4 พฤษภาคม 2551 13:28 น.
วชรกานท์
ฉัตรเอยดูดั่งแก้ว กาญจนา
นพฉัตรคู่นครา อยู่ยั้ง
นพรัชขัตติยา ยงอยู่
เบญจ พฤษภ์อีกครั้ง เทอดไท้จักรีวงศ์
ผไทมีร่มเกล้า ปกเกศ เกศี
ครองสยามประเทศ หลีกพ้น
รักษ์เอกราชเขต กาลก่อน
ไทแผ่ไทยสุขล้น ได้พึ่งพระบารมี
3 พฤษภาคม 2551 14:32 น.
วชรกานท์
วิปโยคโลกมนุษย์ยากหยุดยั้ง
แต่ปางหลังอยู่เย็นเป็นสุขี
มนุษย์เพิ่มไพร่ฟ้าประชาชี
ขยายที่ทำกินทั่วดินแดน
ความสะดวกสบายเป็นนายจิต
ยกระดับชีวิตให้สุขแสน
ความเจริญรุ่งเรืองดั่งเมืองแมน
เริ่มขาดแคลนอาหารในบ้านตน
พลังงานทดแทนแสนยากเข็ญ
"มัน"กลั่นเป็นแก็สโซฮอล์ผลิตผล
เอาอาหารมนุษย์ใส่ในรถยนต์
อาหารคนขาดแคลนแสนเศร้าใจ
ปาล์มน้ำมันกลั่นเป็นออยล์ไบโอ
เศรษฐกิจเติบโตผ่องไสว
พืชอาหารขึ้นราคารวดเร็วไว
ชาวนาไทยได้ทีดั่งมีทอง
เหลียวแลหลังครั้งเก่าเราผลิตส่ง
แชมป์ดำรงส่งข้าวออกไม่มีสอง
ข้าวตกค่าเอาที่นามาจำนอง
คนครอบครองนำที่นาสร้างธานี
ที่นาหดหายไปไม่คืนกลับ
คนรุ่นหลังรอรับปรับวิถี
พลโลกเพิ่มพูนพันทวี
ปฐพีของโลกนั้นมันเท่าเดิม
3 พฤษภาคม 2551 10:19 น.
วชรกานท์
มนุษย์นั้นเวียนว่ายในวัฏจักร
ตามตวงตักความสุขลืมทุกขี
สะสมทรัพย์เสพกามาเคล้านารี
แต่งแต้มสีที่เนื้อหนังมังสาทา
ยวนยุยั่วเย้าอารมณ์บ่มกำหนัด
จึงแจงจัดความเป็นอยู่ให้หรูหรา
หลอกลวงล่อเล้าโลมโฉมกานดา
กาลเวลาเลยผ่านกานต์ร่วงโรย
บาปหนุนนำกรรมฉุดคร่าลงมาต่ำ
ต้องระกำจำทนปนหิวโหย
กาลผ่านไปในห้วงร่างร่วงโรย
ลมธรรมโชยชักนำให้ทำดี
เลิกลดละ อายตนะ ห้าภายนอก
เพิ่มพูนพอก กุศลกรรมนำวิถี
สร้างกุศลผลบุญหนุนชีวี
มุ่งฤดีสู่พระศรีอริยเมตรัย
2 พฤษภาคม 2551 23:26 น.
วชรกานท์
สายวารีรื่ไหลไม่เว้นหยุด
เปรียบประดังจิตมนุษย์มิหยุดอยู่
ตามสิ่งเร้าที่เข้ามาห้าประตู
จมูกหูชิวหาตาและกาย
ตาประสพพบเห็นเป็นร่างรูป
ตาโลมลูบเล็มเล้าเจ้าจันทร์ฉาย
ตาต่อตามาสบหญิงพบชาย
ตาเริ่มลายเพราะตัณหาตาพร่าพราว
จมูกดอมดมกลิ่นเป็นความเหม็นหอม
จมูกจูบดมดอมหอมปรางค์สาว
จมูกโด่งดูเด่นดั้งสูงยาว
จมูกสาวแบนแบแลยองใย
หูได้ยินสำเนียงเสียงหวานซึ้ง
จำติดตรึงดวงจิตพิศมัย
เสียงดนตรีฤดีชื่นระรื่นใจ
กล่อมหทัยทวยอ่อนคลายร้อนรน
ลิ้นลิ้มรสอาหารสำราญศอ
ลิ้นสอพลอเป่าหูดูได้ผล
ลิ้นโลมเล้าเว้าเพลินเสียเกินทน
ลิ้นของคนปนลมปากยากเข้าใจ
ยามชิดใกล้กายสัมผัสกลับกลัดกลุ้ม
กายร้อนรุ่มสลับหนาวยามเข้าใกล้
กายต่อกายสัมผัสกำหนัดใน
หญิงและชายทายท้าห้าประตู
2 พฤษภาคม 2551 00:30 น.
วชรกานท์
ภาพจาก:www.pocketonline.net
จันทร์เจ้าขา ข้าขอวอน ก่อนลาลับ
แสงเดือนดับ หายไป ในขอบฟ้า
ขอข้าพบ รักใหม่ ใหม่ - อย่าได้แรมร้างรา รา
ให้รักอยู่ คู่ฟ้า ข้าคอย
จันทร์เจ้าเอ๋ย ข้าเคยฝัน ถึงวันเก่า
ข้าเคยเศร้า โศกหทัย ใจเหงาหงอย
ครารักหลุด ลอยไป ไกล - ใจข้าก็หลุดลอย ลอย
ต่างแต่จันทร์ นั้นคล้อย ลอยมา
เดือนใจร้าย ปล่อยให้ข้า ใจว้าเหว่
เดือนรวนเร เร่รัก เป็นหนักหนา
เดือนมีดาว ล้อมเด่น เด่น - ในนภาทุกเว ลา
เดือนเจ้ารู้ ไหมว่า ข้าตรม
อยากเป็นดาว ดวงเด่น มองเห็นแสง
เข้ายื้อแย่ง เดือนเพ็ญ ให้เห็นสม
ดาวอ่อนแรง แสงน้อย น้อย - พลอยให้ใจระทม ตรม
เดือนคงจะ นิยม แสงสุรีย์