14 ธันวาคม 2550 09:11 น.

จริงใหม?

ลุงแทน

.......ในโลกนี้ ไม่มี ที่เที่ยงแท้
มีผันแปร เปลี่ยนไป ในทุกสิ่ง
ตั้งแต่เริ่ม เกิดมา สรรพสิ่ง
ไม่อยู่นิ่ง เสื่อมลง ให้ปลงตาม

.......เมื่อยังเด็ก "เตาะแตะ" แนะหัดรู้
ไม่อดสู "เต็งตึง" ถึงหนุ่มสาว
ต่อนานไป "โตงเตง" เมื่อถึงกาล
อวสาน "ต้องตาย" ไม่ทานทน

.......เมื่อยังอยู่ รู้สร้าง จิตสำนึก
ด้วยการฝึก มโนธรรม นำสร้างสรรค
มีหิริ โอตตัปปะ "นะ"ป้องกัน
รับผิดชอบ สังคม คือคนดี

.......การทำดี เพื่อตน แค่ลมสิ้น
ไป่ถวิล คนสรรเสริญ เจริญต่อ
แต่ทำดี เพื่อสังคม คนเยิ่นยอ
ชั่วฟ้าดิน บ่หมด คนจดจำ				
11 ธันวาคม 2550 14:34 น.

คิดถึงแม่

ลุงแทน

.......จากวันนั้น ผ่านมา สิบหกปี
เป็นวันที่ ดวงใจ ให้สลาย
๒๒ ธันวา  มารดาตาย
ดุจสายใจ ให้สบั่น ชั่งวังเวง
........ทุกวันกลับ จากงาน มาถึงบ้าน
เสียงเรียกขาน จากแม่ ดังก้องหู
เหนื่อยใหมลูก วันนี้ หน้าที่ครู
กราบเท้าผู้ มารดา ท่านปลอบใจ
........มืออ่อนโยน ลูบหัว ทั่วลูบหลัง
เป็นพลัง ยิ่งใหญ่ ให้ใจสู้
บอกกับท่าน แม้เหนื่อย เพราะเป็นครู
ขอให้ผู้ เป็นศิษย์  ไม่ผิดแน่ว
........อาบน้ำก่อน แม่บอก ก่อนทานข้าว
พร้อมสำรับ จัดวาง ทานพร้อมแม่
ความการุณ สุดประมาณ ท่านเผื่อแผ่
นี่แหละแม่ ที่ไม่อาจ หาใครเทียม
........มาวันนี้ ถึงบ้าน กราบรูปท่าน
ไร้เสียงขาน แว่วดัง เช่นเก่าก่อน
ก่อนจะหลับ กราบอัฐิ จิตวิงวอน
ด้วยขอพร ให้ท่าน สู่วิมาน.............ฯ				
5 ธันวาคม 2550 19:44 น.

เสียงเตือนจากพ่อ

ลุงแทน

......พ่อบอกว่า ชาติมีภัย...................ต้องพร้อมใจ ร่วมป้องกัน
พ่อบอกว่า สมานฉันท์......................ที่พูดนั้น กลั่นจากใจ
พ่อบอกว่า ใครเป็นใคร...................ที่มีใจ ให้รู้ตัว
พ่อบอกว่า หากพ้นภัย......................ต้องให้ไทย สามัคคี

......พ่อบอกว่า เวลานี้......................ดุจอัคคี  ที่ไหม้บ้าน
พ่อบอกว่า  มีภัยพาล........................ค้อยรุกลาม ผลาญเชื้อไทย
พ่อบอกว่า อย่าไว้ใจ........................ให้คนไทย ได้ติดตาม
พ่อบอกว่า ผู้หยาบหยาม...................หวังล้างผลาญ เราชาติไทย

