27 มกราคม 2551 19:09 น.
ลุงแทน
.............ตา............
ตาจะดู จงดู ให้รอบครอบ
ดูประกอบ ปัญญา อย่าเหลวไหล
ดูให้เห็น ความจริง สิ่งอะไร
ดูภายใน ภายนอก อย่าหลอกลวง
ตาภายนอก บอกมา ว่ารูปสวย
บอกว่ารวย เงินทอง ของควรหวง
ตาภายใน แย้มบอก ว่าหลอกลวง
ไม่ควรหวง หึงไว้ ภัยจักมี
............หู................
ส่วนว่าหู เงี่ยฟัง หยั่งให้ถี่
ฟังให้ดี ถี่ถ้วน ส่วนของหู
หูหนึ่งฟัง หยั้งไว้ ในใจดู
ยังอีกหู ฟังเผื่อ เพื่อวิจารณ์
ครั้นรับฟัง สองหู คู่กันแล้ว
อย่าคลาดแคล้ว รวมเข้า เอาสองหาร
อย่าถือเอา ฝ่ายผิด เป็นอาจารย์
ยึดหลักฐาน ฝ่ายถูก ปลูกความดี
...........จมูก.................
จมูกเล่า เฝ้าชม ดมดูกลิ่น
ไม่สูญสิ้น กลิ่นหอม ย้อมนาสา
จมูกเพลิน สูดกลิ่น จินตนา
ไม่นึกว่า กลิ่นเหม็น เร้นอยู่ใน
ถ้าหมอมี ที่ใด ให้ครวญรู้
เหม็นมีอยู่ ในนั้น เป็นมั่นหมาย
ถ้าความหอม เสื่อมสิ้น กลิ่นมลาย
ต้องเป็นฉาย กลิ่นเหม็น ให้เห็นจริง
...........ลิ้น.............
ฝ่ายว่าลิ้น ยินดี ที่ลิ้มรส
ถ้าเอมโอษฐ์ รสดี มีที่ใหน
จะทุกข์ยาก ลำบาก สักเพียงใด
ขอให้ได้ รสนั้น ฉันเป็นพอ
แมลงวัน อภีรมณ์ ชมน้ำผึ้ง
มดเคล้าคลึง น้ำตาล หวานจริงหนอ
ผลสุดทาย ตายด้วย รสละออ
นี่แหละข้อ เตือนใจ ให้คนึง
...........กาย.............
ส่วนว่ากาย หมายประคอง ต้องสัมผัส
กายสันทัด แตะต้อง ของทั้งหลาย
กายประสงค์ ของอ่อน นอนสบาย
ไม่เลือกชาย หรือหญิง ประวิงวอน
ขอให้ทราบ ความจริง สักเล็กน้อย
อย่าได้ปล่อย กายหลง คงหลอกหลอน
ถ้ากายหลง นิ่นนวล ชวนอาวรณ์
กายต้องนอน ทับทุกข์ คลุกอยุ่ใน
..........ใจ............
ส่วนว่าใจ ใครหนอ จะหยั่งรู้
ใจเป็นผู้ สั่งกาย เป็นนายใหญ่
ใจบังคับ สั่งกาย เรื่องอะไร
กายต้องไป ตามสั่ง ไม่รั้งรอ
ใจของคน ติดอยู่ ไม่รู้หยุด
ใจมนุษย์ หยุดได้ ที่ใหนหนอ
คิดอยากได้ โน้นนี่ ไม่มีพอ
แม้มีข้อ บังคับ ปรับโทษทัณฑ์
........หยุด.........
ถ้าคนเรา ทำใจ ให้หยุดนิ่ง
จะรู้จริง ทุกอย่าง ดังมั่นหมาย
ของจริง จะปรากฎ ในร่างกาย
จะเห็นตาย เห็นเกิด อยู่ทุกวัน
อันร่างกาย คนเรา ทุกวันนี้
ดูถ้วนถี่ ดูดีแล้ว เหมือนนอนฝัน
เกิดขึ้นแล้ว แตกดับ โดยฉับพลัน
ไม่กี่วัน ก็หายวับ กลับคืนไป
.........คิดค้น.........
