30 พฤศจิกายน 2551 21:43 น.
ลิลิต
ความแตกต่างระหว่างปลาสองชนิด
ให้ข้อคิดและขอบเขตของเหตุผล
จะขอเปรียบเทียบค่าคำว่าคน
แต่ละหน แต่ละครั้ง...ต่างทั้งเพ
บอกให้รู้ ปลาทูนึ่ง ซึ่งหัวเหน่ง
อยู่ในเข่ง หน้างอ ๆ คอหักเห
คนไทยเห็นเป็นอาหาร นานนมเน
จากทะเลสุดฟ้าเหลืองนั้นเลื่องลือ
ถึงกินข้าวนอกบ้านมานานบ่อย
จะอร่อยเหมือนน้ำพริกปลาทูหรือ
ปลาทูต้ม ปลาทูทอด ยอดฝีมือ
สำคัญคือ มีประโยชน์ โภชนาการ
ปลาทูเปรียบ เทียบได้ เหมือนใครนี่
ตัวอ้วนพี มีเนื้อหนา เป็นอาหาร
ถึงกินบ่อย ก็มิเบื่อ ยังเหลือบาน
พอกลับบ้าน ก็เห็นหน้า ..แต่ปลาทู
อีกปลานั้น คือปลาทอง น่ามองนัก
ตัวน่ารัก สีสลวย ช่างสวยหรู
ปลาสวยงามยามชะแง้เฝ้าแลดู
อยู่ในตู้ โปรยอาหารสำราญใจ
แต่ทำได้เพียงแค่..แลชมชื่น
จะกินกลืนฝืนลงคอ..ก็ไม่ไหว
ทั้งปลาทูและปลาทองของถูกใจ
เลือกปลาไหน ใครช่วยตอบ..จะขอบคุณ
29 พฤศจิกายน 2551 17:07 น.
ลิลิต
วันที่เลื่อน เดือนที่รอ พ.ศ.ที่รัก
จรดปัก ปลายปากกา ว่าอักษร
เขียนจดหมาย ถึงชายกลาง ย่างสัญจร
อยู่ลอนดอน หรือเที่ยวท่อง ที่ห้องกง
พี่ฝากบ้าน ทรายทอง ให้น้องนั้น
ชายไล่มัน ออกไป กลับไหลหลง
ยังปักหลัก ลักลั่น อย่างมั่นคง
อนุพงศ์ ฯ ก็ข่มขู่ อยู่เรื่อยมา
มันไปยึด ดอนเมือง เป็นเรื่องใหญ่
ทำหัวใจ ชายน้อย ละห้อยหา
เกือบจะตก เครื่องบิน สิ้นชีวา
ยึดการท่า ฯ สุวรรณภูมิ ดังตูมตาม
พัชรวาท ฯ มาดหรู ไม่รู้เรื่อง
ชายปลดเปลื้อง ตกเก้าอี้ ทำผลีผลาม
อนุพงศ์ ฯ อีกหน่อ ก็ลามปาม
ชอบมาถาม ชายให้ยุบ หรือทุบโรง
ธีรยุทธ ฯ พูดพล่าม จนพร่ำเพรื่อ
มันน่าเบื่อ ไม่เชื่อชาย ให้ตายโหง
มาเรียกกัน อยู่ด้ายยยย... ชาย กระโปรง
อ้ายเข้โขง ไม่รู้ไม่ชี้..มีที่มา
เมื่อก่อนชาย ชอบมุด กระโปรงรถ
สำรวจหมด เครื่องยนต์สั่น น้ำมันหนา
ปรับพัดลม นมหนู ดูน้ำยา
กระโปรงฝา มันหล่นพับ..ทับต้นคอ
ก่อนจะจบ จดหมายลับ ฉบับแรก
คนไทยแตก แยกเชื้อ ไม่เหลือหลอ
ทำชายน้อย พลอยเศร้า กรรมเฝ้ารอ
กลัวจริงหนอ..ไร้แผ่นดิน เป็นถิ่นตาย
ปล. ขอเล่า เพียงเท่านี้
ถามชายกลาง อย่างพี่ มีจุดหมาย
จะให้ออก หรือให้ยุบ...ทุบให้ตาย
เซ็นต์ชื่อย่อ ข้อลงท้าย....ชาย กระโปรง
29 พฤศจิกายน 2551 10:36 น.
ลิลิต
เขียนบทกลอนแต่ก่อนเก่าเคยเล่าเรื่อง
ได้คุยเฟื่องเรื่องน่ารู้ของผู้หญิง
วันนี้ขอ เปลี่ยนถ้อยค่อยท้วงติง
จะพาดพิง สิ่งน่ารู้..ของ" ผู้ชาย "
สิ่งที่ชาย ไม่ใคร่ชอบ ในชีวิต
คือความคิด ออกคำสั่ง อย่างเสียหาย
บ่นจู้จี้ ซี้เซ้า เป็นเจ้านาย
ไม่อยากได้ ให้งอนง้อ เกินพอดี
สิ่งที่ชาย ชอบใจ อยากได้พบ
หญิงประจบ พูดอ่อนหวาน ซ่านสุขขี
ยิ้มผ่องใส เอาใจเก่ง คันเร่งดี
สวยเซ็กซี่ มิมีแสร้ง ...ไฟแรงสูง
มีบางสิ่ง ผู้หญิงนั้น หมั่นเรียนรู้
ความเจ้าชู้ ของผู้ชายเหมือนควายฝูง
ต้องเชือกใหญ่ ยาวมาก ไปลากจูง
เอาสายยูง เล็กสั้น ไม่ทันกิน
นิสัยชาย คล้ายแมว ชอบแจวจุ้น
เอาหัวซุน ซุกตัก พักผ่อนผิน
มันเงียบ..ดื้อ รื้อปลาย่าง ไปนั่งกิน
ยังดีดดิ้น ลงรู ...หนูตะเภา
ผู้ชายเกลียด คำสองคำ " อย่า " และ " หยุด "
แต่คำชุด นั้นรวมรอบ ของชอบเขา
ถ้าชอบชาย ให้เอาใจ ไหลตามเรา
ต้องเลือกเอา คนไม่หล่อ..พอไปวัด
คำเตือน ผู้ชายดี..นั้นมีน้อย
กรุณา ใช้สอย อย่างประหยัด
ขอจบแต่ แค่นี้ก่อน อย่าค้อนฟัด
ชี้ชัดชัด ให้เธอรู้...เรื่องผู้ชาย..
28 พฤศจิกายน 2551 19:35 น.
ลิลิต
แค่จะเอ่ย วาจา บอกว่า " รัก "
ก็ช่างหนัก แน่นอก เหมือนยกหิน
แค่เอ่ยย้ำ คำตอบ ชอบยุพิน
ให้ได้ยิน ก็ยังยาก เสียมากมาย
แค่ได้พบ สบตา ยังขาสั่น
นัยน์ตานั้น มันลึกซึ้ง ซึ่งความหมาย
มัวอ้ำอึง อู้อี้ ทำขี้อาย
ปากตัวร้าย ใยไม่กล้า บ้าเสียจริง
ตัดสินใจ แน่แน่ว แล้ววันนี้
บอกรักแท้ แก่คนดี นี้ทุกสิ่ง
พอบอกรัก ออกไป จากใจจริง
แม่ยอดหญิง ก็ยิ้มรับ ประทับใจ
รู้อย่างนี้ บอกรักนั้น ไปนานแล้ว
เกือบทำแก้ว หลุดมือ หรือไฉน
ทำกลัวกลัว กล้ากล้า บ้าหรือไร
หมาเกือบคาบ เอาหัวใจ ไปรับประทาน
แต่ผมกลัว เธอจะหน่าย ชายคนซื่อ
คำพูดทื่อ ที่แห้งผาก ใช่ปากหวาน
ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย...ถ้วยน้ำตาล
เพิ่มความหวาน ให้ผมหน่อย...จะคอยรอ..
25 พฤศจิกายน 2551 21:26 น.
ลิลิต
บินหลาดง หลงฝูง บินสูงลิ่ว
กางปีกฉิว ลอยละล่อง จากช่องเขา
ตะวันวาย ก็หายวับ ไปกับเงา
ใจร้อนเร่า รุนแรง ดังแสงเรือง
พวกเจ้าทิ้ง รังสิ้น ร้างถิ่นที่
เพื่อปกป้อง ให้น้องพี่ นกสีเหลือง
เขาข่มขู่ คอยเข่นฆ่า พาแค้นเคือง
มันหาเรื่อง ดื้อรั้น.. อันตราย
เลือดบินหลา มาไหลหลั่ง เมื่อครั้งหนึ่ง
นกสีเหลือง เคยซาบซึ้ง ถึงความหมาย
ร่วมต่อสู้ อย่างรู้ตัว ไม่กลัวตาย
เพราะมั่นหมาย ไล่สถุล ทุนสามานย์
ถึงร้อยฝน พันแดด ที่แผดร้อน
บินหลาร่อน ระวังหน้า ผู้กล้าหาญ
เพื่อให้นก สีเหลือง เฟื่องสำราญ
ได้ขับขาน ประสานเสียง อย่างเกรียงไกร
ถึงร้อยวัน พันคืน แม้ตื่นหลับ
จะคอยนับ วันกำหนด อันสดใส
ไม่ชนะ จะไม่ร้าง หนีห่างไกล
อย่าหวั่นไหว หวาดกลัว ช่างหัวมัน
โอ้.. เจ้านก สีเหลือง กลางเมืองใหญ่
จงมีใจ ที่กล้าแกร่ง อย่างแข็งขัน
นกบินหลา จะมาสู้ เคียงคู่กัน
จากร้อยพัน เป็นหมื่นแสน....เพื่อแผ่นดิน