......พ่อบอกมา หมารู้คุณ...................ที่เจือจุน ขุนข้าวเลี้ยง
พ่อบอกว่า พวกยากเปลี่ยน...............ไม่อาจเทียบ เทียมสุนัข
พ่อบอกว่า หมาไม่กัด........................คนฟูมฟัก ให้พักพิง
พ่อบอกว่า แม้ฝูงลิง                           ยังไม่ทิ้ง ถิ่นป่าดอน

......พ่อบอกว่า  ชาติ ศาสน์กษัตริย์.....ไทยเรารัก  ภักดิ์แค่บรรพ
พ่อบอกว่า  เป็นไทยนั้น....................ใจอย่าคิด ผิดแผ่นดิน
พ่อบอกว่า เขาจักสิ้น..........................แม้แผ่นดิน ถิ่นเคยนอน
พ่อบอกว่า  ต้องสังวรณ์.......................รู้คำสอน  "กตัญญู"				
4 ธันวาคม 2550 09:33 น.

พระไตรลักษ์

ลุงแทน

-:- พระไตรลักษณ์
 
     พระไตรลักษณ์หนักหน่วงในดวงจิต 
 สุขุมคิดตรึกตรองให้นักหนา  
พิศ-เพ่งเล็งดูพระอนัตตา  
เป็นไม้เท้าก้าวหน้าหาหนทาง 
พระทุกขังตั้งไว้ให้มั่นคง
ค่อยดำรงชำระประสระสาง  
อวิชชาพาหลงกำบังทาง  
พระทุกขังแผ้วถางสว่างเตียน
กำจัดมืดโมโหให้ผ่องแผ้ว  
เหมือนดวงแก้วชูเชิดประเสริฐเศียร  
เอาสติตั้งไว้เป็นความเพียร  
ด้วยจำเนียรก่อสร้างในทางธรรม  
พระไตรลักษณ์ตักเตือนให้บริสุทธิ์
เหมือนมงกุฎสุดเหลืองเรืองอร่าม  
ดูงามขำรัศมีศรีวิไลล้ำ  
พระคุณธรรมเกื้อหนุนการุญงาม  
บรรดาศีลบริสุทธิ์ก็พร้อมเสร็จ  
เหมือนเกราะเพ็ชรสวมใส่ใน
สนาม  คอยป้องกันอวิชชาสง่างาม  
จะพาข้ามด่านเขตกิเลสมาร 
พระกรซ้ายทรงพระขรรค์อันผ่องศรี  
ถือขันตีอดใจในสงสาร  
ชำระกองกิเลสให้เด็ดพาล  
พระยนมารพ่ายแพ้ด้วยขันตี  
พระกรขวาทรงเครื่องศาสตราวุธ  
บริสุทธิ์เสด็จสอดพระ-แสงศรี  
เมตตาพาจิตให้เปรมปรีดิ์  
จะข่มขี่กุศลให้ม้วยมร  
พระกรุณาเบื้องขวารักษาสโมสร  
มุทิตาเป็นโยธาซ้ายพระกร  
ไม่ย่อหย่อนต่อภัยสิ่งไรมี  
พวกเสนาฆ่ามารราญณรงค์  
คือพรหมวิหารอุเบกขา  
ย่อมประหารมารม้วยให้มรณา  
ด้วยปัญญาเป็นดวงมณีนิล  
สำหรับส่องสว่างกระจ่างแจ่ม 
คือองค์กสิณจะมืดมน
อนธการก็ศูนย์สิ้น  
องค์กสิณสุกสว่างกระจ่างใจ  
เสร็จจะนั่งเหนือหลังสินธพชาติ
คืออิทธิบาททั้งสี่จะมีไหน  
ผ่อนพักอาชาพาเดินดำเนินไป  
เข้าหนทางใหญ่  คือพระอัฏฐังคิกมรรค 
 ผลทานเป็นเสบียงลำเลียงส่ง  
จะข้ามดงแดนเขตกิเลสมาร
สัจจังตั้งไว้เป็นศรัทธา  
ด้วยปัญญาอุปถัมภ์มาค้ำชู  
ไม่ย่อหย่อนผ่อนชักอาชาชาญ
พระยามารแลเห็นก็อดสู  
พระยามัจจุราชก็ไม่อาจจะแลดู  
ปิดประตูจตุราไม่อาวรณ์
วิริยะล้ำเลิศประเสริฐนัก  
ดังอินทร์องค์ทรงศักดิ์สโมสร  
บรรพชาดังว่าเป็นพระ-เมรุธร  
ไม่ย่อหย่อนต่อความที่พากเพียร  
สมาธิส่องตามส่งให้ตรงทาง  
วิปัสสนาแผ้วถางซึ่งหนามเสี้ยน  
พระโภชฌงค์ทรงโฉมคือโคมเทียน  
ไม่แวะเวียนตามส่งถึงนิพพาน  
ใครได้แล้วเหมือนได้แก้วมโนนึก  
ไม่ตรองตรึกที่จะยากในสงสาร
ไปเสวยรมณ์ชมสุขทุกประการ  
เหมือนวิมานเมืองฟ้าสุราลัย  
สุขอะไรจะมาสุขเหมือนเมืองแก้ว  
สุขเลิศแล้วสุขยิ่งทุกสิ่งสรรพ์  
พ้นวิสัยใครเลยจะเทียมทัน  
เป็นมหันตะมโหโอฬาร์ลาน 
แดนสถาน พิมานสุข ทุกท่านเอย ฯ				
4 ธันวาคม 2550 09:16 น.

