12 มกราคม 2552 22:31 น.
ลิลิต
แสงจันทร์ กระจ่างสว่างใส
มองไป ใจเศร้า ให้เหงาหงอย
คิดถึง นางฟ้า ตั้งตาคอย
ใยเจ้า จึงปล่อย ให้คอยรอ
แสงจันทร์ นวลผ่อง โอ้น้องพี่
ป่านฉะนี้ หลับไหล หรือไรหนอ
เจ้าใย ใจย้ำ ทำลงคอ
เพียงจะขอ ออดอ้อน ให้อ่อนใจ
คงคิด รำคาญ ขอทานน้อย
ที่เฝ้าคอย ขอรัก จึงผลักไส
โปรดเมตตา ปราณี มีเยื่อใย
เพราะยากไร้ รักแท้ อย่างแน่นอน
ทั้งที่รู้ ว่าเธอเป็น เช่นดอกฟ้า
แต่เจ้าหมา วัดเล่า ยังเห่าหอน
เจ้าอยู่สูง เกินเอื้อม มิเสื่อมคลอน
ยากจะถอน ถอดใจ ให้เลิกลา
แสงจันทร์ กระจ่าง สว่างจิต
ขอใช้สิทธิ์ แค่คิดถึง คนึงหา
ยอมเจ็บ ยอมเหนื่อย นั้นเรื่อยมา
รอนางฟ้า มาสงสาร...ขอทานรัก..
9 มกราคม 2552 19:50 น.
ลิลิต
ไปอ่านพบ ประสบข่าว สาวเมาท์แตก
ต่างสอดแทรก เรื่องจริง ทุกสิ่งที่
อยากกลับไป เป็นเด็ก เล็กอีกที
ระริกรี้ เริงร่า ว่ากันไป
ตอนแรกก็ ไม่รู้ ดูตลก
ต่างหยิบยก กันเซ็งแซ่ มากแค่ไหน
พอรู้ข่าว เล่าขาน เป็นหลานใคร
ก็หลานมาร์ค นั่นไง ชื่อ " ไอติม "
มันทำให้ ไก่แก่ แม่ปลาบึก
ต่างคักคึก สุขขี อยากตีขิม
บ้างอยากย้อน คืนหวน ไปชวนชิม
บ้างอยากไป กินไอติม น่าลิ้มลอง
เมื่อสังคม ออนไลน์ กระจายข่าว
ใครใครก็ อยากเข้า เป็นเจ้าของ
รูปก็หล่อ เรียนก็เก่ง น่าเพ่งมอง
ผู้ชายจ้อง อิจฉา ..ไม่ว่ากัน
ได้ทุนหลวง ไปอังกฤษ คิดเรียนต่อ
โรงเรียนหนอ ชื่อเสียงดี ชื่อ " อีตั้น "
ชอบการบ้าน การเมือง เรื่องมันมัน
อนาคต ข้างหน้านั้น..ต้องมั่นคง
มาดนอบน้อม นิ่ม ๆ และยิ้มเท่ห์
สาวสาวเหล่ คลั่งไคล้ ต่างไหลหลง
สร้างกระแส รักเด็ก เรื่องเล็กลง
เด็กไทยคง ฟูเฟื่อง ให้เลื่องลือ
สาวบ้านอื่น เขาตื่นเต้น อยากเห็นหน้า
สาวบ้านกลอน นี้หนา ไม่มาหรือ
ใครอยากกลับ ไป 16 รีบยกมือ
ใครอยากกิน ไอติมหรือ..ยกมือขึ้น....
9 มกราคม 2552 12:34 น.