ขอให้คน ทุกคน ได้ค้นคิด
ถูกหรือผิด คิดค้น คนทั้งหลาย
หากค้นพบ เห็นครบ แก่เจ็บตาย
รีบขวนขวาย หาทาง สร้างความดี
จงละบาป ทำบุญ เป็นทุนไว้
เป็นปัจจัย สืบต่อ ก่อวิถี
นำไปเกิด เบื้องหน้า สุขามี
พ้นไพรี เกิดตาย หมายนิพพาน....ฯ
26 มกราคม 2551 09:01 น.
ลุงแทน
อันว่าทาน บารมี ดีล้ำเลิศ
เป็นบ่อเกิด แห่งสุข ทุกสมัย
ตัดตระหนี่ ถี่เหนี่ยว เกาะเกี่ยวใจ
ผูกไว้ได้ ซึ่งไมตรี ดีทุกคน
ศีลนี่คือ พระขรรค์ อันมีค่า
ตัดกายา วจี ให้มีผล
ที่มีศีล ให้มีสุข ทั่วทุกคน
ตัดกังวล ชำระบาป ที่หยาบคาย
เนกขัมมะ สละตน พ้นจากทาส
ละเคหาสน์ ทรัพย์สิน สิ้นทั้งหลาย
ที่เป็นบ่วง ถ่วงตน กระวนกะวาย
ชำระกาย สุขสงบ พบรสธรรม
ปัญญาเป็น แก้วตา อันดียิ่ง
รู้เท็จจริง แจ่มกระจ่าง อย่างเลิศล้ำ
รู้เหตุสุข ทุกข์ทน รู้ผลกรรม
ปัญญานำ ชัยชนะ ปะทะมาร
วิริยะ บากบั่น ฟ้นกิเลส
ที่เป็นเหตุ ท้อถอย คอยล้างผลาญ
ใช้ความเพียร กำกับ รับเหตุการณ์
เข้าสังหาร ผลาญมลทิน ให้สิ้นไป
ขันตินี้ เป็นธรรม ชักนำจิต
ทนต่อกิจ คงมั่น ไม่หวั่นไหว
ทนลำบาก ตรากตรำ และช้ำใจ
อดทนได้ ด้วยธรรม น้ำขันตี
สัจจะธรรม ทำจริง ยิ่งกว่าพูด
จริงพระสูตร ปรมัตถ์ เป็นสัจศรี
ปะระมัตถ์ เป็นธรรม ล้ำฤดี
เป็นธรรมที่ กำจัด อสัจจา
อธิษฐาน เป็นกำลัง ที่ฝั่งแน่น
ไม่คลอนแคลน ก่อกิจ คิดกังขา
สิ้นเลือดเนื้อ อัฐิ มินำพา
มีศรัทธา คงมั่น ไม่หวั่นใจ
เมตตาความ รักใคร่ ไร้ราคะ
เป็นธรรมะ อบรม บ่มนิสัย
ให้มวลสัตว์ ไร้ทุกข์ สุขกายใจ
สิ้นเวรภัย ไมตรี อารีย์กัน
อุเบกขา เป็นกลาง ปล่อยวางจิต
แม้ญาติมิตร ศัตรู คู่แข่งขัน
เขาจะดี หรือชั่ว ไม่พัวพัน
เขายึดมั่น สายกลาง ทางนิพพาน...ฯ
25 มกราคม 2551 18:10 น.
ลุงแทน
เกิดเป็นคน ทุกคน ต้องทนอยู่
ทนต่อส ู้เหุตการณ ์นั้นนักหนา
ทนต่อความ เกิดแก่ และโรคา
ทนต่อหน้า ที่ตน ทนหากิน
ทนต่อความ เหนื่อยยาก ลำบากยิ่ง
ทนทุกสิ่ง ก้มหน้า หาทรัพย์สิน
ทนจนหลัง เทียมฟ้า หน้าเทียมดิน
เพราะเรื่องกิน อย่างเดียว เคี่ยวให้ทน
อีกทุกคน ทนสู้ หมู่ความแก่
ครั้นเหลียวแล ดูตน คนทั้งหลาย
เห็นความแก่ แห่ห้อม ล้อมรอบกาย
นับแต่ปลาย เกษา มาทุกวัย
อันความแก่ นอกใน ใครก็รู้
ต้องทนสู้ ความแก่ มาแต่ใหน
ทนต่อแก่ ทุกคน ทนทำใจ
ไม่อยากได้ ความแก่ แต่ต้องทน
อนึ่งเล่า ทุกคน ทนต่อสู้
ทนต่อหมู่ โรคา มามั่วสุม
ความเจ็บไข้ ได้ป่วย ช่วยกันรุม
เข้าห่อหุ้ม กายใจ ไม่เว้นวาย
พอเกิดมา โรคา ก็เกิดด้วย
เป็นคู่ม้วย ด้วยกัน ไม่ผันผาย
โรคเกิดอยู่ คู่กับคน จนวันตาย
ไม่เลือกชาย เลือกหญิง จริงทุกคน
คนเอ๋ยคน ทนทาน ไม่นานนัก
ไม่ประจักษ์ เห็นคน ทนที่ใหน
เห็นแต่คน ทนอยู่ ไม่เท่าไร
ที่ตายไป ก็คือคน ไม่ทนทาน
ถ้าคนทน คงไม่ตาย กันเป็นแน่
ตามกระแสร์ พุทธองค์ ทรงบรรหาร
คนไม่ทน ต้องตาย ไปตามกาล
ตามหลักฐาน บุญกรรม ที่ทำมา
24 มกราคม 2551 11:24 น.
