลี่ยวเหงา เศร้าซม ตรมหนักหนา
อยากกลับไป หาเจ้า ที่บ้านนา
แต่ต้องมา อยู่กรุง ยุ่งยากใจ
พี่เก็บเงิน เพียงพอ จะขอแต่ง
ขอน้องนาง อย่าคลางแคลง อย่าแหน่งหนาย
จงรอวัน กลับมา ของพี่ชาย
รักสุดท้าย ที่ปลายนา นะน้องนาง
พี่จากไป ไกลตา รักมาเพิ่ม
รักที่เติม กันมา ดั่งฟ้าสาง
แต่ตอนนี้ ไกลกันจน ไร้หนทาง
อยากคืนรัง คืนผืนดิน ถิ่นท้องนา
ใจพี่ยัง ยึดมั่น สัญญาเก่า
ของสองเรา ตรึงไว้ ไม่ถ่ายถอน
รักพี่นั้น มั่นไว้ ไม่คลายคลอน
แม่งามงอน พี่ยังรัก ประจักษ์ใจ
หรือเจ้าเห็น รักพี่นั้น มันรักหลอก
เห็นกลิ้งกลอก ในรักพี่ หรือไฉน
หัวใจพี่ นี้รักมั่น มิเสื่อมคลาย
ชีพมลาย ยังรักมั่น ทุกวันคืน
ไม่เคยเห็น เจ้าเป็น เช่นของเล่น
รักที่เป็น เช่นนั้น มันสุดฝืน
รักที่รัก เจ้านั้น มันยั่งยืน
ทุกค่ำคืน ร้องหาแต่ แม่น้องนาง
18 กรกฎาคม 2545 12:37 น.
วนา
เมื่อความหวัง พังพิน คนสิ้นหวัง
ไร้พลัง เรี่ยวแรง สุดแข็งขืน
ใจกล้าแกร่ง กลับตรม ล้มทั้งยืน
สุดกล้ำกลืน ฝืนทน ทรมาน
รักแล้วเจ็บ เหมือนมีด กรีดอุรา
ทรมา เหมือนถูกกัก กับหลักประหาร
เหมือนชีวิต ลองล่อง สู่ท้องธาร
สุดต้านทาน สุดระทม ขื่นขมใจ
รักทำช้ำ ซ้ำนัก รักลวงหลอก
รักกลับกลอก ทรมาน สุดต้านไหว
รักครั้งนี้ ชอกช้ำ ระกำใจ
รักมลาย ใจด่าวดิ้น สิ้นชีวี
18 กรกฎาคม 2545 12:35 น.
วนา
กับคืนวัน จันทร์เพ็ญ เด่นเต็มฟ้า
ท้องนภา สุกสกาว พราวไสว
จันทร์สาดแสง ส่องหล้า ฟ้ากว้างไกล
ปลอบดวงใจ ปลอบขวัญ คืนจันทร์เพ็ญ
ดวงใจรัก ใฝ่ฝัน คืนจันทร์เสี้ยว
เพียงคำเดียว ที่สุดหา สุดแลเห็น
หยาดน้ำตา รินหลั่ง ทั้งเช้าเย็น
เพราะยากเย็น จะเห็นแสง แห่งจันทรา
จะรอจันทร์ วันเพ็ญ เช่นวันเก่า
อยากให้เรา มีใจอยู่ คู่ปลายฟ้า
เช่นแสงจันทร์ ลุกไสว ในนภา
สาดส่องหล้า เหมือนส่องใจ ใครสักคน
หัวใจรัก หวั่นไหว ใต้แสงจันทร์
เป็นลำนำ รำพัน กันสักหน
เติมรักไว้ กลางใจ ใครสักคน
กล่อมกมล ใต้แสงจันทร์ คืนวันเพ็ญ