ลิลิต
ขาว สวย หมวย เจ๋ง ช่างเก่งนัก
ดูหน้าตา น่ารัก ชักไหลหลง
พวกผู้ชาย หมายมั่น จะฟันธง
เธอมั่นคง อยู่ได้...เพราะไหวพริบ
เมื่อคืนนี้ ที่เธอ ต้องเจอเสียว
ในซอยเปลี่ยว เลี้ยวเลียบ มันเงียบกริบ
เธอเดินลับ กลับไป ตั้งไกลลิบ
มันมืดชิบ..ริบหรี่ นี้ลางเลือน
ต้องใจหาย มีชายหนุ่ม มันซุ่มซ่าม
เสื้อรุ่มร่าม เริงร่า หน้าเชือดเฉือน
เยื้องกายย่าง ขวางกั้น อย่างฟั่นเฟือน
เปรียบเสมือน หนึ่งว่า.." ไอ้บ้ากาม "
เธอรีบวิ่ง ชิ่งหนี สุดชีวิต
มันประชิด คิดต่ำ ย่ำเหยียดหยาม
ไอ้โสโครก โรคจิต ไล่ติดตาม
เธอเกรงขาม วิ่งไม่ทัน หยุดหันรอ
ด้วยไหวพริบ เธอยังดี ไม่ชี้ด่า
ค่อยเจรจา ต่อรอง และร้องขอ
ถ้าไม่ทำ ร้ายหนู ..ดูให้พอ
ยอมเข้าหอ ขึ้นห้อง เกี่ยวข้องกัน
เธอฉลาด มันพลาดท่า จึงคว้าหมับ
เอามือจับ แขนเขา เข้าคับขัน
ลากไปหลบ ซบซอกตึก คึกคักพลัน
ทั้งสองนั้น ถอดเสื้อ เอื้ออารีย์
เธอถลก ตัวโก่ง กระโปรงรวบ
ถึงเอวอวบ อึ๋มอัด ไม่บัดสี
เขาก็รูด กางเกง เร่งทันที
ลงไปที่ ตาตุ่ม อย่างนุ่มเบา
ทายซิว่า มันจะเกิด อะไรขึ้น ????
อย่าเพิ่งมึน คิดมาก ลำบากเขลา
เธอรีบวิ่ง...วิ่ง วิ่ง ...วิ่งเป็นเงา
ส่วนมันเล่า...เท้าสะดุด..ทรุดข้างทาง
7 มกราคม 2552 20:08 น.
ลิลิต
เพราะเจ้าเป็น เพื่อนสนิท จึงคิดหนัก
เคยน่ารัก หนักหนา พาสดใส
วันนี้ผิด คิดเพี้ยน เจ้าเปลี่ยนไป
พูดอะไร ก็ไม่ถูก มันลุกลาม
เจ้าด้านดื้อ ถือดี มีเสียงด่า
ชอบวางท่า ทุ่มเถียง เลี่ยงคำถาม
เตือนตลอด ตอดติด ให้คิดตาม
แต่พอห้าม ทำโมโห มาโห่ฮา
บอกให้เดิน ไปหน้า มาหันกลับ
ให้ขยับ ชิดซ้าย กลับย้ายขวา
พอให้นั่ง กลับนอน อ่อนระอา
ให้หลับตา กลับตื่น ขึ้นเมียงมอง
พอห้ามสั่ง ยังไปสน คนสูงศักดิ์
กลับไปรัก คนที่เขา มีเจ้าของ
จึงถูกเชือด ชอกช้ำ เธอช่ำชอง
เจ้าจองหอง มองข้าม ห้ามไม่ฟัง
คงจะนึก ว่าแน่ ตัวแค่นี้
ถูกเซ้าซี้ เซ่อซ่า มัดตราสังข์
ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ กู่ไม่ฟัง
ถูกเธอฝัง พังพ่าย ร้องไห้ฮือ
เพราะเจ้าเป็น แค่ก้อนเนื้อ เพียงก้อนหนึ่ง
นึกไม่ถึง ใยจึงรั้น เพียงนั้นหรือ
ไม่ต้องมา ครวญคร่ำ น้ำตาปรือ
