กลอนพาไป ไปไหนได้เสมอ กลอนพาเพ้อ เพ้อกานท์สานอักษร กลอนพาหมอง หมองตามยามอาวรณ์ กลอนออดอ้อน อ้อนใจผู้ใดเอย กลอนพาเศร้า เศร้าโศกวิโยคไหว กลอนแอบรัก รักใครไม่เฉลย กลอนแอบช้ำ ช้ำทรวงห่วงจังเลย กลอนแอบเชย เชยชมภิรมย์จินต์ มธุรสบทกลอนชะอ้อนหา รจนาพาฉ่ำนำถวิล อรรถรสเลิศลอยร้อยชีวิน เพลินเพลงพิณกวินขับประดับแด ปล่อยอารมณ์ชมกานท์ลืมสาส์นน้อย ที่เรียงร้อยคอยวาดซับบาดแผล หยาดน้ำตาร่วงรินสิ้นใครแล ตละแม่แย่แล้ว แววค้างคาน
เธอเป็นคน ที่ฉันฝัน และสรรค์สร้างอยากร่วมทาง เป็นคู่ใจ กว่าใครไหนตั่งแต่เริ่ม ที่พบกัน ลึกหวั่นใจเธอมีใคร รอรึเปล่า นึกหนาวทรวงแอบมีหวัง กับรอยยิ้ม ชวนอิ่มฝันที่ให้กัน มันตรึงใจ อย่างใหญ่หลวงคือจุดเริ่ม ที่แน่ชัด อยากวัดดวงไม่ทักท้วง กลัวที่ทำ จะช้ำใจเพราะยึดมั่น ความจริงใจ เชื่อในรักจึงสลัก สร้างสัมพันธ์ อันสดใสแอบฝันเพ้อ เธฮเคียงข้าง ไม่ห่างไกลรักยิ่งใหญ่ คงสุขล้น นั่งบ่นพรำแต่ความฝัน ก็ถึงวัน ที่มันจบเมื่อค้นพบ เธอที่แคร์ ไม่แลเหลียวฝันของฉัน เป็นแค่ลม ไม่กลมเกลียวดั่งคมเคียว รอรวงข้าว เมื่อบ่าวเมินฝันของเธอ มีใครแล้ว ต้องแห้วรักจำใจหัก ยอมอ้างว้าง และห่างเหินเหมือนคมมีด กรีดลงเนื้อ เจ็บเหลือเกินเส้นทางเดิน ที่ต้องผ่าน ขนานกันได้เพียงแต่ ใช้มือคว้า จับอากาศหวังสักชาติ ได้เคียงค้าง เหมือนอย่างฝันคงมีบ้าง พรหมลิขิต ให้ชิดกันรอสักวัน ให้บุญส่ง คงได้เคียง
ดาวระดาษวาดฟ้าคราหนาวฉ่ำ อุ่นไอร่ำคำนึงก็ซึ้งหวาน หยดน้ำค้างบนดอกเหมยที่เคยบาน ทุกวันวารหวนละห้อยคอยกลับมาคิดถึงคน, คิดถึงลมเคยห่มหวน คิดคร่ำครวญแสนไกลใจผวา คิดถึงเมฆ..ถึงหมอก.. ดอกหญ้าคา คิดถึงฟ้าบ้านเราจนเหงาตรมท่ามเงาทองสะท้อนแลอ่อนไหว แสงรำไรสุรีย์ฉายปรายผสม ดาวร้างฟ้าลาลับกับสายลม ที่จูบพรมคลอเคล้าจนเงาจางดาวระดาษวาดฟ้าคราหนาวฉ่ำ เฝ้าครวญคร่ำหนาวใจเมื่อไกลห่าง หวนคำนึงถึงไอดินทุกถิ่นทาง จำใจร้างจางลับรอกลับเรือน
ระดะดาวพราวฟ้าคราเดือนดับ หนาวลมจับจิตจนเกินทนไหว จำลาร้างห่างแดนแม้แสนไกล อีกเมื่อใดได้กลับรับขวัญคืน หอมไอดินเคยกรุ่นละมุนหวน กลีบลำดวนอวลกลิ่นระรินชื่น เกล็ดน้ำค้างกลางน้ำตาข้าฯกล้ำกลืน ยังหยาดเคียงเสียงสะอื้นอันขื่นคราง รอวัสสานผ่านฝนอีกหนก่อน จะกลับคอนคืนเหย้าคราวฟ้าสาง จงรอรับซับน้ำตาอย่าแรมร้าง ยามแสงทองส่องทางกลางใจคอย
เสียงเพลงรักมาหยุดสะดุดกึก ความรู้สึกน้ำตาแทบบ่าไหล อารมณ์รักเรียกร้องของหัวใจ วอนเธอให้บรรเลงบทเพลงเดิม เคยกล่อมดาวกล่อมเดือนเลือนรานร้าว ให้เดินก้าวสะพานเธอสานเสริม เสียงไพเราะเนิบเนิบเคยเคลิบเคลิ้ม จะซ้ำเติมใจนี้อีกกี่ครั้ง เธอจะเป็นเช่นน้ำยามโหยอ่อน เหมือนมนต์พรเพลงทิพย์กระซิบสั่ง บนทางเดินขวากหนามข้ามระวัง ภาพความหลังอันหวานผ่านคืนวัน ด้วยมือเธอที่ก่อถักทอรัก จึงรู้จักหนแห่งแหล่งสวรรค์ มิได้อยู่ฟ้าไกลเข้าใจกัน แต่อยู่นั่นที่เธออยู่ผู้บันดาล เรามาปันสุขกันฉันคนรัก เพื่อรู้จักชื่นมื่นวันคืนหวาน ใจจริงจังหวังให้ได้พบพาน สู่วิมานสวรรค์อันอำไพ เมื่อจบการบรรเลงบทเพลงรัก สุดจะหักห้ามตรมข่มไม่ไหว แม้เพลงรักเคยหลงจบลงไป ความรักไม่จบลงคงนิรันดร์