16 กุมภาพันธ์ 2551 17:30 น.
ว.ม.เกษม
แม้ความรักที่บังเกิดไม่เลิศหรู
แม้รักนี้ที่มีอยู่ไม่แสนหวาน
แม้ความรักจักไม่เป็นเช่นตำนาน
แต่รักนี้จำจารในหัวใจ
จะพ้นผ่านนานปีไม่มีสิ้น
ฟ้าจะแยกแหลกแผ่นดินสิ้นสงสัย
ว่ารักนี้คือหนึ่งรักหนักแน่นใจ
จวบชีพวายรักมิพรากจากวิญญา
อีกกี่ภพกี่ชาติใจมาดมั่น
อีกกี่ฝันรักก็ให้ใจครวญหา
ขอตามรักภักดียอดชีวา
ให้รู้ว่า...รักนี้คือนิรันดร์
12 กุมภาพันธ์ 2551 00:59 น.
ว.ม.เกษม
ดูดาวเดือนเคลื่อนดับลับขอบฟ้า
คือทิวาราตรีที่ล่วงผ่าน
ตะวันใหม่จะทายทักให้เบิกบาน
แสงอรุณส่องผ่านกลบราตรี
คือปรัชญาธรรมชาติหากจะคิด
มีมืดมิดเดี๋ยวก็คืนความสดศรี
ตะวันขึ้นตะวันลาจันทรามี
พอดาราใกล้ริบหรี่ตะวันมา
คือชีวิตเวียนว่ายในสุข-ทุกข์
สิ้นความสุขทุกข์ก็เพรียกร้องเรียกหา
คือฟ้ามืดตะวันดับอับสุริยา
พอทุกข์ลาฟ้าก็พร้อมรับตะวัน
11 กุมภาพันธ์ 2551 23:35 น.
ว.ม.เกษม
วิบากกรรมการเมืองเรื่องอำนาจ
วิบากกรรมของชาติเจ้ารู้ไหม
วิบากกรรมประชาธิปไตย
วิบากกรรมของไทยไทยทั้งมวล
ทั้งป้ายสีสาดโคลนโดนกันเยอะ
พ่นน้ำลายกันเขรอะเลอะทั่วถ้วน
ครั้นของเสียเจ้าไม่เอาเข้าขบวน
แต่ความดีเจ้าล้วนคว้าใส่ตน
พอถึงคราวมีผลงานเจ้าบานชื่น
เจ้าหยิบยื่นความช่วยเหลือเพื่อหวังผล
ใกล้เลือกตั้งเจ้าอ่อนน้อมยอมถ่อมตน
ปากเจ้าหวานสะท้านคนให้สนใจ
แต่ถึงคราวถูกสอบเจ้าตอบปัด
หาว่ายัดทุจริตความผิดให้
ไอ้ที่เคยสัญญาช่างปะไร
ค่อยสนใจเมื่อใกล้จบสภา
นาฏกรรมการเมืองเรื่องเวียนว่าย
เกิดแล้วตายตายแล้วเกิดดูเถิดหนา
หมดวาระ คนใหม่เข้า เก่าก็ลา
ครั้นดูหน้า เอ๊ะ! ไฉน คล้ายคนเดิม
9 กุมภาพันธ์ 2551 15:56 น.
ว.ม.เกษม
ชีวิตคนเรา มีสุขมีทุกข์
เป็นเพราะความสุข เราจึงอยู่ได้
ความทุกข์นั้นหรือ คือการวัดใจ
ปะปนกันไป คือชีวิตคน
แรกตื่นดูโลก เราก็ร้องไห้
จะหลีกอย่างไร จึงจะหลบพ้น
ชีวิตวุ่นวาย มิคลายทุกข์ทน
ความสุขแห่งตน จะหาอย่างไร
ต่างคนไขว่ขว้า ค้นหาความสุข
โอ้ความสนุก เจ้าไปอยู่ไหน
เขย่งมองฟ้า ค้นหาไกลไกล
จนหลงลืมไป อยู่ใกล้ใจเรา
ที่เท่ากำปั้น ขยันเคลื่อนไหว
นั่นคือหัวใจ ทำไมหงอยเหงา
เพราะเมื่อไม่รู้ สุขในใจเรา
ชีวิตจึงเศร้า เพราะหาผิดทาง
หลับตาสักหน่อย ค่อยๆหายใจ
ให้ความสดใส ไหลผ่านใจบ้าง
แล้วจะพบว่า ความสุขจางๆ
ที่เคยเลือนลาง จะกระจ่างใจ
หัวใจอิสระ จะพบสุขแท้
มีความแน่วแน่ จะเลือกสิ่งไหน
ทำตามใจตัว อย่ากลัวสิ่งใด
อิสระแห่งใจ คือสุขนิรันดร์