8 ตุลาคม 2546 18:55 น.
ลูกเป็ดขี้เหร่
วันนี้เดิน เพลินเที่ยว เลี้ยวซ้ายขวา
เผลอสะดุด ลูกกะตา บางคนเข้า
ใครกันนะ ยืนจ้อง มองที่เรา
ผิดสังเกต ไม่เบา ไม่เข้าใจ
กลัวจึงหลบ ขลาดพบเจอ เหวอนิดนิด
เขาจะคิด ดีชั่ว น่ากลัวไหม
ผ่านไปหลาย นาทีกว่า อ๊ะ ยังไง
จ้องอยู่ได้ ให้ไหวหวั่น สั่นกายา
รวบรวมใจ ไว้ไม่เบา เข้าไปถาม
เขาตอบความ ทำเจ็บใจ ไม่ไว้หน้า
คำเขาเหยียด หยาบกร้าว กล่าวออกมา
แค่กำลัง มองหา ความน่ามอง..
แง้ๆๆๆ เจ็บใจๆๆ เจ็บใจที่สุดอ่า
6 ตุลาคม 2546 19:14 น.
ลูกเป็ดขี้เหร่
เพียงสายฝน หล่นลง ตรงแผ่นพื้น
เพียงกลางคืน แสงสว่าง เริ่มจางหาย
เพียงน้ำตา ล้าหล่น บนผืนทราย
อาจก่อเกิด นิยาย ได้ยืดยาว
หน้าที่1 คนหนึ่งคน คนค่า ราคาน้อย
เริ่มเรียงร้อย เรื่องชีวี รักสีขาว
เกิดมาพร้อม รอยยิ้ม ที่พริ้มพราว
ไม่รู้ร้าว หนาวรัก ในสักครา
หน้าที่2 คนคนเดิม เพิ่มราคา ค่าชีวิต
เจอถูกผิด ยอมคิดเสี่ยง ไร้เดียงสา
ค่อยค่อยเดิน เผชิญฝัน มันเรื่อยมา
เก็บและมอง ของมีค่า ข้างข้างทาง
หน้าต่อไป คนคนนี้ ยังมีใจ ถักใยฝัน
มุ่งตั้งมั่น รั้นทำจริง ไม่ทิ้งห่าง
อาจท้อแท้ คลาดเคลื่อน ฝันเลือนลาง
มีล้มบ้าง จะยังลุก และปลุกใจ
หน้าสุดท้าย จบนิยาย ร้ายดี มิอาจรู้
ผิดเป็นครู หากสิ้นหวัง ยังรับไหว
เรื่องจะครบ จบตอน ตรงท่อนใด
หากปากกา ที่ถือไว้ ไม่อาจวาง
หากไม่หยุดฝัน นิยายของเรานั้น คงไม่มีวันจบ
2 ตุลาคม 2546 21:27 น.
ลูกเป็ดขี้เหร่
พระคือเทพจากสรวงโปรดปวงราษฎร์
พระคือปราชญ์ศาสตร์ภาษาบิดาสยาม
พระคือขวัญของชาวไทยทั่วเขตคาม
พระลือนามเจ้าแผ่นดินปิ่นชาติไทย
ทุกโครงการสานสร้างอย่างส่งเสริม
ทรงริเริ่มเกษตรวิธีทฤษฎีใหม่
ทรงเยือนทั่วถิ่นแคว้นแดนห่างไกล
ทรงแก้ไขฝนแล้งแหล่งกันดาร
พระราชนิพนธ์บทเพลงบรรเลงถ้อย
ดำริร้อยข้อคิดเด่นเป็นเพลงหวาน
ทรงบำบัดขจัดภัยให้สราญ
ชนชื่นบานใต้ร่มพระบารมี
การกีฬาทรงคว้าชัยเรือใบมด
เกียรติปรากฎโลกรู้ชูศักดิ์ศรี
สยามซ้องยกย่องค่าพระจักรี
พระบิดาเทคโนโลยีศรีชาติไทย
พระกรุณาอ่าเอื้อหนุนเกื้อเกล้า
คนป่าเขาผู้ขาดแคลนแหล่งอาศัย
ทรงปรับปรุงเปลี่ยนน้ำชนฉ่ำใจ
ทรงรื้อฟื้นผืนดินใหม่ให้เจริญ
สละสุขส่วนพระองค์ทรงศึกษา
ศาสตร์วิชากฎหมายไทยไม่ห่างเหิน
เพื่อเป็นฐานต้านชาติดับยุ่งยับเยิน
พระราชดำเนินเคียงคุ้มราษฎร์ปราศพาลภัย
สองพระหัตถ์โอบอุ้มคุ้มปวงราษฎร์
สองพระบาทเยือนทุกหนชนสดใส
สองพระเนตรสอดส่องมองการณ์ไกล
พระราชหฤทัยมากล้ำพระกรุณา
ด้วยพระเดชพระคุณหนุนนำชาติ
ใต้เบื้องบาทพระยุคลฯล้นคุณค่า
ขอน้อมเกล้าฯเคารพนบบูชา
เจ้าแผ่นดินปิ่นหล้าทรงพระเจริญ
2 ตุลาคม 2546 21:13 น.
