2 เมษายน 2550 11:27 น.
ลูกพราน
โชนอัคคีปรี่เลื้อยฟะเฟื้อยฟ่อน
ลมขับต้อนพัดกระพือวูบหวือหวา
ทะยานแห่เผยอพิษอวดฤทธา
ตอกอัตตาละเหี่ยไห้พิไรพรรณน์
โหมห่าลงละเลงกลบพิภพเถื่อน
ไหวสะทกอกสะเทื้อนถล่มขวัญ
อสรธาตุสาดไฟประลัยกัลป์
ดุจจะมั่นผาดผยองขึ้นครองแคว้น
ประดาสัตว์สะดุ้งเฮือกกระเสือกกระสน
วุ่นกระวนไอกระอุประทุแน่น
ขนัดคาบอัตคัดและคลอนแคลน
ประลุแล่นผ่านจินตวิญญา
ระเร่งรุดหลบลี้อัคคีไล่
จนเริ่มไร้แรงโรยระโหยหา
บางหมู่ถูกแผดเผาเร่าอุรา
บางหมู่มาตายซากเพราะพรากไพร
เปลวอัคคีคับคั่งพลังพล่าน
สยบย่านหย่อมหญ้ามาหมกไหม้
พฤกษชาติทั่วถิ่นก็สิ้นใจ
สัตว์ป่าไร้แหล่งหลักพนักพิง
ท้องฟ้าส่องแสงสายประกายเศร้า
สีทึบเทาทาบหมดสลดยิ่ง
ตะวันหลีกเลยล่วงหน่วงประวิง
เมฆไม่ทิ้งคลื่นฝนลงเยียวยา
จึงลุกลามมหันตภัยไล่กำจัด
พูนพิบัติผลาญแคว้นแน่นหนักหนา
วิบากกรรมมุทะลุมิหลีกลา
ตามประสาผลและเหตุเจตจำนง
เพลิงมล้างยื้อยุทธคอยฉุดชีพ
เผาทวีปเลอะลามตามประสงค์
ใดจะอาจปลดทุกข์ทุเลาลง
ชาติคงคงความพิบัติเพราะสัจธรรม
1 เมษายน 2550 23:36 น.
ลูกพราน
นภาภาค ระดะหม่นระคนหมอง
ฟ้าคะนองสะอื้นไห้เป็นสายสาย
เหยียดระยะ มรสุม ระรุมกาย
กระหน่ำร่ายอาญาจนสาใจ
ดินสะดุ้ง หักเหระเนระนาด
แกว่งอากาศ เกรี้ยวโกรธพิโรธใส่
ภพคะมำหกคะเมนกระเด็นไป
กระพือไหววิตกพรั่นประหวั่นกลัว
เยือกยะเย็นเย้ยเยาะกระเทาะหล้า
ผจญปีศาจคร่าห์ ณ ฟ้ารั่ว
ยลสะท้านญาณสะทกตระหนกตัว
อุระพัวพัลวันกับฝันร้าย
สยดสยองพิรุณโหมกระโจมซัด
ฟะเฟื้อยฟัดฟันฟาดขยาดขยาย
ชลนที ท่วมดอน ขจรขจาย
ตระกองก่ายอสุภซากมากอนันต์
ไฉนจึงภาคนภามาอาเพศ
อุบัติเหตุพิบัติพูนอดูรมหันต์
ไฉนธรรมชาติกระจาดทัณฑ์
เอ๊ะใครนั่นน่ะระดมถล่มทลาย