12 กันยายน 2552 18:08 น.
ลุงเอง
* ตะวันใกล้ลับฟ้าอีกคราแล้ว
สายลมแผ่วทักทายแม่โพสพ
สกุณากลับคอนก่อนชิงพลบ
โพระดกนกกาต่างกลับรัง
* คนที่ขายแรงงานต่างพักผ่อน
ครอบครัวพร้อมมองหน้าด้วยความหวัง
ตราบใดที่ยังมีซึ่งพลัง
จะสู่ฝั่งสร้างฝันความพอเพียง
* มองลูกน้อยที่ต้องพร้อมศึกษา
กาลเวลายาวไกลได้อ่านเขียน
ทั้งพ่อแม่พร้อมส่งให้ลูกเรียน
ขอแต่เพียงแรงกายไม่อ่อนล้า
* พ่อแม่รู้แรงงานความรู้น้อย
จึงอดออมพร้อมให้ลูกศึกษา
แม้ว่าต้องเหนื่อยร่างกายอ่อนล้า
จะฟันฝ่าอุปสรรคแม้หนักกาย
10 กันยายน 2552 21:45 น.
ลุงเอง
เปิดทีวี ดูแล้ว ให้น่าเบื่อ
มีแต่เชื้อ น้ำเน่า เคล้าเนื้อหา
ละครไทย ตั้งแต่ เริ่มมีมา
ในเนื้อหา อิจฉา แย่งสามี
จะดูข่าว หรือก็ ให้เศร้าจิต
อสรพิษ การเมือง คนมีสี
เฝ้าแต่จ้อง ล้างผลาญ คอยย่ำยี
ส่วนเนื้อหา ดีดี มีนิดเดียว
สารคดี จารีต ประเพณี
วัฒนธรรม ล้ำเลิศ ไม่เคยเหลียว
ประวัติศาสตร์ ชาติไทย ถูกปล่อยเหี่ยว
มีอย่างเดียว ข่าวหมา มากัดกัน
ข่าวโจรใต้ ไม่มี สปอร์นเซอร์
ข่าวเสนอ รุ่นแรง คงสร้างสรร
เหมือนให้มัน นั่นได้ ดีใจกัน
ที่ห่ำหั่น ผลาญฆ่า ทหารไทย
เป็นผลงาน ทีวี ที่สรรสร้าง
ใจทหาร แนวหลัง ได้ร่ำไห้
ช่างตอกย้ำ น้ำใจ ของคนไทย
ผู้นำได้ คิดใหม ข่าวต้องตรอง
เปิดทีวี ดูแล้ว ให้น่าเบื่อ
ใครไม่เชื่อ ดูได้ ในทุกช่อง
ข่าวปล้นฆ่า ยาเสพติด เปิดช่อง
ให้โจรลอง ทางรวย ช่วยสร้างงาน
9 กันยายน 2552 09:38 น.
ลุงเอง
"ธิปไตย" ความหมายว่าเป็นใหญ่
คนจึงใช้แหลกรานเรียกกล่าวขาน
กระแสแห่งโลกามาคุกคาม
ในนิยามแปรเปลี่ยนเพี้ยนจากเดิม
เอานิยามพวกมากลากเข้าหมู่
จึงไม่รู้ธรรมา มาใช้เสริม
ยึดอัตตาพวกมากลากกันเพลิน
จิตฮึกเหิมเติมช้ำแผ่นดินไทย
เห็นต่างชาติ 09-09-09 เด่นเลิศ
ชาวไทยเกิดศรัทธาพากันใช้
ฤกษจะดีงามเด่นสักเพียงใด
หากชนใดทำชั่วก็ตัวตน
ดีหรือเลวอยู่ที่การกระทำ
จะเลิศล้ำต่ำทรามด้วยเหตุผล
คนทำชั่วถือฤกษเป็นมงคล
ไม่ส่งผลให้ตนพ้นเลวทราม
วันนี้คนเราไทยได้ถือฤกษ
พิธีเปิดยิ่งใหญ่ทั่วเขตขาม
ทั้งขี้ข้าผู้ดีรีบทำตาม
ในนิยามโลกาธิปไตย
คนจะดีดีนั้นอยู่ที่เหตุ
ผลจากเหตุสุขทกข์เป็นไฉน
ให้ใช้จิตพิศตรองมองข้างใน
นั่นคือใจรู้ชั่ว-ดีเป็นพอ ฯ/
8 กันยายน 2552 08:37 น.
ลุงเอง
เมฆหมอกคลุมนภาให้หมองม่น
ทั่วสกลไร้แสงสุรีย์สี
น้ำค้างพราวยอดหญ้าเขียวขจี
สกุณีหายเงียบแม้เสียงครวญ
พฤษานิ่งยืนต้นไร้ลมแผ่ว
เสียงเจือแจ้วไก่ป่าไม่ยินหวน
สรรพสิ่งไร้เสียงให้รัญจวน
เสียงร้องครวญจากฟ้าดุจอาลัย
แม่โพสพยืนต้นไม่พ้นน้ำ
ใจครวญคร่ำชาวนาน้ำตาใหล
นั่งกอดเข่ามองเม่อเหมือนบ้าใบ้
คล้ายดวงใจสลายกลายเป็นจุล
เจ้าแมงปอหวังล้อลมโชยแผ่ว
เกาะเป็นแนวยอดหญ้าแนวคันหนุน
หวังปีนี้ขายข้าวมาค้ำจุน
ไร้การุณธรรมชาติขาดปราณี
6 กันยายน 2552 19:24 น.
ลุงเอง
เมื่อเปิดสื่อโทรทัศท์รับข่าวสาร
ให้สงสารบ้านเมื่องมีเรื่องวุ้น
ประชาชีมีแต่ความเคืองขุ่น
ไร้การุณเมตตาพึ่งพากัน
ราษฎรษ์ชั้นกลางมาชั้นล่าง
ต้องซมซานเพื่อสร้างสานความฝัน
ประครองครอบครัวให้มีกินกัน
แต่ความฝันเลือนลางความวุ่นวาย
จะกี่รัฐบาลเหมือนปีศาจ
บ้าอำนาจแบ่งแยกมีจุดหมาย
ในคราบนักการเมืองปีศาจร้าย
เพียงเพื่อหมายเสพสุขบนทุกข์คน
ไร้ธรรมาธิปไตยใจไร้ศีล
ยึดอัตตาธิปไตยสิ้นกุศล
ปิดเบือนเป็นประชาธิปไตยตน
ทั่วสกลสับสนคนการเมือง
อีกไม่ช้าคงสิ้นชาติเป็นแน่
อนาถแท้บ้านเมืองมีแต่เรื่อง
ทุกปัญหาโถมทับในบ้านเมือง
นี่เป็นเครื่องหาเลสจราจล
เมื่อวันนั้นมาถึงจึงลองเลือด
บ้านเมืองเกิดสงครามกันอีกหน
ไทยฆ่าไทยเป็นข่าวประจานตน
คงไม่พ้นวังวนกับคนไทย