ลูกเป็ดขี้เหร่
เพราะห่างเหิน เนิ่นนาน พาลแหนงหนาย
เปล่าห่างหาย ใจคิดถึง คำนึงหา
ยังไม่ลืม คำมั่น ย้ำสัญญา
จะกลับมา ร่วมร้อย ถักถ้อยคำ
เพราะเรียนหนัก เพื่อนรุม งานสุมหัว
กว่าปลีกตัว ถึงบ้าน ก็พาลค่ำ
หลากรายงาน อาจารย์สั่ง ต้องนั่งทำ
คือเรื่องช้ำ จำใจเจ็บ จากเว็ปกลอน
ปิดภาคเรียน เวียนมา ถึงครานี้
แสนยินดี ที่จะย้ำ คำออดอ้อน
คิดถึงกัน หรือไม่ ใคร่อาวรณ์
เปล่าหลอกหลอน ป้อนคำหวาน หว่านผู้ใด
ถ้าจดจำ กันอยู่ดี มิตีจาก
แวะมาฝาก ชื่อสักครั้ง รังเกียจไหม
ลูกเป็ดตัว น้อยน้อย พลอยชื่นใจ
มิตรภาพ ตราบฟ้าไกล ไม่ลืมกัน
1 สิงหาคม 2546 21:36 น.
ลูกเป็ดขี้เหร่
เช้าเมื่อวาน โทรไป เธอไม่รับ
ไร้เสียงเรียก ตอบกลับ กระสับกระส่าย
เธอปวดหัว เป็นไข้ ไม่สบาย
หรือวุ่นวาย กับปัญหา นานาพัน
สายจึงส่ง ข้อความ ถามสาเหตุ
สิ้นแมสเสส ตอบมา คืนหาฉัน
คงเพราะเธอ ไม่ว่าง อย่างทุกวัน
พักผ่อนด้วย แล้วกัน ฉันอาทร
เย็นกดย้ำ ซ้ำสอง ลองโทรหา
จึงรู้ว่า สายไม่ว่าง อย่างคราก่อน
เกิดอะไร ใจเฝ้า จิตเว้าวอน
ลางสังหรณ์ สาหัส กัดกินใจ
ตกกลางคืน ฝืนตา กว่าจะหลับ
คิดลำดับ เหตุการณ์ พาลหวั่นไหว
ยิ่งว้าวุ่น ครุ่นคิด ผิดอย่างไร
เธอจึงลืม เยื่อใย เคยให้กัน
มาวันนี้ โทรไป เสียหลายรอบ
หวังยินเสียง เธอตอบ ปลอบโยนฉัน
แต่เปล่าเลย เธอไม่แคร์ ความสำคัญ
หรือคนนั้น คนไหน เปลี่ยนใจเธอ
เกิดอะไร ระหว่างเรา ยังเฝ้านึก
เริ่มรู้สึก อ่อนล้า น้ำตาเอ่อ
วอนเธอตอบ กลับที ที่ฉันเจอ
ลืมแล้วเหรอ ความรัก เราถักทอ
ช่วยชี้แจง แจ้งใจ ในครานี้
เพียงสิ่งเดียว ตอบที ที่พร่ำขอ
ฉันไม่ดี ตรงไหน หลอกให้รอ
ถ้ายังรัก กันละก็แล้วเพราะอะไร