18 มกราคม 2552 12:06 น.
ลุงแทน
"สี่คนหาม" ตามมา "สามคนแห่"
อีก"คนหนึ่ง นั่งแคร่" แปลความหมาย
เหลือ"อีกสอง ตรองตริ" คิดบรรยาย
นิมิตหมาย ทายกัน ฉันญาติธรรม
ปริศนา กานต์นี้ มีข้อคิด
เตือนสติ มิผิด จิตถลำ
หากใคร่ครวญ อย่าด่วน เฉลยคำ
ขอเน้นย้ำ สี่คำ นำตีความ
17 มกราคม 2552 12:46 น.
ลุงแทน
วาสนา โชคร้าย ชายอาภัพ
ไม่ประสบ พบรัก ประจักษ์เห็น
ทนกล้ำกลืน ฝืนกร่ำ ด้วยลำเค็ญ
ดุจเฉกเช่น เป็นเพียง ไม้กลางดอน
ยืนโดดเดียว เพียงเรา เฝ้ามองหา
หมู่นกกา อาศัย แล้วจากขอน
ทิ้งให้อยู่ ผู้เดียว จากบินจร
อนุสรณ์ ที่เห็น เป็นไม้ตาย
15 มกราคม 2552 20:19 น.
ลุงแทน
หัวใจเศรษฐี ...ลุงแทน
มีคาถา มาฝาก เพื่อนญาติมิตร
ทั่วทุกทิศ ใกล้ไกล ได้ส่งถึง
มีสี่คำ ย้ำบอก รักชอบจึง
จิตคนึง ถึงเพื่อน มิเลือนลา
อุ อา กะ สะ ท่องให้ขึ้นใจ
เพราะเป็นหัวใจ จำไว้เถิดหนา
ต้องปฏิบัติ พร้อมกับภาวนา
ในอีกไม่ช้า พากันร่ำรวย
*อุ ย่อมาจาก อุฎฐานสัมปทา
รู้จักหมั่นหา ขยันหมั่นด้วย
พรากเพียรการงาน ชีวิตสดสวย
มิใช่หวังรวย ด้วยการภาวนา
ขยันอดทน ไม่บ่นทำกิน
ไม่หมิ่นเงินน้อย ต้องค่อยค่อยหา
ธุระของตน ใช่คนนำพา
สมปรารถนา ไม่ช้ามั่งมี
** อา นั้นมาจาก อารักขสัมปทา
ด้วยการรักษา สมบัติที่มี
รู้จักใช้จ่าย อย่าอวดเศรษฐี
อย่าอวดมั่งมี เศรษฐีขอทาน
ซื่อสัตย์หน้าที่ มีความเที่ยงตรง
ไม่คดไม่โกง ตั้งปณิธาน
หากจิตคิดอยาก สัจจะประหาร
รักษาการงาน สราญสุขใจ
*** กะ นั้นมาจากกัลยาณมิตตตา
จำเป็นนักหนา หาเพื่อนดีได้
ต้องใช้เวลา ศึกษานิสัย
เพื่อนนั้นรู้ไว้ มิตรแท้ มิตรเทียม
มิตตปฎิรูป นั้นหลีกให้ไกล
อย่าได้ไว้ใจ ไม่งั้นหมดเกลี้ยง
ปอกลอก ดีแต่พูด หัวประจบเสี้ยม
ชักชวนให้เสีย ในทางฉิบหาย
มิตรแท้แน่นอน มีอุปการะ
ร่วมทุกข์ร่วมสุข มิรู้แหน่งหน่าย
มิตรแนะประโยชน์ มีคุณมากมาย
มีความรักใคร่ หมายช่วยเหลือกกัน
**** สะ นั้นมาจาก สมชีวิตา
เลี้ยงชีวิตมา สมควรแก่ทรัพย์
มิใช่ตระหนี่ แต่มัธยัต
สี่คำนั้นจัด หัวใจเศรษฐี
อุ อา กะ สะ มานะอดทน
ศึกษาคิดค้น เลี้ยงชีพด้วยดี
รู้จักใช้จ่าย ตริตรองถ้วนถี่
จักเป็นเศรษฐี มั่งมีไม่จน
14 มกราคม 2552 16:59 น.
ลุงแทน
ตัดให้ได้ หนีให้ห่าง อย่าข้องจิต
อย่ายึดติด เป็นบ่วงมาร ผลาญสิ้นสูญ
อกุศล กลเล่ห์ร้าย หน่ายอาดูร
เหตุเป็นมูล แห่งอบาย หมายชีวัน
หนึ่งโลภะ สองโทสะ สามโมหะ
เป็นมละ แห่งมลทิน ถิ่นโศกศัลย์
ใครติดบ่วง ห่วงวงล้อ ต้องจาบัลย์
สูญสิ้นพลัน ทางสวรรค์ อันสุขใจ
* อันโลภะ หายนะ คือความโลภ
ต้องเศร้าโศก ความอยากได้ ให้หวั่นใหว
ไม่รู้จัก คำว่าพอ ให้ท้อใจ
มากแค่ใหน ไร้แผ่นดิน ก็สิ้นดี
อยากเป็นใหญ่ พอสมใจ ให้อยากเพิ่ม
ด้วยอยากเสริม บารมี ไม่ขวยเขิลล์
ในที่สุด ความยากมาก มาซ้ำเติม
ความเจริญ เริ่มเสื่อมถอย ต้องระกำ
** ก่อให้เกิด เพิ่มโทสะ ละไม่หยุด
คอยประทุ - ษร้ายใจ ให้เจ็บช้ำ
กลายเป็นโกรธ โทษอบาย กายหมองคล้ำ
เจ็บระยำ ย่ำผูกโกรธ โทษเพิ่มตาม
ก่อให้เกิด เป็นความแค้น แสนสาหัส
คิดกำจัด ตัดเสี้ยมหนาม ให้ย่อยยับ
ความโกรธแค้น ต่อตามเติม เพิ่มระดับ
อาฆาตกลับ สับใจตน ทนหมองใจ
*** เหตุเพราะหลง กลอบาย ให้ใจทุกข์
หลงจนสุด หลุดความดี ชีวีไหม้
ขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว ร้ายหทัย
ความสดใส ไม่มีเหลือ เหยื่ออธรรม
เราต้องลด ลงต้องละ แล้วผละเลิก
ก่อให้เกิด เพิ่มความดี ไม่ถล่ำ
เตือนสติ คิดรอบครอบ ประกอบกรรม
กุศลธรรม นำชีวิต ปลิดบ่วงมาร
13 มกราคม 2552 09:30 น.
ลุงแทน
คนเรามี “สามไตร”
คนเรานั้น เขาว่า มีสามไตร
ที่เราใช้ ยึดเหนี่ยว เกี่ยวกับจิต
เป็นเครื่องผูก คู่ครอง ของชีวิต
ไม่ทำผิด ทำนอง ครองธรรม
*ไตรที่หนึ่ง ซึ่งแก่ พระตรัยรัตน์
เป็นแกนหลัก อำนวย ไม่ถล่ำ
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แน่นหนัก
ที่ประจักษ์ หลักชัย ให้เจริญ
** ไตรที่สอง น้อมนำ ไตรสิกขา
เพื่อศึกษา มาตรอง ไม่เขอะเขิล
ศีล สมาธิ ปัญญา มาต่อเติม
ช่วยให้เดิน ถูกทาง อย่างจีรัง
*** ไตรที่สาม ตามต่อ ข้อไตรลักษ์
เห็นประจักษ์ ความจริง ไม่ผิดหวัง
ไม่ประมาท ชีวิต คิดระวัง
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา