1 ตุลาคม 2551 09:49 น.
ลุงแทน
ณ ครานี้ มีเพียง เสียงสายฝน
ที่มายล เป็นเพื่อน เยือนถึงที่
สกุณา เคยก้อง ร้องเสียงดี
มาวันนี้ มิเป็น เช่นดั่งเคย
สายพิรุณ ดุจเพียง เสียงกระซิบ
แสงอาทิตย์ เมฆปิด มิเปิดเผย
อากาศเย็น เช่นนี้ มิคุ้นเลย
อยากจะเอ่ย เหวยเรา ช่างเหงาทรวง
มองนภา พานคิด จิตประหวั่น
เมื่อครั้งนั้น ฉันมี คนที่หวง
เคยจำนรรจ์ กันสอง ประคองนวล
เคยชี้ชวน สรวลสันต์ กันสองคน
สายลมพลิ้ว หวิววาบ ฉาบกายสั่น
จิตรำพัน หวั่นหวาด พาลสับสน
ครั้นหลับตา ใบหน้า มาลอยวน
ต้องเจ็บทน ม่นหมอง ตรอมอุรา
หยิบภาพถ่าย หลายใบ ในอดีต
ดุจคมมีด กรีดย้ำ ช้ำจริงหนา
สองมือสั่น สุดกลั้น หลั่งน้ำตา
แหงนมองฟ้า อยากลืม คืนความจริง ฯ.
27 กันยายน 2551 18:18 น.
ลุงแทน
เมื่อยามแล้ง แห้งน้ำ ทำข้าวเหลือง
มองชำเลือง เบือนหน้า น้ำตาใหล
ฝุ่นปลิวฟุ้ง ท้องทุ่ง ครุ่นแดดไอ
เหงื่อโทรมไหล ใบหน้า พาหมองคล้ำ
ธรรมชาติ ขาดเกิน บังเอิญหรือ
หรือฝีมือ ของใคร ให้เกิดช้ำ
ตัดต้นไม้ ใบหนา พาระกำ
ความชุ่มฉ่ำ ถูกกระหน่ำ ช้ำเพราะใคร
มาบัดนี้ วารี ปรี่ท่วมทุ่ง
พายุหมุน รุนแรง แสงฟ้าปราด
พร้อมพิรุณ กลุ่มเมฆ เป็นม่านฉาก
สายฝนสาด พาน้ำ กระหน่ำเติม
แม่โพสพ ใบตก ตระหนกตื่น
น้ำฉ่ำชื่น ลืมตา พาสดใส
คงคาเอ่อ ชะเง้อ มากเกินไป
อนาจใจ ให้ช้ำ น้ำมากเกิน
ต้นข้าวเฉา เราเอง เป็นมนุษย์
ยากจะฉุด หยุดน้ำ น้ำตาใหล
มองต้นข้าว คราวนี้ ที่ตายไป
จะมีใคร ให้เรา เข้าพึ่งพิง
โอ้หัวอก ตกที่ มีหนี้เพิ่ม
ดุจซ้ำเติม เกินกว่า ว่ารับไหว
ลูกที่เรียน เรียกมา พาเศร้าใจ
เปิดเทอมใหม่ คงไม่ ได้เล่าเรียน
18 กันยายน 2551 17:51 น.
ลุงแทน
รุมแย่งกัน น่าขัน พลันเศร้าจิต
รุมกันจิก ไม่ผิด ดิรัจฉาน
รุมกันทึ้ง มึงกู ดูสันดาน
รุมกันผลาญ บ้านเมือง เรื่องเศร้าใจ
ร่วมแบ่งสัน ปั่นแต่ง ตำแหน่งให้
ร่วมกันไป ให้ได้ ในสิ่งหวัง
ร่วมกันอยู่ อดสู้ ผู้คนชัง
ร่วมพลัง หวังโกย โดยงบรัฐ
รมต. ของข้า อย่ามายุ่ง
รมต. ของกลุ่ม ผู้ลุ่มหลง
รมต. ทุกพรรค จักต้องตรง
รมต. ขาดหล่น คงตีกัน
แบ่งกันกิน ยินดี ที่ชาติหมอง
แบ่งกันจอง มองปราด อย่างอาจหาญ
แบ่งกันคุม รุ่มทึ้ง งบประมาณ
แบ่งกันผลาญ ชาติไทย ใช่ของเรา
เอาวิกฤต พิชิต ไม่ผิดหรอก
เอาวิกฤต ระบบ สมทบเสียง
เอาวิกฤต พวกมาก หาลำเอียง
เอาวิกฤต เป็นเพียง เสียงต่อรอง
หรือว่าเป็น ปาหี่ ที่เขาเก่ง
หรือว่าเป็น เช่นละคร ตอนชาติล่ม
หรือว่าเป็น เช่นของหวาน ผ่านกันชม
หรือว่าเป็น เศษคน หลงอบาย
16 กันยายน 2551 17:33 น.
ลุงแทน
อนิจจา การเมื่อง เรื่องฉ้อฉน
ใช้เล่ห์กล ทนด้าน การหาเสียง
ผลประโยชน์ โทษใคร ให้เบี่ยงเบน
เงินซื้อเสียง เลี่ยงตอบ ชอบธรรมา
พรรคเดียวกัน ยังแบ่ง แยกเป็นก๊ก
สกปรก กลบเกลื่อน เรื่องมัวหมอง
ไม่ได้ดั่ง ดังใจ ให้ต่อรอง
เพื่อเรียกร้อง พวกพ้อง ต้องนั่งแท่น
เพียงแค่เสียง เรียกขาน เรื่องการยุบ
ทุกปากหุบ หยุดเห่า เข้ากันได้
มาแบ่งเค็ก เสร็จสรรพ พร้อมรับใช้
ส่วนเมืองไทย เป็นไร ไม่ต้องตรอง
พันธมิตร มิชอบ ต้องสู้ต่อ
เพียงเพื่อขอ ของเก่า เราไม่สน
เอาคนใหม่ ไม่ใช่ พรรคพวกตน
พันธมิตร ประชาชน ทนได้ไง
เอาทำเนียบ เปรียบเป็น เช่นสุสาน
รัฐบาล งามหน้า หาหมองไหม้
รัฐบาล นายกใหม่ ได้สมใจ
จะเป็นใคร ขอให้ ได้อยู่คง
น่าหัวร่อ งอหาย ให้หงายหลัง
เสียงร้องดัง ฟังข้า ว่ารักชาติ
หกพรรคร่วม รวมกัน หน้าด้านด้าน
บ่งสัญชาด กากเดน เช่นคางคก
12 กันยายน 2551 21:08 น.
ลุงแทน
น่าเศร้าใจ ไม่มี ข้อหิริ
ถูกหรือผิด มิตรอง มองเหตุผล
โอตตัปปะ ละเลย เสียชาติคน
ในกมล คิดชั่ว มั่วอบาย
แม้ศีลห้า รักษา หาได้ไม่
มีหัวใจ ลามก พกเต็มขั่ว
บาปเวรกรรม จากวิบาก ไม่ขลาดกลัว
เสพความชั่ว มั่วกาม อย่างหยามใจ
อนิจจา รัฐภา สง่าเด่น
ต้องมาเป็น เช่นซ่อง รองตัญหา
ที่เสพสุข สนอง ของกามา
เทพเทวา อายหน้า พาโบยบิน
เป็นเศษเดน สังคน คนเย้ยหยัน
พวกที่หลง คารมกัน นั้นสรรเสริญ
ที่หลงผิด คิดกลับ นั้นสายเกิน
ต้องเผชิญ ชะตากรรม กระหน่ำตรม