เพราะหัวใจ มิใช่หรือ..ที่ดื้อเอง
ไข้หวัดใหญ่ 2009
เพิ่งฟื้น จากไข้ ไม่หายขาด
โรคระบาด กันหนัก เชื้อหมักหมม
หมอให้มา พักผ่อน นั่งนอนซม
ร้าวระบม ร่ำร้อง เกินป้องกัน
ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ สองพันเก้า
ผู้คนเศร้า เฝ้าวิโยค ต้องโศกศัลย์
เจ็บป่วย ล้มตาย เป็นรายวัน
มีคำขวัญ ท่องไว้ ให้ทำตาม
กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย
เร่งกันหน่อย ช่วยตัวเอง นึกเกรงขาม
ถ้าเจ็บคอ มีไข้ หรือไอจาม
ก็ต้องหาม ส่งทันที อย่ารีรอ
สวมหน้ากาก อนามัย ให้เคร่งครัด
ถ้าเป็นหวัด รีบรักษา ไปหาหมอ
ไข้สูง สองวัน นั้นเกินพอ
ต้องไปขอ คัดกรอง มิต้องกลัว
ไข้หวัดใหม่ สายพันธุ์เก่า กลับเร้ารุ่ม
เชื้อมารุม ร้าวรวด ทำปวดหัว
อาการไอ ใจสั่น ครั่นเนื้อตัว
ลุกลามทั่ว มัวหมอง ไตร่ตรองดู
หนักยิ่งกว่า สายพันธุ์ใหม่ สองพันเก้า
เพราะใจเศร้า สั่นระรัว ถึงหัวหู
อาการ จาม ปวดใจ ไอ เลิฟ ยู
ทามิฟลู ยาป้องกัน ไม่บรรเทา
หน้ากาก อนามัย ก็ใส่แล้ว
ยังไม่แคล้ว ติดเชื้อ ต้องเชื่อเขา
แค่สบตา จับจ้อง เพียงสองเรา
เชื้อยังเข้า คุกคาม ตามติดมา
คงรักษา ไม่หาย ใจช้ำชอก
เพราะเธอบอก จบกัน เลิกฝันหา
อาการจึง ทรุดหนัก รักโรยรา
มันหนักหนา สาหัส......ไข้หวัดใจ
5 มกราคม 2552 20:28 น.
ลิลิต
ท่ามกลาง เปลวแดด อันแผดร้อน
ทรายพลิ้ว ปลิวว่อน สะท้อนไหว
แดดเผา ร้าวรุ่ม ดังสุมไฟ
หมองไหม้ หม่นหมาง หลงทางเดิน
คอเหือด แห้งผาก ลำบากเพื่อ..?
กายเนื้อ เหงื่อตก ระหกระเหิน
หิวหนัก กระหายน้ำ เหยียบย่ำเนิน
ต้องเผชิญ ลมหวน อันปรวนแปร
เวิ้งว้าง ย่างกราย สุดปลายฟ้า
ค้นหา ความหมาย ใต้กระแส-
ลมพัด ซัดกระหน่ำ ซ้ำดวงแด
เฝ้าชะแง้ หงอยเหงา เศร้างุนงง
เกือบจะขาด ใจตาย ลงวายวอด
แต่กลับรอด ชีวิต ช่างพิศวง
เมื่อมีมือ เรียวน้อย ค่อยบรรจง
หยิบยื่นส่ง น้ำใส ให้ดื่มกิน
สัมผัสมือ ยื้อหา ตาละห้อย
โอ้นางฟ้า ของข้า ฯ น้อย คอยถวิล
จากหัวใจ ที่ระทวย อ่อนรวยริน
กลับมาดิ้น ดวงแด แต่โดยดี
เพียงหยดหนึ่ง น้ำใส ของใจเจ้า
ที่คอยเฝ้า ปลอบปลุก จึงสุขขี
ขอเพียงแค่ เสี้ยวใจ ด้วยไมตรี
เพราะใจพี่ มอบให้...ไปหมดแล้ว