20 มกราคม 2551 10:02 น.
ลุงแทน
รักมากก็ทุกข์ยากเพราะพรากรัก
รักจะหักก็เพราะรักไม่สมาน
รักจะสุดแสนดีต้องมีมาร
คอยสังหารผลาญรักหักกระเด็น
ถ้ารักใดมีราคะเป็นร่กเง่า
เป็นไฟเผาภายในไม่แลเห็น
แรกให้เกิดสุกใสไฟยังเย็น
ไม่ช้าเป็นไฟร้อนเข้ารอนราน
ใคร่ครวญดูผัสเมียคลอเคลียรัก
คราวอกหักรักคลายหายสงสาร
พอพร่กรักก็สมัครรักประจาน
เข้ารุกรานผลาญกันบั่นชีวี
นี่คือรักมีราคะป็นรากเง่า
จงนำเข้ามาวิจัยให้ถ้วนถี่
จะหาสุขในทุกข์ที่ใหนมี
ท่านเมธีเรียกร้องว่ากองไฟ
ถ้ารักใดมีเมตตาพาให้รัก
ย่อมประจักษ์ความสุขทุกสมัย
เพราะความรักมีเมตตาเป็นภายใน
ยังผลให้ความรักไม่หักราน
ใคร่ครวญดูพ่อแม่ที่รักลูก
เพราะท่านปลูกเมตตาเป็นรากฐาน
รักเยือกเย็นเป็นสุขยืดยาวนาน
รักสงสารมั่นคงจนวันตาย
อันความรักสองอย่างวางไว้นี้
ย่อมจักชี้ให้เห็นเป็นเคื่องหมาย
รักที่มีราคะย่อมละลาย
รักกับกลายเกลียดชังนั่งรำพึง
รักที่มีเมตตาท่านว่าไว้
เป็นเหตุให้รักมั่นรำพันถึง
แม้จะอยู่ไกลใกล้ให้คำนึง
รักคิดถึงพึงได้สุขใจเอย.
20 มกราคม 2551 06:30 น.
ลุงแทน
ยามอรุณรุ่งแสงทองวิจิตร
มองในทิศบูรพาช่างสดใส
หมู่นกกาออกหากินในถิ่นไพร
พร้อมเสียงไก่ขับขานก้องกังวาน
ทุกชีวิตเริ่มต้นใหม่ในวันนี้
ตามหน้าที่แต่ละคนบนบทบาท
ในวิชาอาชีพเพื่อเลี้ยงอาต
มิผิดพลาลตริตรองก่อนจะทำ
หยดน้ำค้างยามเช้าใบยอดหญ้า
ปราศจากใครพรมอย่างสงสัย
ธรรมชาติตัวกำหนดรดทุกใบ
ช่างสดใสปราศจากธุลีปน
มีน้ำใจเผื่อแผ่แก่สรรพสัตว์
ปฏิบัติด้วยเมตตาพาสุขี
กรุณาต่ดกันด้วยปราณี
องค์มุนีชี้บอกเมตตาธรรม
18 มกราคม 2551 21:15 น.
ลุงแทน
เทียนนั้นหรือ เปรียบด้วย ดวงชีวิต เริ่มจุดติด ให้แรง แสงสว่าง
อยู่ในร่ม ลมสงบ เปลวไฟวาว อยู่ได้นาน ไม่พบ ประสพภัย
เทียนที่อยู่ กลางแจ้ง แรงลมมาก ด้วยไม่อาจ ต้านวาโย โต้จนดับ
สิ่งที่เห็น ไส้เทียน สีดำขวับ บ้างก็ดับ แต่แรก ไม่แปลกใจ
เทียนลุกไหม้ เผาตนเอง เป็นสัจจะ น้ำตาเทียน หล่นละ ปะพื้นหิ้ง
บ้างไม่มี เศษเทียน ก็เรื่องจริง สิ่งที่ทิ้ง ร่องรอย ก่อนสิ้นเทียน
เปรียบชีวิต เมื่อจุติ มาเกิดใหม่ คงเหมือนไส้ มีเนื้อ เทียนหุ้มห่อ
เก้าเดือนบ่ม จนครบ กำหนดรอ แล้วมาก่อ แสงไฟ ในไส้เทียน
เริ่มจุดไส้ ด้วยอัคคี มีสีสรร คือความโลภ โกรธนั้น หลงตามติด
ยังไม่รู้ ดูไฟ ในความคิด ด้วยมีจิต สัญญา มาต่อเติม
เวทนา เริ่มมี นาทีแรก จึงไม่แปลก มีหิว กริ้วสุขสม
มีวิญญาณ มาผสาน เป็นอารมณ์ แล้วเพาะบ่ม ผสม บุพกรรม
กาลเวลา เผาเทียน เปลี่ยนชีวิต ตามที่กรรม ลิขิต จิตเกิดก่อ
แสงเทียนดับ ชีวิตลับ คืนกลับจอ ที่ติดต่อ สู้ลม ผลขอลกรรม
เราเกิดมา เพื่อสร้างกรรม แห่งชีวิต ถูกหรือผิด ตริตรอง มองเหตุผล
สร้างกรรมดี มีสุข ไร้ทุกข์ตรม อกุศล ผลนั้น กรรมของตน
18 มกราคม 2551 11:01 น.