ลุงแทน
ลาภยศสุขสรรเสริฐ เป็นเครื่องเพลินย้อมนิสัย
บำรุงปรุงจิตใจ คล้ายกับดื่มสุราบาน
ผู้ใดขาดสติ ชอบดำริประกอบการ
ก่อกรรมของคนพาล เพราะยศลาภซาบซึ้งใจ
ยอมตนให้เป็นทาส ไม่สามารถเป็น"ไท"ไซร้
ล้วนแล้วแต่มีภัย ความชั่วร้ายครอบงำตน
ปัญญากำหนดรู้ ตริตรองดูตามเหตุผล
ลาภยศมีทุกคน แต่ก็ทนอยู่ไม่นาน
สรรเสริฐและความสุข นินทาทุกข์ย่อมเจือจาน
สาระที่ทนทาน ในโลกธรรมไม่มีเลย
เป็นธรรมชื่อไตรลักษ์ ย่อมประจักษ์ตามเฉลย
บัณฑิตย่อมชมเชย ผู้มีจิตไม่หวั่นตาม
บางคราวก็มีได้ แต่บางครั้งก็มีทราม
เป็นธรรมนิยาม ตามสนองประคองไป
วิจารณ์ตามความจริง อย่าประวิงมัวสงสัย
ตามข้ออัตถนัย พุทธพจน์รจนา
เมื่อได้อย่าหลงใหล เมื่อเสื่อมไปไม่โศกา
เป็นธรรมะฐิตา ประจำโลกมาช้านาน
ใครใครหลีกไม่พ้น ทุกทุกคนในสงสาร
เข้าถึงพระนิพพาน จึงผ่านพ้นโลกธรรม....แล ฯ.
24 มกราคม 2551 10:24 น.
ลุงแทน
คนมองกัน สำคัญ มองที่แง่
แง่ที่แท้ ร้ายดี มีเพียงสอง
ข้อสำคัญ นั้นอยู่ ที่คนมอง
แง่ทั้งสอง มองได้ ทั้งร้ายดี
ถ้าคนมอง จ้องดู แต่แง่ร้าย
ก็เป็นภัย ให้ทุกข์ ไม่สุขี
แง่ที่ดี มีอยู่ เหมือนไม่มี
ด้วยเหตุที่ คนมอง ไม่จ้องดู
ถ้าคนมอง แง่ดี เขามีไว้
ตามวิสัย บัณฑิต พิศเนตรรู้
ใช้ปัญญา สอดส่อง ไตร่ตรองดู
พิสูจน์รู้ ว่าดี มีอย่างไร
ครั้นมองเห็น ความดี เขามีอยุ่
จึงเชิดชู ดีงาม ตามนิสัย
สุดแต่มี มากน้อย ค่อยเป็นไป
อำนวยชัย ส่งเสริม เพิ่มทวี
แง่ของคน แต่ละคน นั้นสองอย่าง
ย่อมเป็นทาง มองได้ หลายวิถี
มองแง่ร้าย หายนะ ก็จักมี
มองแง่ดี มีสุข ทุกข์บรรเทา
ทางธรรมสน ให้ทำ ความดีไว้
เขามองร้าย หายนะ เป็นของเขา
ส่วนความดี ยังมี เป็นนของเรา
จะรับเอา แง่ใหน วิจัย เทอญฯ.