รู้ไว้ใช่ว่า ฯ

ลุงแทน

...........เขาไม่ถาม  อย่าตะกราม  ตะกละกล่าว        
ไก่สามหาว  มิใช่ยาม  ตะกรามขัน
กลัวไว้หน้า  กล้าไว้หลัง  ระวังทัน             
คนทุกวัน  แปดเหลี่ยม  สิบสองคม
คนหน้าเนื้อ  ใจเสือ  ก็เหลือคบ                 
 ข้างนอกกลบ  หวานไว้  ข้างในขม
มะนาวเกลี้ยง  ก็ไม่ล้น  เท่าคนกลม            
เร็วกว่าลม  เหลี่ยมลบ  ตลบตะแลง
ฝนจะตก  เท่าไร  น้ำไม่ขัง                       
 ย่อมไหลหลั่ง  ลงรู  คูระแหง
รสไม่รู้  ดุจจวัก  ที่ตักแกง                        
จนปากแหว่ง  เปรี้ยวหวาน  ไม่พานรู้
ถึงมีหู  มีอยู่  ดังหูกะทะ                           
มีตาปะปะ  เหมือนสัปปะรด  น่าอดสู
ถึงมีปาก  ปากพล่อย  ดังหอยปู                 
มีเท้าคู้  มือตาย  เหมือนไม่มี
กระจกส่อง  มองเด่น  จะเห็นหน้า             
ปัญญาส่อง  ปัญญา  ชี้แจ่มใส
ตัวของตัว  ชั่วดี  มีเพียงใด                       
ไม่ต้องไป  หาหมอดู  ก็รู้ดี
จิตไม่ตาย  รูปไม่ตาย  อย่าหมายผิด           
รูปกับจิต  บอกหมด  ปลดนิสัย
รูปทั้งกอง  เปรียบเหมือนฟอง  ชลาลัย       
เกิดขึ้นแล้ว  ก็ดับไป  เป็นธรรมดา
ถ้ารู้จิต  ก็รู้จบ  พบธรรมะ                          
องค์พุทธะ  ปรากฏ  หมดโมหันต์
ละกิเลส เลสชั่ว ทรงรู้ทัน                    
ไม่กลับหัน ทรงประหาร อย่างชาญชัย
ธรรมจักร หลักธรรม นำพิสุทธิ์               
ได้วิมุติ หลุดลา จากภพสาม
มีพระธรรม ปะดุจ พุทธบูชา                  
ใช้ปัญญา พาสุข ทุกข์มลาย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลุงแทน