21 มกราคม 2551 19:37 น.
ลุงแทน
อยู่กับธรรม
เมื่อรบสู้ กับศัตรู สู้ด้วยธรรม
จะปลุกปล้ำ กันเท่าใด ไม่เสียหาย
ถ้าสู้กัน อย่างนี้ ไม่มีตาย
ในสุดท้าย จะปรองดอง ต้องใจกัน
เมื่อป้องกัน ศัตรู รู้ใช้ธรรม
เป็นกำแพง เพชรล้ำ เลิศมหันต์
ป้องกันได้ สารพัด น่าอัศจรรย์
ป้อนค่ายมั่น กว่าสิ่งใด ในโลกคน
เมื่อหลบซ่อน จากศัตรู อยู่กับธรรม
ไม่ระกำ ทุกข์เห็น สักเส้นขน
ช่วยปลุกปลอบ ชื่นชอบ ฉ่ำกมล
ขอทุกคน จงมีธรรม ประจำกายฯ
*** พุทธทาสคำกลอน***
20 มกราคม 2551 10:14 น.
ลุงแทน
คำว่าชังฟังดูรู้สึกว่า
เป็นเรื่องพาจิตใจให้เศร้าหมอง
เมื่อใคร่ครวญดำริแล้วตริตรอง
มีอยู่สองเรื่องชังฟังด้วยกัน
ชังข้อหนึ่งมีโทสะเป็นจริต
ทำความผิดทุหทางอย่างหุนหัน
เพราะโทสะพาทำผิดคิดไม่ทัน
ชังอย่างนั้นชังชั่งหมองมัวใจ
อีกความชังข้อสองตรองให้รู้
ชังของผู้มีปัญญาท่านปราศรัย
เป็นสังขารเกลียดชังทั้งวิจัย
คิดขบไขเลือกเฟ้นเห็นด้วยญาณ
ชังสังขารมารยาว่าโสโครก
ทั้งมีโรคเจ็บตายหลายสถาน
ชังสังขารนั้นหนาว่าเป็นมาร
คอยล้างผลาญความดีมีในตน
อันความชังสองอย่างวางไว้นี้
ชังหนึ่งมีโทสะเป็นต้นหน
ชังอย่างนี้ย่อมมีกันทุกคน
มีแต่ผลส่งให้ไปอบาย
ชังสองมีปัญญาเป็นมูลเหตุ
ชังกิเลสฝ่านดำกรรมทั้งหลาย
ชังสังขารการผิดคิดทำลาย
เป็นที่หมายถึงจุติวิมุตธรรม
20 มกราคม 2551 10:02 น.
ลุงแทน
รักมากก็ทุกข์ยากเพราะพรากรัก
รักจะหักก็เพราะรักไม่สมาน
รักจะสุดแสนดีต้องมีมาร
คอยสังหารผลาญรักหักกระเด็น
ถ้ารักใดมีราคะเป็นร่กเง่า
เป็นไฟเผาภายในไม่แลเห็น
แรกให้เกิดสุกใสไฟยังเย็น
ไม่ช้าเป็นไฟร้อนเข้ารอนราน
ใคร่ครวญดูผัสเมียคลอเคลียรัก
คราวอกหักรักคลายหายสงสาร
พอพร่กรักก็สมัครรักประจาน
เข้ารุกรานผลาญกันบั่นชีวี
นี่คือรักมีราคะป็นรากเง่า
จงนำเข้ามาวิจัยให้ถ้วนถี่
จะหาสุขในทุกข์ที่ใหนมี
ท่านเมธีเรียกร้องว่ากองไฟ
ถ้ารักใดมีเมตตาพาให้รัก
ย่อมประจักษ์ความสุขทุกสมัย
เพราะความรักมีเมตตาเป็นภายใน
ยังผลให้ความรักไม่หักราน
ใคร่ครวญดูพ่อแม่ที่รักลูก
เพราะท่านปลูกเมตตาเป็นรากฐาน
รักเยือกเย็นเป็นสุขยืดยาวนาน
รักสงสารมั่นคงจนวันตาย
อันความรักสองอย่างวางไว้นี้
ย่อมจักชี้ให้เห็นเป็นเคื่องหมาย
รักที่มีราคะย่อมละลาย
รักกับกลายเกลียดชังนั่งรำพึง
รักที่มีเมตตาท่านว่าไว้
เป็นเหตุให้รักมั่นรำพันถึง
แม้จะอยู่ไกลใกล้ให้คำนึง
รักคิดถึงพึงได้สุขใจเอย.
