14 มีนาคม 2552 20:11 น.
ลุงแทน
หลานสาวว่งมาให้อ่าน เห็นว่าดีมีประโยชน์ เลยเอามาให้เพื่อนๆ หลานๆ ได้อ่านกัน
โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า }แน่นอน~
คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน
ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด
เหตุผลของคน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคน อีกคนหนึ่ง
ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง
เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
ไม่เป็นขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ ก็สายเกินไป
อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก
เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน
เพื่อนทั่วไป ไม่เห็นคุณร้องไห้
เพื่อนแท้ มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้
เพื่อนทั่วไป ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ
เพื่อนแท้ จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน
เพื่อนทั่วไป คาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ
เพื่อนแท้ คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป
เพื่อนทั่วไป เข้าหาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากเรา
13 มีนาคม 2552 14:44 น.
ลุงแทน
เป็นปรัชญา คำคม คารมปราชญ์
เป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ ยิ่งความหมาย
เป็นอมตะ แก่ตน จนชีพวาย
เป็นหนทาง ชี้นำ ทำความดี
จงทำดี ที่สุด ในวันนี้
ดุจเรามี ชีวิต ที่ริบหรี่
จงศึกษา เรียนรู้ ให้เต็มที่
ดุจเรามี ชีวิต นิรันดร์กาล
13 มีนาคม 2552 09:15 น.
ลุงแทน
จากเหตุการณ์ วันวาน พลาเพลียพล่อย
ตาละห้อย หมดแรง ให้แข็งขืน
เข้าห้องน้ำ หลายครั้ง เมื่อค่ำคืน
พาลให้ตื่น สายหน่อย โอ๋ยอ่อนเพลีย
ต้องลางาน กินน้ำ ข้าวต้มอ่อน
เมื่อวันก่อน น้ำพริก ซิท้องเสีย
ให้ระโหย โรยแรง แสนระเหี่ย
มานั่งเขียน ตาปรือ อืมหมดแรง
12 มีนาคม 2552 23:10 น.
ลุงแทน
วันนี้ไป ได้เรื่อง เมื่อมื้อเที่ยง
อาหารเทียบ จัดวง ตั้งตรงหน้า
ทั้งต้มยำ น้ำพริก น่ารับทาน
มะเขือยาว ยำกุ้งสด ครบน่ากิน
ทั้งเปรี้ยวเผ็ด เค็มหวาน ผสานครบ
พร้อมทุกรส ตัมยำปลา ด้ยความหิว
ผักกูดต้ม น้ำพริก ซิน่ากิน
อร่อยลิ้น ชิมกัน อย่างตั้งใจ
เวลาผ่าน ไม่นาน ฉันจึงพบ
ยิ่งใกล้พลบ ค่ำลง คงคิดได้
โอ้มื้อเที่ยง เป็นเหตุ กินมากไป
ตอนนี้ได้ เห็นผล คนชอบกิน
มานั่งเขียน เวียนเข้า สามสีหน
ต้องเวียนวน ทนนั่ง หมดท้องสิ้น
โอ้แม่ครัว ตอนกิน อร่อยลิ้น
ตอนนี้สิ้น ท่าแล้ว แม่ครัวเอย
12 มีนาคม 2552 15:34 น.
ลุงแทน
ไม่ต้องมา บอกค่ำ ว่ารักพ่อ
เพียงแค่ขอ ภูมิใจ นั้นใหญ่ยิ่ง
พ่อกับเจ้า จากกัน ใช่ทอดทิ้ง
ด้วยความจริง เป็นสิ่ง ที่ข่มใจ
เพราะพิษรัก ครั้งนั้น พลันพลัดพราก
พ่อแม่ลูก ต้องจาก ช้ำยิ่งใหญ่
ยี่สิบห้า ปีที่ พรากกันไป
ดุจดวงใจ สลาย คล้ายกับตาย
พ่อทุกข์ตรม ขมใจ ไม่เคยสุข
คิดถึงลูก สุดช้ำ ใจสลาย
ด้วยจากกัน นานเนิน เหมือนการตาย
แต่สุดท้าย พานพบ ประสพเจอ
พ่อยังครอง นิยาม ความเป็นหม้าย
หญิงมากมาย สนิท ชิดเสนอ
แต่แผลรัก สลัก จากใจเธอ
พ่อไม่เผลอ ให้ใคร มาซ้ำรอย
ตราบวันนี้ ไม่มี ใครเคียงข้าง
ยี่สิบห้า ปีร้าง ไม่มีสอง
ส่วนเธอนั้น ไม่เคย ร้างคู่ครอง
เปรียบเราสอง ต่างกัน ดั่งฟ้าดิน
ไม่ต้องรัก พ่อหรอก บอกลูกรัก
เพียงพบพักตร์ ประสพ สมถวิล
ให้ภูมิใจ ในรัก พ่อมีจริง
มิใช่หยิ่ง รักเดียว ก็เพียงพอ
พ่อไปนี้ ขอทำ หน้าที่พ่อ
ที่ต้องรอ มานาน ไม่ท้อถอย
ชดเชยใน เวลา กาลรอคอย
อีกหลานน้อย ของปู่ จะเกิดมา
ขอเลี้ยงหลาน ชดเชย เคยพลักพราก
ไม่ยอมจาก พรากกัน เหมือนก่อนหนา
เป็นตาแก แม้ไร้ เปลี่ยวเอกา
รอเวลา วันตาย ได้หลับตา
............