ลุงแทน
ลุงแทนเกือบ พลาดพลั้ง การทำบาป
เกือบจะพลาด ฆ่าคน จนตระหนก
ยืนทำใจ ไม่ให้ สั่นรันทด
กว่าปลงตก ขอโทษ อย่าโกรธเคือง
มีครั้งหนึ่ง ซึ่งเด็ก เป็น ม.ปลาย
ทั้งหญิงชาย มากหน้า กว่าสองร้อย
จัดระเบียบ แยกรุ่น เป็นกลุ่ย่อย
วิทยากร มีน้อย ต้องแบ่งงาน
เด็กคุยกัน ลั่นห้อง คะนองปาก
ด้วยว่าอาจ ครั้งแรก แปลกที่ใหม่
ลุงแทนปล่อย ให้คุย ลุยตามใจ
จนพักใหญ่ มาตรการ กล่าวเฉียบพลัน
เสียงนกหวีด สะกด หมดเสียงเกริ่น
แล้วก็เชิญ อาจารย์ ท่านมาหา
อยู่โรงเรียน ถามว่า ก่อนจะมา
ปรารถนา ให้เด็ก เป็นอย่างไร
ครูบอกว่า อยากให้เด็ก มีระเบียบ
รู้จักเปรียบ ดีเลว เช่นไรหนา
ให้รู้จัก คุณค่า ของเวลา
ศีลธรรม กลับมา หาดั่งเดิม
ในระหว่าง อนรม ยกให้ท่าน
ช่วงสามคืน สี่วัน นั้นทั้งหมด
เด็กที่มา สอบไม่ผ่าน อาจเรียนงด
ใครที่ตก ต้องซ่อม พร้อมทำตาม
ข้อระเบียบ ออกมา ไปตามกฎ
เด็กทั้งหมด หน้าจ๋อย หงอยไปนิด
เวาลาผ่าน ไม่นาน เริ่มทำผิด
ต้องสะกิด ผิดหมด ยกขบวน
เด็กผู้หญิง คนหนึ่ง ซึ่งปกติ
ดูไม่ผิด จากคนอื่น ยื่นเอะอะ
ดูท่าทาง ก๋ากั่น เห็นจะจะ
เรียกมาซะ ทำโทษ ใช่โกรธเธอ
สก๊อตจ้ำ ห้าสิบ อย่าบิดพริ้ว
เธอหน้านิ่ว เป็นลม ล้มลงคว่ำ
พอมารู้ ใจหาย เราทำกรรม
เด็กคนนั้น ตั้งครรภ์ ได้ห้าเดือน
ลุงแทนเกือบ พลาดพลั้ง การทำบาป
ให้อนาถ ใจแท้ แม่เด็กสาว
หากทางบ้าน รับทราบ กับเรื่องราว
ลุงแทนร้าว ปวดใจ ในเหตุการณ์
17 มกราคม 2551 10:29 น.
ลุงแทน
วัน คืนเลือนลับ
ไม่ย้อนกลับ มาใหม่ได้อีกหน
มีอดีต ปัจจุบัน นั้นเวียนวน
วัฏจักร หมุนวน จนเคยชิน
ในวันนี้
ท่านทำดี มีสิ่งใด ให้ประจักษ์
จงหยุดพัก ตรองตรึง นึกบ้างหนา
เราไม่รู้ เวลาสิ้น ดินกลบหน้า
หาเวลา ทำดี มีในวัน
วันพรุ่งนี้
เป็นแค่ความ หวังว่าอยู่
จงตรองดู รู้คิด จิตวางแผน
มีสิ่งใด ให้เตรียม เปรียบวางแปรน
ที่เป็นแผน อนาคด กำหนดทำ