28 กันยายน 2552 08:14 น.
ลุงเอง
* เมื่อแรกพบสบตาพาใจหวั่น
ดุจว่าฉันต้องมนต์ให้หลงใหล
กลับมาเพ้อคิดถึงเธอร่ำไป
ต้องถามใจเหตุใดให้ประวิง
* เป็นสำนวนวัยรุ่นครุ่นเรื่องรัก
มองวงพักตร์อยากทักถามทุกสิ่ง
ว่าที่เธอเพ้อพร่ำนั้นรักจริง
หรือหลงสิ่งกามาพาตรมตรอม
26 กันยายน 2552 10:55 น.
ลุงเอง
* วันวันมีแต่เรื่องให้เปลืองหมอง
ต้องคอยตรองมองหาสาเหตุแก้
มีอยู่บ้างบางวันนึกท้อแท้
เพียงแต่ไม่ยอมแพ้พ่ายเหนื่อยใจ
* คนหมู่มากหลากเรื่องเครื่องพิสูจน์
ผิดหรือถูกแยกแยะแนะแก้ไข
สิ่งใดผิดปกปิดเรื่องลามใหญ่
ต้องใช้ใจเด็ดขาดปราบชนพาล
* จะว่าใหญ่ก็ใช่ในตำแหน่ง
จะว่าเล็กแหล่งชนคนไหว้กราบ
อยู่ตรงกลางอย่างฉันใช่ชื่นบาน
ทั่วเขตคามถามทักรู้จักเรา
* ตัดสินผิดด้วยพินิจจิตหมองม่น
ตัดสินชนด้วยพินิจมิขลาดเขลา
ตัดสินแล้วยอมรับในคำเรา
ตัดสินไปในคำนั้นเป็นนาย
25 กันยายน 2552 16:01 น.
ลุงเอง
เป็นมนุษย์ หรือ เป็นคน
..เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง
เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน
ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน
ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา
ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ
ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา
เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา
เปรมปรีดา คืนวัน ศุขสันติ์จริง
ใจสกปรก มึดมัว และร้อนเร่า
ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง
เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง
แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย
คิดดูเถิด ถ้าใครไม่อยากตก
จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย
ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย
ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอยฯ....
เขียนโดย พระศุภชัย
25 กันยายน 2552 10:28 น.
ลุงเอง
* ป๊ะเท่งป๊ะป๊ะเท่ง เท่งป๊ะ
ธัมมะต่างเลยละ บ่สน
โล๊ะทิ้งความดีผละ เมินพักตร์ กันเนาะ
ฟัดกัดลานหญ้าป่น โป๊ะเชะทรามชัวร์
* ป๊ะโทนโทนโทนป๊ะ นะแม่
แยกแยะแบ่งก๊กแท้ วรนุช
ลิ้นยาวสองแฮกแฮ่ หมาเห่า เฝ้ารุม
หมายแท้อบายหลุม ชาติชั่วจัญไร
22 กันยายน 2552 22:09 น.
ลุงเอง
* ในที่สุดก็หยุดลงตรงนี้
หาใครมีที่ดอดรอดไปได้
ทุกคนเห็นเช่นกันทุกวันไป
แต่เหตุใดใยต้องหมองใจครอง
* อคติติดตามให้ใจม่น
ดุจดั่งคนบ้าใบ้ให้เศร้าหมอง
ยึดอัตตาแน่นหนักให้ตรมตรอม
ด้วยว่าครองมิจฉาทิฏฐิตน
* จงตั้งจิตใช้สติคิดหวน
สัมปัชชัญญะล้วนมองอีกหน
อย่าให้ใจถล่ำยั้งใจตน
คิดอีกหนไม่หลงกลอบาย
* ด้วยคิดถึงซึ้งยามเรายิ้มชื่น
นึกถึงคืนและวันสรรความหมาย
ร่วมทุกข์สุขเคียงบ่าสู่บั่นปลาย
อย่าได้คลายด้วยใจที่ขุ่นมัว