20 มกราคม 2551 06:30 น.
ลุงแทน
ยามอรุณรุ่งแสงทองวิจิตร
มองในทิศบูรพาช่างสดใส
หมู่นกกาออกหากินในถิ่นไพร
พร้อมเสียงไก่ขับขานก้องกังวาน
ทุกชีวิตเริ่มต้นใหม่ในวันนี้
ตามหน้าที่แต่ละคนบนบทบาท
ในวิชาอาชีพเพื่อเลี้ยงอาต
มิผิดพลาลตริตรองก่อนจะทำ
หยดน้ำค้างยามเช้าใบยอดหญ้า
ปราศจากใครพรมอย่างสงสัย
ธรรมชาติตัวกำหนดรดทุกใบ
ช่างสดใสปราศจากธุลีปน
มีน้ำใจเผื่อแผ่แก่สรรพสัตว์
ปฏิบัติด้วยเมตตาพาสุขี
กรุณาต่ดกันด้วยปราณี
องค์มุนีชี้บอกเมตตาธรรม
18 มกราคม 2551 21:15 น.
ลุงแทน
เทียนนั้นหรือ เปรียบด้วย ดวงชีวิต เริ่มจุดติด ให้แรง แสงสว่าง
อยู่ในร่ม ลมสงบ เปลวไฟวาว อยู่ได้นาน ไม่พบ ประสพภัย
เทียนที่อยู่ กลางแจ้ง แรงลมมาก ด้วยไม่อาจ ต้านวาโย โต้จนดับ
สิ่งที่เห็น ไส้เทียน สีดำขวับ บ้างก็ดับ แต่แรก ไม่แปลกใจ
เทียนลุกไหม้ เผาตนเอง เป็นสัจจะ น้ำตาเทียน หล่นละ ปะพื้นหิ้ง
บ้างไม่มี เศษเทียน ก็เรื่องจริง สิ่งที่ทิ้ง ร่องรอย ก่อนสิ้นเทียน
เปรียบชีวิต เมื่อจุติ มาเกิดใหม่ คงเหมือนไส้ มีเนื้อ เทียนหุ้มห่อ
เก้าเดือนบ่ม จนครบ กำหนดรอ แล้วมาก่อ แสงไฟ ในไส้เทียน
เริ่มจุดไส้ ด้วยอัคคี มีสีสรร คือความโลภ โกรธนั้น หลงตามติด
ยังไม่รู้ ดูไฟ ในความคิด ด้วยมีจิต สัญญา มาต่อเติม
เวทนา เริ่มมี นาทีแรก จึงไม่แปลก มีหิว กริ้วสุขสม
มีวิญญาณ มาผสาน เป็นอารมณ์ แล้วเพาะบ่ม ผสม บุพกรรม
กาลเวลา เผาเทียน เปลี่ยนชีวิต ตามที่กรรม ลิขิต จิตเกิดก่อ
แสงเทียนดับ ชีวิตลับ คืนกลับจอ ที่ติดต่อ สู้ลม ผลขอลกรรม
เราเกิดมา เพื่อสร้างกรรม แห่งชีวิต ถูกหรือผิด ตริตรอง มองเหตุผล
สร้างกรรมดี มีสุข ไร้ทุกข์ตรม อกุศล ผลนั้น กรรมของตน